ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | สรุปสาระสำคัญรายงานการพัฒนาคนของประเทศไทย ปี 2557 | นร11 | 22/04/2557 |
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปสาระสำคัญรายงานการพัฒนาคนของประเทศไทย ปี ๒๕๕๗ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การศึกษาสำหรับคนรุ่นใหม่ ประเทศไทยได้ขยายการเข้าถึงการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับอุดมศึกษาได้มากขึ้น แต่มีจุดอ่อนสำคัญคือ คุณภาพการศึกษาของประเทศไทยตกต่ำลง World Competitiveness Report 2555-2556 จัดให้คุณภาพการศึกษาโดยรวมของประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำสุดในอาเซียน การขาดทักษะภาษาอังกฤษ รวมถึงผลผลิตของระบบการศึกษาไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน มีผู้เรียนอาชีวศึกษาน้อยเกินไป ปัญหาความไม่เสมอภาคในการเข้าถึงบริการและปัญหาคุณภาพการศึกษาที่แตกต่างกัน เยาวชนจากครัวเรือนที่มีรายได้สูงที่สุด (ควินไทล์ที่ ๕) มีโอกาสดีกว่าเยาวชนจากครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ (ควินไทล์ที่ ๑) ถึง ๖ เท่าที่จะเข้าเรียนระดับอุดมศึกษา การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนส่งผลให้เกิดความตื่นตัวในการพัฒนาแก้ไขปัญหา และเปิดโอกาสให้คนไทยได้รับการจ้างงานที่ดีขึ้น โดยแรงงานต้องมีทักษะด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ และภาษาประเทศสมาชิกอาเซียน มีคุณสมบัติที่จำเป็นต่อการจ้างงาน สามารถปรับตัว มีความพร้อมที่จะทำงานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ๒. การคุ้มครองทางสังคมและสุขภาพ ประเทศไทยมีความก้าวหน้าของบริการสุขภาพ และการคุ้มครองทางสังคม นโยบายหลักประกันสุขภาพช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ประชาชนกว่า ๕ แสนคนหลุดพ้นจากความยากจน และมาตรการการคุ้มครองทางสังคม อาทิ เรียนฟรี ๑๕ ปี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ๖๐๐-๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน เบี้ยยังชีพคนพิการ ๕๐๐ บาทต่อเดือน ส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ การตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม (One Stop Crisis Center : OSCC) ซึ่งเป็นสายด่วน (โทร ๑๓๐๐) สำหรับแจ้งเบาะแสต่าง ๆ เกี่ยวกับความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และกลุ่มด้อยโอกาส ผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงทางเพศ แรงงานเด็ก การค้ามนุษย์ การตั้งครรภ์ไม่พร้อมและก่อนวัยอันควร อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาหลายด้านจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รัฐบาลมีแผนจัดการกับความท้าทายนี้ด้วยแนวทางการคุ้มครองทางสังคมขั้นพื้นฐาน (Social Protection Floor) และมีนโยบายจะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวสำหรับผู้สูงอายุ รวมทั้งบริการทางการแพทย์เป็นสาขาหนึ่งที่จะเปิดเสรีภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ๓. ประชากรข้ามพรมแดน ประเทศไทยได้พัฒนาระบบการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติมากกว่าทศวรรษ แต่ขณะนี้ยังมีแรงงานจำนวนมากที่ไม่ได้จดทะเบียน อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการถูกละเมิดสิทธิในรูปแบบต่าง ๆ ส่วนหนึ่งของความพยายามจัดระเบียบแรงงานข้ามชาติ คือ คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบนโยบายการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for All) เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๔๘ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้เรียนหนังสือไม่ว่าจะมีสัญชาติใด พร้อมทั้งจัดสรรเงินสนับสนุนรายหัวให้ในอัตราเท่ากับเด็กสัญชาติไทย และตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ โรงพยาบาลได้รับงบประมาณสนับสนุนการรักษาพยาบาลโดยไม่คำนึงถึงสถานะทางสัญชาติ ๔. สิ่งแวดล้อม ภาคประชาสังคมเห็นว่าการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอาจนำไปสู่การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเกินขอบเขต ขณะที่กลไกในการบริหารจัดการประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและภูมิภาคยังขาดประสิทธิภาพ รวมถึงอาเซียนยังขาดการแสดงพันธะผูกพันอย่างจริงจังกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาอาเซียนได้ร่วมดำเนินการจัดการในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่ก้าวหน้ามากขึ้น อาทิ การแก้ไขปัญหาหมอกควันจากไฟป่า และการจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ๕. การพัฒนาจังหวัดรอบนอก การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้แสดงให้เห็นถึงโอกาสของการพัฒนาพื้นที่จังหวัดรอบนอก ประเทศไทยมี ๓๘ จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน ซึ่งถือได้ว่าเป็นหน้าต่างของประเทศไทยสู่อาเซียน และจะเป็นพื้นที่ที่จะส่งผลต่อการพัฒนาคนเป็นจำนวนมากในภูมิภาคต่าง ๆ หากมีการพัฒนาอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ทั้งนี้ การพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจ แผนแม่บทการเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน การพัฒนาโครงข่ายถนนและระเบียงเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงจุดต่าง ๆ ในภูมิภาค จะทำให้เมืองที่อยู่ตามเส้นทางเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากการค้าชายแดนและการลงทุนที่ขยายตัว ๖. ความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน ประเด็นด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ได้แก่ การฟอกเงินข้ามชาติ การค้าผู้หญิงและเด็ก ความมั่นคงทางพลังงานและอาหาร การกระทำอันเป็นโจรสลัดระหว่างประเทศ และความมั่นคงทางทะเล การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้แสดงให้เห็นถึงโอกาสของการเรียนรู้เรื่องความมั่นคงในรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความร่วมมือประเทศสมาชิกในการติดตามการระบาดของโรคซาร์สในปี ๒๕๔๖ และไข้หวัดนกในปี ๒๕๔๗ การให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคเพื่อต่อสู้กับการค้ามนุษย์ การจัดตั้งอนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้าย การจัดตั้งสถาบันอาเซียนเพื่อสันติภาพและความสมานฉันท์ การจัดตั้งคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนด้านสิทธิมนุษยชน การจัดตั้งคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและเด็ก ๗. ชุมชน ประวัติศาสตร์ และประชาชน ประเทศอาเซียน ความหลากหลายทั้งภาษา ชาติพันธุ์ ระดับความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ระบบการเมือง ศาสนา การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้แสดงให้เห็นถึงโอกาสของการพัฒนาชุมชน ภาคประชาชน และความเป็นประชาคม ภายใต้คำขวัญที่ว่า อาเซียนมีหนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งอัตลักษณ์ และหนึ่งประชาคม นอกจากนี้ เสาการเมืองและความมั่นคงให้ความสำคัญกับชุมชนที่เอื้ออาทรและแบ่งปันกัน ๘. ดัชนีความก้าวหน้าของคน [Human Achievement Index (HAI)] สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nation Development Programme : UNDP) ประเทศไทยได้จัดทำ HAI ตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ เพื่อเปรียบเทียบสถานการณ์การพัฒนาคนในระดับจังหวัด ชี้ให้เห็นจังหวัดที่มีความก้าวหน้าและล้าหลัง โดยมี ๔๐ ตัวชี้วัดที่ครอบคลุมการพัฒนาคนใน ๘ มิติ ประกอบด้วย สุขภาพ การศึกษา การจ้างงาน รายได้ สภาพแวดล้อมของผู้ที่อยู่อาศัยและการดำรงชีพ ครอบครัวและชีวิตชุมชน การคมนาคมและสื่อสาร และการติดต่อสัมพันธ์มีส่วนร่วมในสังคม จากผลการคำนวณ HAI ปี ๒๕๕๗ พบว่ากรุงเทพมหานครมีความก้าวหน้ามากที่สุด จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความก้าวหน้าเป็นอันดับที่ ๒ และมีจังหวัดนนทบุรี ตรัง พะเยา นครนายก นครปฐม สงขลา พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม ติดอยู่ในสิบอันดับตามลำดับ |
.....