ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 เรื่อง โครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร | อก | 05/07/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เกี่ยวกับระยะเวลาการชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ตามโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร จาก “ให้ชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา ๓ ปี นับแต่ปีที่กู้ยืม” โดยขอแก้ไขเป็น “การกำหนดระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้นตามโครงการ แยกตามวัตถุประสงค์การกู้เงิน คือ หากเป็นเงินกู้เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย กำหนดชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้นไม่เกิน ๔ ปี และหากเป็นเงินกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร กำหนดชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้นไม่เกิน ๖ ปี” ในกรอบวงเงินสินเชื่อปีละ ๓,๐๐๐ ล้านบาท จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยใช้จากวงเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ของเงินกู้ยืมสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการปลูกอ้อย (เงินเกี๊ยว) เป็นระยะเวลา ๓ ปี โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้ชาวไร่อ้อยผู้กู้ชำระในอัตราร้อยละ ๒ มีโรงงานน้ำตาลเป็นผู้ค้ำประกัน ๑.๒ แนวทางปฏิบัติตามโครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อการปลูกอ้อยอย่างครบวงจร ซึ่งรวมถึงระยะเวลาโครงการ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ และสิ้นสุดการจ่ายเงินกู้ตามโครงการ ภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ คุณสมบัติของผู้ขอกู้ พื้นที่ดำเนินการ รูปแบบการกู้เงินตามโครงการ หลักประกันเงินกู้ เอกสารประกอบการขออนุมัติโครงการ ขั้นตอนการเข้าร่วมและอนุมัติโครงการ การชำระหนี้เงินกู้ และการติดตามและรายงาน ๑.๓ ให้รัฐบาลรับภาระอัตราดอกเบี้ยส่วนเกินเพื่อให้ชาวไร่อ้อยนำไปพัฒนาการปลูกอ้อยให้มีประสิทธิภาพครบวงจร ภายใต้โครงการส่งเสริมสินเชื่อเพื่อการปลูกอ้อยอย่างครบวงจร ในกรอบวงเงินงบประมาณชดเชยดอกเบี้ยประมาณ ๙๒๒.๕๐ ล้านบาท โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการ แบ่งเป็น ๑.๓.๑ กรณีกลุ่มผู้กู้เป็นเกษตรกรรายบุคคล ดอกเบี้ยโครงการ=(MRR-๒%) หรือ=๕% โดยเกษตรกรจ่าย ๒% และรัฐชดเชยส่วนต่าง ๓% ๑.๓.๒ กรณีผู้กู้เป็นกลุ่มเกษตรกร ดอกเบี้ยโครงการ=(MLR-๑%) หรือ=๔% โดยเกษตรกรจ่าย ๒% และรัฐชดเชยส่วนต่าง ๒% ๑.๓.๓ กรณีการจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร ที่ขยายการให้สินเชื่อเพิ่มเติมในการจัดซื้อรถคีบอ้อย รถแทรกเตอร์ และรถบรรทุกอ้อย เห็นควรให้ขยายสินเชื่อเฉพาะรถคีบอ้อย ส่วนรถแทรกเตอร์และรถบรรทุกอ้อย เห็นควรใช้อัตราดอกเบี้ย (MLR-๑%) หรือ=๔% และรัฐไม่ต้องชดเชยส่วนต่าง เนื่องจากรัฐได้จัดหาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำให้แล้ว ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐที่เห็นควรจัดทำประมาณการกรอบวงเงินชดเชยอัตราดอกเบี้ยที่รัฐต้องจัดสรรงบประมาณในแต่ละปีให้ชัดเจน รวมทั้งให้ติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเมื่อสิ้นสุดโครงการแล้วควรจัดให้มีการวิเคราะห์ความคุ้มค่าของโครงการเพื่อนำผลที่ได้ไปใช้ประกอบการจัดทำโครงการเพื่อสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยในอนาคต สำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการรับภาระอัตราดอกเบี้ยส่วนเกิน ให้ ธ.ก.ส. จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามค่าใช้จ่ายจริงเพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป และเห็นควรมีการวางแผนด้านการตลาดรองรับผลผลิตที่จะเพิ่มขึ้นและให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงและมีความหลากหลายนอกเหนือจากผลิตเป็นน้ำตาลทรายเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่รัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคาน้ำตาลทรายตกต่ำ และบูรณาการการดำเนินการกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ นอกจากนี้ ควรมีการกำหนดมาตรการเพื่อไม่ให้มีการขยายพื้นที่การปลูกอ้อยเพิ่มเติม แต่สนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรรายเดิมเพื่อไม่ให้เป็นภาระของรัฐบาลและกองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายในปีงบประมาณต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....