ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | กรอบการเจรจาสนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาคดีอาญา และสนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญา | กต | 23/05/2560 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการกรอบการเจรจาสนธิสัญญา ๓ ประเภท ได้แก่ (๑) สนธิสัญญาว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน (๒) สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวผู้ต้องคำพิพากษาและความร่วมมือในการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาคดีอาญา (สนธิสัญญาว่าด้วยการโอนตัวนักโทษ) และ (๓) สนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญา มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะผู้แทนของฝ่ายไทยได้มีกรอบท่าทีในการเจรจาจัดทำสนธิสัญญาดังกล่าวกับประเทศหรือกลุ่มประเทศต่าง ๆ ที่มีมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และกระบวนการในการดำเนินการที่แน่นอนและไม่ขัดกับหลักของกฎหมายภายในประเทศ โดยให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดเกี่ยวกับการกำหนดกรอบการเจรจาสนธิสัญญาว่าด้วยการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญา เรื่อง ขอบเขตความร่วมมือในเรื่องทางอาญา ควรครอบคลุมประเภทของความช่วยเหลือที่เพิ่มขึ้นตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความช่วยเหลือในการคืนทรัพย์สินที่ริบและเงินที่ศาลมีคำพิพากษาให้ชำระแทนการริบทรัพย์สินตามมาตรา ๓๕/๒ เนื่องจากพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๓๕/๒ กำหนดเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวไว้เฉพาะในกรณีที่มีสนธิสัญญาทวิภาคีระหว่างไทยกับประเทศผู้ร้องขอเท่านั้น ดังนั้น หากการเจรจาสนธิสัญญาดังกล่าวในอนาคตจะสามารถพูดคุยถึงการกำหนดหลักเกณฑ์ว่าด้วยการคืนทรัพย์ตามมาตรา ๓๕/๒ ก็ย่อมจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยและประเทศคู่เจรจา ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. อนุมัติให้คณะผู้แทนฝ่ายไทยสามารถใช้กรอบการเจรจาสนธิสัญญาทั้ง ๓ ประเภท ในการกำหนดท่าทีในการเจรจากับประเทศต่าง ๆ รวมทั้งในกรอบพหุภาคี โดยให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาจัดทำสนธิสัญญาทั้ง ๓ ฉบับ และนำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป ๓. สำหรับการขออนุมัติองค์ประกอบของคณะผู้แทนฝ่ายไทยในการเจรจาสนธิสัญญาทั้ง ๓ ประเภท นั้น ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอนุมัติให้เดินทางไปราชการและการจัดการประชุมของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๒๔ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๔. ให้กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำสนธิสัญญาทั้ง ๓ ประเภท ที่ไทยได้มีการจัดทำกับประเทศต่าง ๆ ไปแล้ว การส่งผู้ร้ายข้ามแดน/การโอนตัวนักโทษที่ได้มีการดำเนินการไปแล้วภายใต้สนธิสัญญาดังกล่าวของทั้ง ๒ ฝ่าย รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่แต่ละฝ่ายไม่สามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดน/โอนตัวนักโทษให้แก่กันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่ประเทศคู่ภาคีมิได้ดำเนินการตามที่ประเทศไทยร้องขอ และให้นำข้อมูลดังกล่าวเสนอนายกรัฐมนตรีโดยด่วน
|
.....