ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | รายงานผลโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปี 2559 | พม | 07/11/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานผลโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปี ๒๕๕๙ ซึ่งผลการติดตามและประเมินผล มีผลสำรวจที่ยืนยันว่าการดำเนินโครงการฯ เป็นการลงทุนกับเด็กที่คุ้มค่าเนื่องจากทำให้แม่และเด็กได้เข้าสู่บริการสาธารณสุข ส่วนผลกระทบของเงินอุดหนุนต่อการเลี้ยงดูเด็กและพัฒนาการของเด็กไม่อาจวัดผลได้ในระยะสั้น และเห็นชอบกรณีการยกเลิกเงื่อนไขที่กำหนดว่า ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดต้องไม่เป็นผู้อยู่ในระบบประกันสังคม และเริ่มดำเนินการปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ สำหรับภาระงบประมาณจากการให้สิทธิ์เด็กในระบบประกันสังคมที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปดำเนินการในโอกาสแรกก่อน หากไม่เพียงพอ ให้จัดทำรายละเอียดพร้อมแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามความจำเป็นเหมาะสมต่อไป รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลสถานะของผู้ขอรับสิทธิ์ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ อย่างแท้จริง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายและผู้ทำหน้าที่คัดกรองสิทธิ์ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงสิทธิ์ และผู้คัดกรองสิทธิ์มีความเข้าใจในหลักเกณฑ์ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และควรมีการประเมินจำนวนครัวเรือนยากจนที่อยู่ในระบบประกันสังคมที่คาดว่าจะมีสิทธิ์ขอรับเงินอุดหนุนฯ และงบประมาณที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาและการจัดสรรงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ๓. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์บูรณาการการดำเนินโครงการฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม) กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมของการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยทั้งระบบ รวมทั้งให้เร่งประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินโครงการฯ เพื่อให้สามารถนำผลการประเมินดังกล่าวไปปรับปรุงการดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริงต่อไป ๔. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้ ๔.๑ พิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงข้อมูลจากฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐของกระทรวงการคลังและฐานข้อมูลรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการกำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการฯ รวมทั้งปรับปรุงระบบการเชื่อมโยงข้อมูลการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯ ได้บรรลุตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ๔.๒ ปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบและรับรองสิทธิ์จากเดิมที่เป็นการใช้กลไกในพื้นที่โดยใช้ดุลยพินิจของผู้รับรอง เพื่อให้เกิดการเข้าถึงผู้มีสิทธิ์อย่างแท้จริง ตามข้อสังเกตจากรายงานการติดตามประเมินผลโครงการฯ ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
|
.....