ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 18/02/2558 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านความมั่นคง ๑.๑ ให้กระทรวงกลาโหมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศติดตามสถานการณ์ความไม่สงบจากการปะทะกันระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์บริเวณชายแดนเมียนมาที่ติดกับจีนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นที่อาจมีผลกระทบต่อความร่วมมือต่าง ๆ ระหว่างไทยและเมียนมา ๑.๒ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) ตรวจสอบการจดทะเบียนสมาคมของชาวโรฮิงญาว่ามีความถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ อย่างไร และพิจารณาหามาตรการดูแลกรณีดังกล่าว รวมทั้งเร่งดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ควบคุมผู้อพยพให้เพียงพอและอยู่ในสภาพที่เหมาะสมตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗ ๑.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณากำหนดกลไกในการคัดเลือกและตรวจสอบชนกลุ่มน้อยและกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีศักยภาพ โดยเน้นกลุ่มที่มีผลการเรียนที่ดีให้ได้รับสิทธิในการยื่นขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหากรณีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากจนเกิดความแออัด และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ห้องสุขาไม่เพียงพอหรือชำรุด รวมทั้งควรบริหารจัดการให้มีผู้รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยและดูแลความสะอาดในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดูแลแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอุทยานต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพที่สะอาดและปลอดภัย โดยกำหนดให้มีผู้รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและดูแลความสะอาดตามจุดต่าง ๆ รวมทั้งกำหนดมาตรการเพื่อรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวตระหนักถึงการรักษาความสะอาด และทิ้งขยะในที่ที่จัดเตรียมไว้ ๒.๓ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนที่แหล่งท่องเที่ยว เช่น แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชุมชนตามวิถีไทย ให้มีความน่าสนใจ และแจกจ่ายตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น สนามบิน สถานีรถไฟ เพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวและกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้กระจายไปตามจุดต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ๒.๔ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงวัฒนธรรม จัดทำหนังสือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยสำหรับชาวต่างประเทศในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะศิลปวัฒนธรรมของไทย และหาช่องทางจำหน่ายหนังสือดังกล่าวในต่างประเทศ หรือสนามบิน ๒.๕ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับผู้ประกอบการกำหนดแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัฒนธรรมไทยและการผลักดันเพื่อเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ด้านวัฒนธรรม เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ภาพยนตร์ชุด (Series) ไปยังตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ๒.๖ ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยออกมาตรการสินเชื่อ Nano Finance ให้กระทรวงการคลังรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการ เช่น จำนวนผู้ขอใช้สินเชื่อประเภทดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีทราบ ๒.๗ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ จัดทำมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ของผู้มีรายได้น้อยเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ นั้น ให้หน่วยงานดังกล่าวคำนึงถึงมาตรการที่เป็นการสร้างความรู้ในการใช้จ่ายเงินและการสร้างวินัยการเงินให้แก่ประชาชนเพื่อลดปัญหาหนี้สินในระยะยาวอย่างยั่งยืน ๒.๘ ให้คณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษดำเนินการให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการในพื้นที่จังหวัดที่กำหนดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการสนับสนุนและขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ๒.๙ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกำหนดมาตรการในการส่งเสริมการปลูกกาแฟและยาสูบในพื้นที่ทางภาคเหนือเพื่อทดแทนการนำเข้า รวมทั้งคิดค้นและพัฒนาสายพันธุ์เมล็ดกาแฟและยาสูบของไทยให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ๒.๑๐ ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรที่เพาะปลูกพืชชนิดเดียวกันเพื่อจัดตั้งเป็นสหกรณ์ เช่น เกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม ชาวสวนยาง ชาวนา เพื่อให้เกิดความสะดวกในการกำหนดมาตรการการช่วยเหลือของรัฐให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเกษตรกร นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการจัดตั้งและขึ้นทะเบียนบัญชีกลุ่ม/สหกรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน ทั้งนี้ การรวมกลุ่มเกษตรกรแต่ละประเภทควรมีความเป็นเอกภาพและไม่มีหลายกลุ่มในพืชชนิดเดียวกัน ๒.๑๑ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. และกระบวนการดำเนินการกับกลุ่มที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกลุ่มที่ถูกหลอกลวง การนำที่ดินกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งพิจารณาบทบัญญัติกฎหมายที่ใช้บังคับในปัจจุบันว่ามีอุปสรรคหรือครอบคลุมการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้หรือไม่ประการใด แล้วรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและกระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการปลูกป่าทดแทนในพื้นที่ป่าซึ่งได้ความเสียหายเนื่องจากการบุกรุกพื้นที่และดำเนินการให้เกิดป่าชุมชนเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับประโยชน์จากป่าและมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าเหล่านั้นให้คงอยู่และสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งจัดหาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองหรือมีที่ดินไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะปลูกตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เกี่ยวกับป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง คือ ปลูกไม้ใช้สอย ไม้กินได้ ไม้เศรษฐกิจ โดยได้รับประโยชน์จากป่าไม้ทั้งสามประเภท รวมทั้งประโยชน์ในการช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำด้วย ๒.๑๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการสนับสนุนปัจจัยการผลิตทางการเกษตรเพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนให้แก่เกษตรกร โดยเน้นการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ เครื่องจักร และเครื่องมือทำการเกษตร และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืชและสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ให้เกษตรกรนำไปเพาะปลูก รวมทั้งให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม พิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดยพิจารณาความเป็นไปได้ในการออกบัตรอเนกประสงค์ (smart card) สำหรับการโดยสารระบบขนส่งสาธารณะและซื้อปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ เป็นต้น ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำติดตามสถานการณ์ภัยแล้งอย่างใกล้ชิด และให้พิจารณากำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เช่น การขุดบ่อน้ำบาดาล การดูแลรักษาแหล่งน้ำตามธรรมชาติ หรือกำหนดเส้นทางส่งน้ำจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้น ๓.๒ ให้ทุกกระทรวงมอบหมายให้ทีมโฆษกของกระทรวงมีหน้าที่กลั่นกรองข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์รายวัน เมื่อตรวจสอบพบว่าข้อมูลที่สื่อรายงานมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ให้จัดทำเอกสารชี้แจงเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องโดยทันที รวมทั้งให้จัดทำเอกสารข่าวกระทรวงเพื่อแจกสื่อให้รับทราบถึงผลการดำเนินงานในเรื่องต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาลของกระทรวงนั้น ๆ โดยใช้ภาษาที่เข้าใจได้ง่ายเพื่อสร้างการรับรู้ต่อสาธารณชนได้อย่างชัดเจน
|
.....