ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการงานบริการและการส่งสินค้าข้ามแดนเพื่อการค้าระหว่างประเทศ" | สสป | 01/10/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เรื่อง "ยุทธศาสตร์การบริหารจัดการงานบริการและการส่งสินค้าข้ามแดนเพื่อการค้าระหว่างประเทศ" และรับทราบความเห็น ผลการพิจารณา และผลการดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กองบัญชาการกองทัพไทย กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การพาณิชย์ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน สำนักผู้แทนการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยในส่วนความเห็นและข้อเสนอแนะของสภาที่ปรึกษาฯ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินการด้านเชิงนโยบาย ได้แก่ ๑.๑ ดำเนินยุทธศาสตร์การพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านแบบองค์รวม ๑.๒ จัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นตรงต่อสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ในการวางแผนและบริหารจัดการพื้นที่จังหวัดชายแดนที่เป็นประตูเศรษฐกิจการค้าและงานบริการ โดยมีการจัดตั้งในระดับภูมิภาคและระดับท้องถิ่นในจังหวัดที่มีการค้าชายแดน เพื่อปฏิบัติการและอำนวยความสะดวกในการบริหารจัดการการค้าชายแดน ๑.๓ เร่งรัดแก้ไข จัดทำ และเจรจา ข้อตกลง เงื่อนไข กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และดำเนินงานตามข้อตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นมาตรฐานสากล ๑.๔ เร่งดำเนินการปรับปรุงพิธีการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าชายแดนให้สอดคล้องกับกฎระเบียบองค์การการค้าโลก (WTO) และข้อตกลงความร่วมมืออาเซียน รวมถึงข้อตกลงความร่วมมือในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาค ๑.๕ ควรพิจารณากำหนดนโยบายจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน พร้อมกับผลักดันร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ๑.๖ เร่งดำเนินการพัฒนาองค์ความรู้ และทักษะในด้าน ๆ แก่บุคลากรให้มีศักยภาพ ๑.๗ จัดตั้งศูนย์ข้อมูลที่เกี่ยวกับแผนการพัฒนาเขตพื้นที่จังหวัดชายแดน ในทุกด้านทั้งการวางแผนผังภูมิประเทศ อาคารสถานที่ต่าง ๆ พร้อมรูปแบบโครงสร้างการบริหารจัดการงานบริการ และการบริหารจัดการส่งสินค้าข้ามแดน ๑.๘ ส่งเสริมสนับสนุนให้นักลงทุนไทยมีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ๑.๙ ส่งเสริมสนับสนุนการจัดตั้ง เมืองคู่แฝดทางการค้าระหว่างจังหวัดชายแดนกับจังหวัดในประเทศเพื่อนบ้าน ๑.๑๐ ส่งเสริมการลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชนที่เกี่ยวกับพื้นที่การพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพสินค้า ประกอบด้วยอาคารโกดังสินค้า พื้นที่การค้า เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณการลงทุน ๒. การดำเนินการด้านเชิงการบริหารจัดการ ได้แก่ ๒.๑ การบริหารจัดการงานบริการ โดยเร่งดำเนินการก่อสร้างอาคารและสถานที่ต่าง ๆ เช่น อาคารบริการด้านสินค้าและบุคคลแบบเบ็ดเสร็จ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า สถานีตรวจปล่อยสินค้า พื้นที่ขบวนการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพสินค้า ถนน ระบบรางและสะพานในจังหวัดที่ขาดความพร้อม เช่น ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก บ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี บ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้ว ๒.๒ การบริหารจัดการส่งสินค้าข้ามแดน โดย ๒.๒.๑ ดำเนินการพัฒนา ปรับปรุง โครงสร้างพื้นฐาน ถนน ระบบราง และสะพาน เพื่อให้การบริหารจัดการระบบการขนส่งสินค้าและคนให้ไหลเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเร่งรัดการพัฒนาระบบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ให้สามารถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะทางบก ทางราง และทางน้ำ รวมทั้งพัฒนาการขนส่งระบบราง เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในระบบโลจิสติกส์ให้มีต้นทุนการขนส่งต่ำลงสามารถแข่งขันได้ ด้วยการขยายเส้นทางเชื่อมต่อระบบรางไปถึงพื้นที่จังหวัดชายแดนที่สำคัญ ๆ ที่เป็นประตูเศรษฐกิจการค้า และงานบริการ ตลอดจนปรับปรุงการวางผังเมือง การจัดภูมิประเทศ อาคารสถานที่ต่าง ๆ และโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่จังหวัดชายแดน เพื่อรองรับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ ๒.๒.๒ ดำเนินการพัฒนา ปรับปรุง สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการบริหารจัดการงานบริการ โดยเร่งรัดการนำเทคโนโลยีระบบสารสนเทศ พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้เอกสารมาใช้ในการนำเข้าส่งออก เร่งจัดทำข้อตกลงทวิภาคีกับประเทศเมียนมาร์ กัมพูชา มาเลเซีย ในการเดินรถทุกประเภท และในกรณีที่มีการตรวจปล่อยสินค้า ที่จำเป็นต้องมีใบรับรองประเภทต่าง ๆ ที่ต้องสำแดง ณ ด่านศุลกากรกรุงเทพฯ เมื่อมีการตรวจปล่อยที่ด่านอื่น ๆ โดยเฉพาะประตูเศรษฐกิจการค้าและบริการที่เชื่อมต่อ ๔ ประเทศเพื่อนบ้าน ควรมีการปรับปรุงข้อกำหนดให้ยืดหยุ่นกับสถานการณ์การส่งออกในด้านนี้ด้วย ๒.๒.๓ ดำเนินการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจการค้าชายแดน โดยส่งเสริมสนับสนุนให้มีการพัฒนาองค์ความรู้ และข้อมูลให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจการค้าชายแดนเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงความรู้ด้านการพัฒนาด้านการผลิตของผู้ประกอบการรายย่อย ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการรวมตัวของผู้ประกอบการ ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนด้านเงินลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการ โดยผ่านระบบของธนาคารในเครือของรัฐ
|
.....