ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ขออนุมัติการดำเนินงานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่ประสบภัยแล้ง ปี 2559 | กษ | 05/07/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการดำเนินงานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่ประสบภัยแล้ง ปี ๒๕๕๙ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่ประสบภัยแล้ง ปี ๒๕๕๙ ให้สามารถฟื้นฟูการผลิตไม้ผลที่ได้รับความเสียหาย และเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรมีแนวทางปฏิบัติต่อสวนไม้ผลเพื่อประกอบอาชีพชาวสวนผลไม้ได้อย่างยั่งยืน โดยดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง (ไม้ผล) ๓๕ จังหวัด พื้นที่รวมทั้งสิ้น จำนวน ๓๒๘,๕๐๐ ไร่ เกษตรกร จำนวน ๙๕,๐๐๐ ราย แยกเป็นพื้นที่เสียหายสิ้นเชิง จำนวน ๒๘,๕๐๐ ไร่ เกษตรกร จำนวน ๑๑,๖๐๐ ราย และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ ไร่ เกษตรกร จำนวน ๘๓,๔๐๐ ราย ๑.๒ เห็นชอบให้กรมส่งเสริมการเกษตรใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีของกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน ๓๘ ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการฯ ๒. ส่วนรายละเอียดงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้ภาครัฐชดเชยดอกเบี้ยตามโครงการฯ ในวงเงิน ๑,๕๔๔.๗๐ ล้านบาท ประกอบด้วย ๒.๑ มาตรการขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกู้เดิมของเกษตรกร เห็นควรที่รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยแทนเกษตรกรในอัตรา ๑.๕ ต่อปี เป็นระยะเวลา ๒ ปี โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ร่วมรับภาระในส่วนที่เหลือร้อยละ ๑.๕ ต่อปี ซึ่งเทียบเคียงได้กับโครงการชำระหนี้เงินต้นและลดดอกเบี้ยเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี ๒๕๕๙/๖๐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๙ โดยเห็นควรดำเนินการเฉพาะในกลุ่มเป้าหมายตามที่ ธ.ก.ส. แจ้งยืนยันลูกค้าเดิมของ ธ.ก.ส. จำนวน ๖๖,๕๐๐ ราย (ร้อยละ ๗๐ ของเป้าหมายรวม) ในวงเงินกู้รายละไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลา ๒ ปี ภาครัฐชดเชยดอกเบี้ยในวงเงิน ๓๙๙.๐๐ ล้านบาท สำหรับเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายส่วนที่เหลือ หากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะดำเนินการให้ความช่วยเหลือ เห็นควรให้ตรวจสอบข้อมูลสินเชื่อให้ชัดเจนก่อน แล้วจึงกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือต่อไป ๒.๒ มาตรการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อลงทุนสร้างแหล่งน้ำสำรองและการบริหารจัดการน้ำ รายละไม่เกิน ๑๓๐,๐๐๐ บาท โดยให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๓ ต่อปี และเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ ๒ ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน ๓ ปี โดยช่วยเหลือเกษตรกรทั้งหมด จำนวน ๙๕,๐๐๐ ราย ภาครัฐชดเชยดอกเบี้ย ในวงเงิน ๑,๑๑๑.๕๐ ล้านบาท และมาตรการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการปลูกใหม่ทดแทนผลไม้เดิมหรือเป็นประเภทไม้ผลที่เหมาะกับสภาพพื้นที่ อัตราไร่ละไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท รายละไม่เกิน ๓๐ ไร่ โดยให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๓ ต่อปี และเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ ๒ ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน ๔ ปี โดยช่วยเหลือเกษตรกรที่เสียหายสิ้นเชิงทั้งหมด จำนวน ๑๑,๖๐๐ ราย ภาครัฐชดเชยดอกเบี้ย ในวงเงิน ๓๔.๒๐ ล้านบาท ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับสินเชื่อเพื่อลงทุนสร้างแหล่งน้ำสำรองและการบริหารจัดการน้ำ ควรพิจารณาความเหมาะสมของสภาพพื้นที่และรูปแบบที่จะสนับสนุนให้เกษตรกรลงทุน เพื่อให้คุ้มค่าและใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว และควรพิจารณาความเป็นไปได้ในการขอสินเชื่อในรูปของกลุ่มเกษตรกรรายย่อยที่มีขนาดพื้นที่เล็ก โดยขอกู้ในนามกลุ่ม ซึ่ง ธ.ก.ส. จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ประมาณ MLR-1 (ปัจจุบัน MLR ประมาณร้อยละ ๕) ซึ่งนอกจากเกษตรกรจะมีภาระสินเชื่อและดอกเบี้ยลดลงแล้ว ยังเป็นการบริหารจัดการน้ำร่วมกันภายในกลุ่ม ซึ่งจะประหยัดการใช้พื้นที่ในการสร้างแหล่งน้ำสำรองร่วมกัน ทั้งนี้ ต้องมีการคำนวณแหล่งน้ำให้เหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการใช้ของกลุ่มเกษตรกร ส่วนสินเชื่อเพื่อปลูกทดแทนไม้ผลชนิดเดิมหรือปรับเปลี่ยนเป็นไม้ผลชนิดอื่นที่เหมาะสม กรณีเกษตรกรที่เสียหายโดยสิ้นเชิง และมีหนี้เดิม แต่ได้รับการขยายระยะเวลาชำระคืนเงินกู้เดิมของเกษตรกรออกไปอีก ๒ ปี หากเข้าสู่ปีที่ ๓ และ ๔ เกษตรกรกลุ่มนี้จะมีภาระหนี้เดิมที่ต้องชำระ แต่เนื่องจากเกษตรกรบางรายอยู่ระหว่างเพาะปลูกใหม่ ซึ่งยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ จึงควรพิจารณาภาระหนี้เดิมของเกษตรกรเป็นกรณี ๆ อย่างเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงเมื่อครบระยะเวลา ๒ ปี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔. ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) |
.....