ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 13 จากทั้งหมด 13 หน้า แสดงรายการที่ 241 - 252 จากข้อมูลทั้งหมด 252 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
241 | ผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 เรื่อง การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชน (กระทรวงพาณิชย์) | พณ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน
๒๕๖๖ การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชน
(กระทรวงพาณิชย์) ซึ่งแจ้งว่าไม่มีมติคณะรัฐมนตรีในความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบียบที่เป็นเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการปฏิบัติงานหรือการใช้ชีวิตของประชาชนที่จะต้องยืนยันการคงอยู่ต่อไป
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
242 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. .... | นร. | 23/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของชาวประมง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการประกอบอาชีพของชาวประมงพื้นบ้าน ให้บรรลุผลอย่างเหมาะสม
เป็นธรรม โดยเร็ว คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เร่งนำร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง
พ.ศ. ๒๕๕๘ พ.ศ. .... ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการประมงทะเลเพื่อฟื้นฟูการประมงทะเลและอุตสาหกรรมการประมงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนในวันที่
๓๐ มกราคม ๒๕๖๗
|
||||||||||||||||||||||||||||||
243 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.01 | 16/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
(ก.ธ.จ.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑. ผลการดำเนินงานของ ก.ธ.จ. ทั้ง ๗๖ คณะ/จังหวัด ได้ติดตามสอดส่องการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
๒,๐๙๘
เรื่อง และมีข้อเสนอแนะ ๑,๕๗๖ ข้อ ใน ๔ เรื่อง ได้แก่ ๑)
แผนงาน/โครงการ ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ๒)
แผนงาน/โครงการของส่วนราชการในจังหวัด ๓) แผนงาน/โครงการอื่น ๆ (เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และรัฐวิสาหกิจ) และ ๔) เรื่องร้องเรียน ๒.
ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญและแนวทางการแก้ไขของ ก.ธ.จ. เช่น ๑) การปฏิบัติหน้าที่ของ ก.ธ.จ. แต่ละคณะมีความแตกต่างกันทำให้มาตรฐานในการทำงานแตกต่างกัน
แนวทางการแก้ไข ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะปรับปรุงคู่มือการปฏิบัติงานของ
ก.ธ.จ. ให้มีความเหมาะสมเป็นมาตรฐานเดียวกัน และ ๒) งบประมาณไม่เพียงพอกับการปฏิบัติงานของ
ก.ธ.จ. แนวทางการแก้ไข เช่น ให้ ก.ธ.จ. จัดทำแผนการใช้จ่ายงบประมาณภายในกรอบวงเงินที่ได้รับจัดสรร
ปรับแผนการลงพื้นที่ และหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
244 | วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 | นร.07 | 16/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ จำนวน
๓,๖๐๐,๐๐๐ ล้านบาท สำหรับงบประมาณรายจ่ายลงทุนและงบประมาณรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้มีสัดส่วนอยู่ภายในกรอบที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
245 | การพิจารณารับรองวัดคาทอลิก ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564 | วธ. | 16/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการรับรองวัดคาทอลิก จำนวน ๔๑ วัด
เป็นวัดคาทอลิกตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก
พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้กระทรวงวัฒนธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เห็นว่า ๑) ควรพิจารณาจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
(Universal Design
: UD) อย่างทั่วถึง เท่าเทียม และปลอดภัย ให้ครบทั้ง ๕ ด้าน
ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้ายสัญลักษณ์ และบริการข้อมูล
เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง สามารถประกอบศาสนกิจ
และกิจกรรมต่าง ๆ ภายในวัดคาทอลิกได้อย่างสะดวกถ้วนหน้า
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจพิจารณาจัดกิจกรรมยกย่อง เชิดชูเกียรติองค์กรศาสนาที่มีผลงานดีเด่นในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่องค์กร บุคลากร และผู้ร่วมปฏิบัติงานให้แก่องค์กรศาสนานั้น
ๆ พร้อมทั้งมีการยกย่ององค์กรศาสนาต้นแบบที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่องค์กรศาสนาอื่น
ๆ ในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมหรือให้การสนับสนุนด้านสังคม เช่น
การจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตประจำชุมชน เป็นต้น ๒) ควรให้มีรั้วแสดงขอบเขตของวัดคาทอลิกและโรงเรียนในระบบออกจากกันอย่างชัดเจน
โดยขนาดที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงเรียนที่เหลืออยู่จะต้องเป็นไปตามกฎกระทรวงการขอรับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนในระบบฯ
พร้อมทั้งให้โรงเรียนในระบบดำเนินการขอเปลี่ยนแปลงรายการในตราสารจัดตั้งและขอเปลี่ยนแปลงขนาดที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนในระบบต่อผู้อนุญาตที่กำกับดูแล
แล้วแต่กรณี หรือดำเนินการอย่างอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนกำหนดต่อไป
และ ๓) กรณีการถือครองที่ดินว่า
ถึงแม้วัดคาทอลิกจะได้รับความเห็นชอบในการจัดตั้งตามมติคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิกโดยชอบแล้ว
แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งของวัดคาทอลิกด้วยประการใด ๆ
ก็ตามซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นใหม่นั้น
วัดคาทอลิกจำเป็นที่จะต้องมีการยื่นขอความเห็นชอบดังกล่าวต่อคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิกตามระเบียบฯ
อีกครั้งหนึ่ง
