ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ | 24/05/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... รวม ๒ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎหมายในส่วนเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท การควบรวมบริษัท การจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเพื่อลดอุปสรรคและเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการกำหนดให้ผู้เริ่มก่อการตั้งบริษัทตั้งแต่สองคนขึ้นไปจะต้องยึดหลักการให้เจ้าของกิจการที่แท้จริงเป็นผู้มีสัญชาติไทย โดยมิให้คนต่างด้าวเป็นเจ้าของกิจการหรือถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินผ่านตัวแทน (nominee) ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เรื่อง การดำเนินกิจการของคนต่างด้าวในประเทศไทย) ตลอดจนให้รับความเห็นของกระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับการเพิ่มเติมถึงวิธีการบอกกล่าวการโอนหนี้ไปยังลูกหนี้ ให้มีการกำหนดนิยามให้ชัดแจ้งหรือใช้คำที่บัญญัติในกฎหมายอื่น และการกำหนดวิธีการบอกกล่าวการโอนหนี้โดยการแจ้งผ่านระบบหรือเครือข่ายซึ่งต้องประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันนั้นอาจเป็นการเพิ่มขั้นตอนและระยะเวลาจากการทำหนังสือเพียงอย่างเดียว และคำว่า “ระบบหรือเครือข่าย” เป็นคำที่ใช้วงจำกัดในกลุ่มของบุคคลผู้มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เมื่อนำมาบัญญัติในกฎหมายอาจทำให้ประชาชนไม่ทราบความหมายหรือเข้าใจความหมายคลาดเคลื่อนได้ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่า โดยที่ลักษณะการประกอบธุรกิจของประเทศไทยที่ผ่านมายังประสบปัญหาที่อาศัยช่องว่างของกฎหมาย โดยให้คนต่างด้าวเป็นเจ้าของกิจการหรือถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินผ่านทางตัวแทน (nominee) ซึ่งเป็นบุคคลมีสัญชาติไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ มีหลักการว่าการประกอบกิจการใด ๆ ในประเทศไทยจะต้องยึดหลักการให้เจ้าของกิจการที่แท้จริงเป็นผู้มีสัญชาติไทย โดยมิให้คนต่างด้าวเป็นเจ้าของกิจการหรือถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินผ่านทางตัวแทน (nominee) ซึ่งเป็นบุคคลมีสัญชาติไทย ประกอบกับปัจจุบันมีพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓๖ บัญญัติมาตรการลงโทษสำหรับบุคคลมีสัญชาติไทยที่ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท จำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย โดยกำหนดบทลงโทษทั้งจำคุกและโทษปรับไว้แล้ว ดังนั้น เพื่อให้การค้าและการลงทุนของประเทศขยายตัวโดยมิให้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม สมควรให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดกลไกหรือมาตรการเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเกิดประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป และเร่งรัดดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ดังกล่าวด้วย |
.....