ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในกระบวนการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง | ปช | 18/11/2557 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบข้อเสนอของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในกระบวนการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการ หรือวางแผนงานโครงการของส่วนราชการ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่ การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามนัยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๑๙ (๑๑) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ มาตรการเร่งด่วน ๑.๑.๑ การกำหนดนโยบายบริหาร (แผนงาน/โครงการ/งบประมาณ/บุคลากร) โดยกำหนดให้การคุ้มครองป้องกันไม้พะยูงเป็นวาระแห่งชาติ การจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับการคุ้มครองและอนุรักษ์ไม้พะยูง การกำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีไม้พะยูงอยู่ในเขตพื้นที่เร่งรัดจัดทำยุทธศาสตร์จังหวัดและกลุ่มจังหวัดเพื่อการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูงอย่างจริงจัง สำรวจและจัดทำแผนที่แสดงที่ตั้งและจำนวนของไม้พะยูงทั้งที่อยู่ในที่ดินของรัฐและในที่ดินเอกชนโดยวิธีการและเทคโนโลยีที่เหมาะสม การกำหนดให้ไม้พะยูงเป็นไม้หวงห้ามประเภท ข การจัดหาเมล็ดพันธุ์ที่ได้จากแม่ไม้ที่ผ่านการคัดเลือกว่าเป็นพันธุ์ที่ดีเพื่อให้ได้กล้าไม้พะยูงที่มีคุณภาพ และการกำหนดมาตรการสร้างแนวร่วมและเครือข่ายพิทักษ์ป่า ปลูกจิตสำนึก และสร้างความเข้าใจให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการปกป้องและรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ๑.๑.๒ การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยการเร่งเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้านให้ไม้พะยูงเป็นสินค้าห้ามผ่านแดน และการจัดเจรจา (ระดับทวิภาคี) หรือจัดประชุมระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศที่มีความต้องการไม้พะยูง หรือเกี่ยวข้องกับตลาดการค้าไม้พะยูง เพื่อหารือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และการผลักดันให้ไม้พะยูงอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนย้าย และการค้าระหว่างประเทศ ๑.๑.๓ การกำกับติดตามและดำเนินคดีทางกฎหมาย โดยการรับคดีการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูงเป็นคดีพิเศษ การสอบสวนการกระทำความผิดในคดีเกี่ยวกับป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการกระทำความผิดในคดีลักลอบตัดและค้าไม้พะยูงทุกคดีเป็นกรณีพิเศษ การจัดทำฐานข้อมูลของผู้กระทำความผิด รายการไม้ของกลาง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดอย่างเป็นระบบ การกำหนดแนวทางปฏิบัติในการดำเนินคดีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง การริบอุปกรณ์ เครื่องมือ ยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิดของขบวนการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง การกำหนดมาตรการลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำความผิด ร่วมกระทำความผิด มีส่วนรู้เห็นเป็นใจ หรือให้การสนับสนุนในคดีความผิดที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง รวมทั้งการให้สินบนและรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแสนำจับ และผู้ที่ทำการจับกุมผู้กระทำความผิดในกระบวนการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง ๑.๒ มาตรการระยะยาว ได้แก่ การกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการบริหารจัดการไม้พะยูงที่เป็นไม้ของกลางที่ได้มาจากการกระทำความผิดให้ชัดเจน โดยไม่ต้องก่อให้เกิดวงจรของการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูงอีกต่อไป รวมทั้งการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติของประเทศให้ทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยพิจารณาเพิ่มบทลงโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูงให้เทียบเคียงกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ๒. รับทราบคำสั่งรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ที่ได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชุมหารือกำหนดวิธีการและแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
|
.....