คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
               ๑. เห็นชอบในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีมาตรการในการพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของบทบัญญัติของกฎหมายอยู่เสมอ โดยกำหนดประเภทกฎหมายที่จะต้องมีการพิจารณาทบทวนความเหมาะสม และกำหนดให้ผู้รักษาการตามกฎหมายเป็นผู้มีหน้าที่ในการพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของกฎหมายทุก ๕ ปีที่กฎหมายใช้บังคับ หรือเมื่อมีกรณีใดกรณีหนึ่งตามที่พระราชกฤษฎีกานี้กำหนด ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
               ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับข้อสังเกตของกระทรวงการคลังซึ่งได้พิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกาฯ แล้ว และเห็นว่าเพื่อเป็นการรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศ อีกทั้งไม่สุ่มเสี่ยงต่อการขัดต่อพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. ๒๔๙๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงควรที่จะต้องมีการพิจารณาแก้ไขโดยตัดมาตรา ๑๑ วรรคสาม ของร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าว ซึ่งเป็นการกำหนดบทบัญญัติยกเว้นเงินที่ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. ๒๔๙๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงต้องตราเป็นกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ ไปหารือร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง