ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | แนวทางการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในภาคอุตสาหกรรม | อก | 08/10/2556 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบแนวทางการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในภาคอุตสาหกรรม ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้เชิญผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ยางในภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมยางล้อ ถุงมือยาง ยางยืด ยางที่ใช้งานวิศวกรรม และยางแปรรูปขั้นต้น มาประชุมเพื่อหารือร่วมกันถึงแนวทางในการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในภาคอุตสาหกรรมและการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางในประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๖ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.๑ กระทรวงอุตสาหกรรมได้วางเป้าหมายการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในภาคอุตสาหกรรมในปี ๒๕๕๗ โดยประมาณการจากการขยายตัวของปริมาณการใช้ยางพารา ปี ๒๕๕๖ รวมกับปริมาณการใช้ยางพาราจากโรงงานที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่จะเปิดดำเนินการในปี ๒๕๕๗ จำนวนทั้งสิ้น ๗๕๐,๐๐๐ ตัน เพิ่มขึ้นจากการประมาณการในปี ๒๕๕๖ ที่ ๕๒๗,๐๐๐ ตัน คิดเป็นร้อยละ ๔๒.๓๒ ๑.๒ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการขยายปริมาณการใช้ยางพาราในประเทศในภาคอุตสาหกรรมในปี ๒๕๕๗ และพร้อมให้ความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการเร่งการใช้ยางในประเทศตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งเป้าหมายไว้ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ยังต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยได้เสนอแนวทางการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งมาตรการที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือในแต่ละด้าน ประกอบด้วย ๑.๒.๑ ด้านการส่งเสริมการลงทุน ได้แก่ เร่งพิจารณาคำขอส่งเสริมการลงทุนและการชักจูงการลงทุน และพิจารณาปรับเงื่อนไขให้โอกาสผู้ลงทุนเดิมสามารถรับสิทธิประโยชน์ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่ทั้งหมด กลั่นกรองการให้การส่งเสริมการลงทุนกับบริษัทข้ามชาติ และคงการให้การส่งเสริมกิจการเกี่ยวกับยางแปรรูปขั้นต้นในยุทธศาสตร์การลงทุนใหม่ ๑.๒.๒ ด้านมาตรฐาน ได้แก่ เร่งกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ยางล้อ มาตรฐานอาเซียน (ASEAN Standard : UNECE Regulation No. 30, 54 และ R 75) ให้เป็นมาตรฐานบังคับ วาง Road Map ในการดำเนินการด้านมาตรฐานและยุทธศาสตร์การเจรจาในกรอบมาตรฐานอาเซียน จัดตั้งห้องทดสอบ สนามทดสอบ และการรับรองมาตรฐานสากลให้ครอบคลุมถึงมาตรฐานใหม่ของยุโรป (UNECE Regulation No. 117) จัดตั้งองค์กรที่ดูแลอุตสาหกรรมถุงมือยางครบวงจร สนับสนุนงบประมาณให้ผู้ประกอบการเดินทางไปเข้าร่วมร่างมาตรฐาน International Organization for Standardization’s Technical Committee (ISO/TC 45) (Rubber and Rubber Products) กับองค์กรมาตรฐานระหว่างประเทศ ๑.๒.๓ ด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ได้แก่ จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนในด้านการวิจัยขั้นพื้นฐานและการวิจัยที่มีลักษณะเป็นการแก้ปัญหาการผลิตในอุตสาหกรรม ลดต้นทุน และสร้างสินค้าให้มีมาตรฐานสูง จัดตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางการดำเนินงานเพื่อใช้งบประมาณในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร เทคโนโลยี และขยายกำลังการผลิต ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านการแปรรูปยาง ๑.๒.๔ ด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ส่งเสริมให้ความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ เช่น การอำนวยความสะดวกในการตั้ง/ขยายโรงงาน การขออนุญาตนำเข้าสินค้า เครื่องจักร และการออกใบอนุญาตต่าง ๆ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเจรจากับประเทศตุรกีที่ใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping) กับสินค้ายางยืดจากไทย ส่งเสริมการส่งออกผ่านระบบแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประเทศ หน่วยงานของรัฐช่วยจับคู่ธุรกิจโดยให้มีข้อมูลด้านผู้ผลิตเครื่องจักรหรือจัดให้มีการพบกันระหว่างโรงงานผลิตยางพารากับผู้ผลิตเครื่องจักร สนับสนุนระบบประกันภัยโรงงาน ให้การยางแห่งประเทศไทยอำนวยความสะดวกในการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การขออนุญาตของผู้ประกอบการให้เป็นแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) และส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มในรูปแบบคลัสเตอร์ (Cluster) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ๑.๒.๕ ด้านนโยบาย ได้แก่ ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ยางที่ผลิตในประเทศโดยผ่านการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐหรือสร้างแรงจูงใจในการใช้สินค้า “Made in Thailand” การบูรณาการนโยบายอุตสาหกรรมยางระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราทั้งระบบ ๑.๒.๖ ด้านอื่น ๆ ได้แก่ ทบทวนร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... โดยให้ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางขั้นปลาย (CESS) ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการวางแผนทั้งระยะสั้น กลาง และยาว ที่จะต้องพิจารณาให้ครอบคลุมการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมต่อเนื่องเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ยางไทยอย่างมีประสิทธิภาพ และมีมาตรการที่ชัดเจนถึงแนวทางการเพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราในภาคอุตสาหกรรม การพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางควรมีการแบ่งประเภทให้ชัดเจนเพื่อการดำเนินงานก่อนหลังโดยพิจารณาจากปัจจัยที่ประเทศไทยมีเทคโนโลยีและผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพตามประเภทของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง และส่งเสริมการนำนวัตกรรมไปสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมยางให้เกิดอุตสาหกรรมคลื่นลูกใหม่ที่สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำข้อเสนอของภาคเอกชนและแนวทางการดำเนินการของภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการที่มีความชัดเจนในการส่งเสริมการเพิ่มปริมาณการใช้ยางในภาคอุตสาหกรรมได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งการศึกษาวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยางให้สามารถใช้ประโยชน์จากยางธรรมชาติได้อย่างคุ้มค่า และร่วมกับภาคเอกชนในการขับเคลื่อนมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
.....