ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ขออนุมัติโครงการความร่วมมือจัดทำข้อเสนอนโยบายด้านการศึกษาของประเทศไทย โดย UNESCO ร่วมกับ OECD | ศธ | 28/05/2556 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ดังนี้ ๑.๑ โครงการความร่วมมือจัดทำข้อเสนอนโยบายด้านการศึกษาของประเทศไทย โดยองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization : UNESCO) ร่วมกับองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (The Organization for Economic Cooperation and Development : OECD) มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาและประสิทธิภาพการศึกษาให้ได้มาตรฐานสากล การเรียนรู้อย่างเท่าทันต่อสภาวการณ์ปัจจุบัน และอนาคต ๑.๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือผู้ที่รัฐมนตรีมอบหมายเป็นผู้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) และองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น จำนวน ๑๐,๔๐๐,๐๐๐ บาท หรือ ๒๕๒,๐๐๐ ยูโร (อัตราแลกเปลี่ยน ๓๙.๙๘ บาทต่อ ๑ ยูโร) ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา แผนงานสร้างและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึงและเป็นธรรม ผลผลิตนโยบายและแผนด้านการศึกษา งบรายจ่ายอื่น รายการค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย ยุทธศาสตร์ และติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของชาติที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว และยังมีเงินคงเหลือเพียงพอไปดำเนินการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันในความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา และองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ข้อ ๕ โดยที่ UNESCO มีสถานะเป็นทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ จึงสามารถอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันได้ตามอนุสัญญาว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันของทบวงการชำนัญพิเศษ ค.ศ. ๑๙๔๗ (อนุสัญญาฯ ๑๙๔๗) ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและมีพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสหประชาชาติและทบวงการชำนัญพิเศษในประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๐๔ เป็นกฎหมายรองรับพันธกรณี ดังนั้น ในหลักการร่างความตกลงฯ จึงไม่ควรมีข้อบทใด ๆ ที่กำหนดพันธกรณีเกินกว่าที่ไทยมีอยู่กับทบวงการฯ ตามอนุสัญญาฯ ๑๙๔๗ นอกจากนี้ การกำหนดให้ UNESCO และ OECD เป็นเจ้าของสิทธิ์ในรายงานผลการจัดทำข้อเสนอนโยบายด้านการศึกษาของประเทศไทย ส่วนประเทศไทยจะได้รับเพียงสิทธิ์ในการทำสำเนา ใช้ และแจกผลงานภายใต้วัตถุประสงค์ที่มิใช่ในเชิงพาณิชย์เท่านั้น (ข้อ ๔ ของความตกลงฯ) อาจไม่เหมาะสม เนื่องจากรัฐบาลไทยเป็นผู้ว่าจ้างให้มีการศึกษา ไปพิจารณาดำเนินการและเจรจากับ UNESCO และ OECD เพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุด ๔. ให้กระทรวงศึกษาธิการนำผลที่ได้จากโครงการความร่วมมือจัดทำข้อเสนอนโยบายด้านการศึกษาของประเทศไทย โดย UNESCO ร่วมกับ OECD ไปใช้ในการพัฒนาปรับปรุงระบบการเรียนการสอนของประเทศไทยต่อไปด้วย |
.....