รวมทั้งเห็นควรเชิญผู้แทนกรมป่าไม้เข้าร่วมเป็นองค์ประกอบในคณะกรรมการฯ
เพื่อร่วมตรวจสอบที่ดินอันเป็นที่ตั้งของวัดคาทอลิกซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อาจทับซ้อนกับพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้เกิดความชัดเจนและรัดกุมต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
246 | การจัดทำโครงการหรือกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 | นร. | 09/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๒ มกราคม
๒๕๖๗)
เห็นชอบให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดทำโครงการหรือกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ให้ถูกต้อง ละเอียดรอบคอบ เป็นไปตามโครงการและกิจกรรมที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
นั้น ขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัดการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว
โดยเชิญชวนประชาชนจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการหรือกิจกรรม
แล้วให้เสนอโครงการหรือกิจกรรมให้คณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรม
งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี
(นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) เป็นประธาน พิจารณโดยด่วนต่อไป ทั้งนี้
ขอให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์
งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การจัดงานเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวในภาพรวม
ให้รวดเร็ว ถูกต้อง และทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนได้ทราบและร่วมแสดงความจงรักภักดีในปีมหามงคลนี้อย่างพร้อมเพรียงกันด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
247 | ขออนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง (1. นายขจร ศรีชวโนทัย ฯลฯ จำนวน 14 คน) | มท. | 09/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวงมีจำนวนเกินสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
(นับรวมประธานกรรมการ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง
และกรรมการอื่นที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง) ตามมาตรา
๒๐ แห่งพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง พ.ศ. ๒๕๐๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมาตรา ๖
วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้านครหลวง รวม ๑๔ คน เพื่อทดแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
และมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๙ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายขจร ศรีชวโนทัย ประธานกรรมการ ๒. นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ กรรมการ ๓. นายสนิท ขาวสอาด กรรมการ ๔. พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ กรรมการ ๕. นายกิตติพงษ์ ภิญโญตระกูล กรรมการ ๖. พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง กรรมการ ๗. ศาสตราจารย์วีรกร อ่องสกุล กรรมการ ๘. ศาสตราจารย์ธรรมรัตน์ คุตตะเทพ กรรมการ ๙. รองศาสตราจารย์รังสรรค์ วงศ์สรรค์ กรรมการ ๑๐. นางสาวเพียงออ เลาหะวิไลย กรรมการ ๑๑. รองศาสตราจารย์จิรพล สังข์โพธิ์ กรรมการ ๑๒. รองศาสตราจารย์อัศม์เดช วานิชชินชัย กรรมการ ๑๓. นายชยกฤต อัศวธิตานนท์ กรรมการ
๑๔. นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา กรรมการ
(ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๑๒. รองศาสตราจารย์อัศม์เดช วานิชชินชัย กรรมการ ๑๓. นายชยกฤต อัศวธิตานนท์ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
248 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง (1. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ฯลฯ รวม 14 คน) | มท. | 09/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการการประปานครหลวงมีจำนวนกรรมการเกินกว่าสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
(นับรวมประธานกรรมการและกรรมการอื่นซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
และผู้ว่าการการประปานครหลวงซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา ๖ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง รวม ๑๔ คน
เพื่อทดแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้น ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ประธานกรรมการ ๒. นายโชตินรินทร์ เกิดสม กรรมการ ๓. พลโท สุเมธ พรหมตรุษ กรรมการ ๔. นายชูชาติ รักจิตร กรรมการ ๕. นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ กรรมการ ๖. นายสนิท ขาวสอาด กรรมการ ๗. ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล กรรมการ ๘. นางสาวเพียงออ เลาหะวิไลย กรรมการ ๙. นายนิทัศน์ มณีศิลาสันต์ กรรมการ ๑๐. พลตำรวจโท กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ กรรมการ ๑๑. รองศาสตราจารย์ชัยวัฒน์ อุตตมากร กรรมการ ๑๒. นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการ ๑๓. นายชัยทัต แซ่ตั้ง กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
249 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค (1. นายพรพจน์ เพ็ญพาส ฯลฯ จำนวน 8 ราย) | มท. | 09/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค
รวม ๘ คน
เพื่อทดแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
และมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙
มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑. นายพรพจน์ เพ็ญพาส ประธานกรรมการ ๒. พลโท พิเชษฐ คงศรี กรรมการ ๓. นายเผ่าภัค ศิริสุข กรรมการ ๔. นางปาณิสรา ดวงสอดศรี กรรมการ ๕. พลอากาศตรี นิพนธ์
โพธิ์เจริญ กรรมการ ๖. นายปริญญา แสงสุวรรณ กรรมการ ๗. นายพีระพันธ์ เหมะรัต กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
