คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
               ๑. รับทราบ (ร่าง) ยุทธศาสตร์กาแฟ ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ และ (ร่าง) ยุทธศาสตร์ชา ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ มีประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ (๑) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิต (๒) พัฒนาการแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่ม (๓) พัฒนาด้านการตลาด (๔) ด้านการวิจัยและพัฒนา และ (๕) ด้านการบริหารจัดการ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
               ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ อาทิ การสร้างแบรนด์สินค้าขอให้ผนวกการระบุถึงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไว้ด้วย รวมทั้งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับราษฎรให้ใช้พื้นที่สำหรับการเพาะปลูกในที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ หรือที่ดินของรัฐที่อนุญาตให้ราษฎรสามารถใช้ประโยชน์ได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อทำการเกษตร การมีกลไกติดตามประสาน และเชื่อมโยงผลงานวิจัยต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์อื่นๆ การเสนอร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้กับระดับจังหวัดได้รับทราบและใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานเพื่อให้การพัฒนากาแฟและชาในประเทศเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดจนการปรับกรอบระยะเวลาดำเนินการให้สอดรับกับช่วงระยะเวลาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) และ (ร่าง) แผนพัฒนาการเกษตรในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
               ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาส่งเสริมการปลูกและพัฒนาวิธีการผลิตกาแฟและชาที่เป็นที่ต้องการของตลาด รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มและเอกลักษณ์ของกาแฟและชาไทย