ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2561 ครั้งที่ 1 | กค | 20/03/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ (แผนฯ) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ครั้งที่ ๑ ที่มีวงเงินปรับเพิ่มขึ้นสุทธิ ๘๕,๙๐๖.๔๒ ล้านบาท จากเดิม ๑,๕๐๒,๙๗๗.๐๖ ล้านบาท เป็น ๑,๕๘๘,๘๘๓.๔๘ ล้านบาท ๑.๒ รับทราบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่ต้องขออนุมัติคณะรัฐมนตรีภายใต้กรอบแผนฯ ที่มีวงเงินปรับเพิ่มขึ้น ๙,๘๓๐.๑๑ ล้านบาท จากเดิม ๑๖๑,๔๓๓.๔๕ ล้านบาท เป็น ๑๗๑,๒๖๓.๕๖ ล้านบาท ๑.๓ อนุมัติการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อการก่อหนี้ใหม่ การกู้มาและการนำไปให้กู้ต่อ และการค้ำประกันเงินกู้ให้กับรัฐวิสาหกิจ ตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งอนุมัติการกู้เงินของรัฐวิสาหกิจเพื่อดำเนินโครงการลงทุนและการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ตามนัยข้อ ๓.๔ ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ปรับปรุงครั้งที่ ๑ ๑.๔ อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน การค้ำประกันและการบริหารความเสี่ยงในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ปรับปรุงครั้งที่ ๑ ทั้งนี้ หากรัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการกู้เงินได้เอง ก็ให้สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ๑.๕ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมาย เป็นผู้ลงนามผูกพันการกู้เงินและหรือการค้ำประกันเงินกู้และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะรายงานผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าวตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๙ ๑.๖ รับทราบผลการติดตามการบริหารจัดการระบายยางพาราคงค้างของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) พร้อมทั้งมอบหมายให้ กยท. ดำเนินการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพยางพาราคงเหลือ และดำเนินการจำหน่ายยางพาราในระดับราคาที่เหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และให้ กยท. รายงานผลการดำเนินงานให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะและคณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะต่อไป ๒. ให้ กยท. เร่งดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะที่เห็นควรให้ กยท. ดำเนินการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพยาง และดำเนินการจำหน่ายยางพาราคงค้างของโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง และโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางออกสู่ตลาด โดยเร็วต่อไป โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับและติดตามการดำเนินงานของ กยท. อย่างใกล้ชิด ๓. ให้กระทรวงเจ้าสังกัดและหน่วยงานเจ้าของวงเงินกู้ ทั้งในส่วนของการดำเนินการตามแผนงานปกติและการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการที่ใช้จ่ายจากงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ กำกับและติดตามการดำเนินแผนงาน/โครงการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โปร่งใส และตรวจสอบได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรมีการกำกับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานดำเนินโครงการตามแผนและใช้จ่ายเงินตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินกู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๔. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณาความเหมาะสมของระดับหนี้สาธารณะที่สอดคล้องกับบริบทของประเทศที่อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องมีการลงทุนในแผนงาน/โครงการขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ๕. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำประมาณการการคลัง ซึ่งรวมถึงหนี้สาธารณะและงบประมาณในระยะปานกลางและระยะยาวที่สะท้อนกรอบการลงทุนในภาพรวมของประเทศ รวมถึงพื้นที่การคลังที่เหลือ (fiscal space) และให้รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อใช้ในการกำหนดกรอบแนวทางการพิจารณาจัดสรรแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมในการดำเนินโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล และเพื่อให้ภาพรวมของการบริหารงบประมาณและระดับหนี้สาธารณะเป็นไปด้วยความเหมาะสม ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยงานจัดทำภาพรวมการใช้จ่ายที่เป็นภาระผูกพันในระยะยาวโดยเฉพาะโครงการลงทุนภาครัฐ โดยให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงินในมิติต่าง ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน/การบริหารจัดการน้ำ โดยคำนึงถึงการดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศที่กำหนดไว้ และนำเสนอภาพรวมการใช้จ่ายดังกล่าวต่อกระทรวงการคลังเพื่อรวบรวมข้อมูลโดยเร็วต่อไป
|
.....