250 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 | คค. | 09/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. .... ) ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก
พ.ศ. ๒๕๒๒ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๒๔)
ออกตามความในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยแก้ไขเพิ่มเติมการกำหนดเอกสารและหลักฐานที่ใช้สำหรับการขอรับหรือขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
เพื่อเป็นการลดภาระและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอรับหรือขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
และกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการขอรับหรือขอต่อใบอนุญาตประกอบการขนส่งสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เพื่อให้สามารถยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบการขนส่งได้ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
251 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 29 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) | นร.11 สศช | 02/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๒๙ แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย
หรือแผนงาน IMT-GT (Joint Statement of the 29th
IMT-GT Ministerial Meeting) และเห็นชอบการมอบหมายภารกิจหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยตามแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป
และมอบหมายให้หน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยการประชุมระดับรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๒๙ แผนงาน IMT-GT จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน
๒๕๖๖ ณ เมืองบาตัม จังหวัดหมู่เกาะเรียว สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีผลการหารือและผลการประชุมที่สำคัญ
ได้แก่ (๑) ผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒๙ แผนงาน IMT-GT โดยที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์ร่วมฯ แผนงาน IMT-GT ซี่งได้มีการปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติมซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญจากร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไว้ (๒๖ กันยายน ๒๕๖๖) อาทิ
ปรับแก้ถ้อยคำกล่าวแสดงความขอบคุณสำนักเลขาธิการอาเซียนสำหรับการสนับสนุนการดำเนินงานของแผนงาน
IMT-GT อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการต่าง
ๆ ตามกรอบและความริเริ่มของอาเซียน (๒) ผลการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนความร่วมมือแผนงาน IMT-GT
ในช่วงที่ผ่านมาในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ครั้งที่ ๒๙
แผนงาน IMT-GT และการประชุมเวทีหารือระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด
(Chief Ministers and Governors Forum : CMGF) ครั้งที่ ๒๐
แผนงาน IMT-GT โดยมีผลการหารือและข้อคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุม
อาทิ การเร่งรัดการศึกษา พัฒนา
บูรณาการความร่วมมือระหว่างระเบียงเศรษฐกิจและเขตเศรษฐกิจพิเศษ
เพื่อการเติบโตที่ยืดหยุ่น ยั่งยืน และครอบคลุม
ผ่านการวิเคราะห์ประเด็นและกลยุทธ์ที่สำคัญ และ (๓) แผนการดำเนินงานในระยะต่อไป
เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนงาน IMT-GT อาทิ
เร่งสร้างรายได้การท่องเที่ยวใน IMT-GT โดยดำเนินโครงการส่งเสริมการตลาดร่วม
และการเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอนุภูมิภาคต่อไป ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็น
ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะของกระทรวงการคลัง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ (๑)
แผนการดำเนินงานในระยะต่อไปของแผนงาน IMT-GT
ข้อย่อยที่ ๑.๕ ประเด็นเครือข่ายมหาวิทยาลัย IMT-GT (UNINET)
นั้น เป็นการดำเนินงานที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงการคลังโดยตรง
แต่หากมีการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เห็นควรให้การสนับสนุนได้ (๒)
ทุกภาคส่วนควรพิจารณาสนับสนุนการพัฒนาแผนงานโครงการเชื่อมต่อทางกายภาพ (Priority
Connectivity Projects : PCPs) ของทั้งสามประเทศสมาชิกแผนงาน IMT-GT
ต่อไปด้วย และ (๓)
การสนับสนุนดำเนินงานตามแผนการดำเนินงานในระยะต่อไปของแผนงาน IMT-GT ควรปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎ ระเบียบ และข้อบังคับของแต่ละประเทศควบคู่ไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
252 | ร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ (ร่างพระราชบัญญัติสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย พ.ศ. ....) | นร 05 | 02/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการขอรับร่างพระราชบัญญัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาพิจารณาก่อนรับหลักการ
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า เมื่อสภาผู้แทนราษฎรอนุมัติให้คณะรัฐมนตรีรับร่างพระราชบัญญัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปพิจารณาก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะลงมติรับหลักการแล้ว
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาดำเนินการ
โดยให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเชิญผู้แทนกระทรวง ทบวง กรม
ที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาร่วมพิจารณาโดยด่วนให้แล้วเสร็จและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรภายในกำหนดเวลาที่ขอรับมา
ทั้งนี้ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรทราบด้วย
และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเชิญผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณร่วมพิจารณาด้วย
เพื่อให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีความสอดคล้องกับทิศทางนโยบายของคณะรัฐมนตรีและกรอบของงบประมาณ
|