ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. 2548 - 2553) | นร01 | 11/12/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ หลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรมสำหรับผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง (พ.ศ. ๒๕๔๘-๒๕๕๓) ๑.๑.๑ เงินเยียวยาการถูกจำกัดเสรีภาพ ๑.๑.๑.๑ กรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือกรณีศาลมีคำสั่ง/คำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้อง ให้ได้รับเงินเยียวยาเท่ากับจำนวนระยะเวลาที่ถูกควบคุมหรือคุมขัง อัตราวันละ ๔๑๑ บาท ๑.๑.๑.๒ กรณีศาลมีคำสั่ง/คำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกแต่ถูกควบคุมหรือคุมขังเกินกว่าระยะเวลาให้จำคุก ให้ได้รับเงินเยียวยาเท่ากับจำนวนระยะเวลาที่ถูกควบคุมตัวเกินกว่าระยะเวลาให้จำคุก อัตราวันละ ๔๑๑ บาท ๑.๑.๒ เงินเยียวยาความสูญเสียทางด้านจิตใจ ๑.๑.๒.๑ กรณีพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือกรณีศาลมีคำสั่ง/คำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้อง และได้ถูกควบคุมหรือคุมขังก่อนพนักงานอัยการมีคำสั่ง หรือก่อนศาลมีคำสั่ง/คำพิพากษา เป็นระยะเวลาเกินกว่า ๙๐ วัน แต่ไม่เกิน ๑๘๐ วัน อัตรา ๗๕๐,๐๐๐ บาทต่อราย และระยะเวลาเกินกว่า ๑๘๐ วัน อัตรา ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาทต่อราย ๑.๑.๒.๒ กรณีศาลมีคำสั่ง/คำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกแต่ถูกควบคุมหรือคุมขังเกินกว่าระยะเวลาให้จำคุก เป็นระยะเวลาเกินกว่า ๙๐ วัน แต่ไม่เกิน ๑๘๐ วัน อัตรา ๕๐๐,๐๐๐ บาทต่อราย และระยะเวลาเกินกว่า ๑๘๐ วัน อัตรา ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทต่อราย ๑.๑.๓ ผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้ ๑.๑.๓.๑ ให้ผู้ที่ถูกดำเนินคดี และถูกจำกัดเสรีภาพ ตามที่ศาลได้มีหมายควบคุมหรือหมายขัง หรือตามที่กฎหมายกำหนด โดยวิธีการควบคุมหรือคุมขังในเรือนจำ หรือสถานที่ที่ใช้ควบคุมหรือคุมขังของทางราชการ หรือสถานที่ที่ทางราชการหรือศาลกำหนดให้ใช้เป็นสถานที่ควบคุมหรือคุมขัง ซึ่งพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือศาลมีคำสั่ง/คำพิพากษาถึงที่สุด ให้ยกฟ้อง หรือให้จำคุก แต่ถูกควบคุมหรือคุมขังเกินกว่าระยะเวลาให้จำคุก เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา โดยการคำนวณระยะเวลาควบคุมหรือคุมขัง ให้นับวันเริ่มควบคุมหรือคุมขังรวมคำนวณเข้าด้วย และให้นับเป็นหนึ่งวันเต็ม โดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนชั่วโมง กรณีที่ถูกควบคุมหรือคุมขังในคดีเดียวกันเป็นหลายช่วงระยะเวลา ให้นำระยะเวลาควบคุมหรือคุมขังทุกช่วงระยะเวลา รวมคำนวณเป็นระยะเวลาควบคุมหรือคุมขัง ทั้งนี้ สิทธิได้รับเงินเยียวยาจะไม่มีการตกทอดทางมรดกไปยังทายาทตามกฎหมายอื่นๆ ของผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาที่เสียชีวิตไปแล้ว ๑.๑.๓.๒ กรณีที่บุคคลใดเป็นผู้ที่ถูกดำเนินคดี มากกว่าหนึ่งคดี อันเนื่องมาจากได้กระทำการใดอันเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรมต่างกัน ให้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยา เมื่อพนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือศาลมีคำสั่ง/คำพิพากษาถึงที่สุด ทุกคดีแล้ว ทั้งนี้ การคำนวณระยะเวลาควบคุมหรือคุมขัง ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง มิให้คำนวณระยะเวลาซ้ำซ้อน โดยเทียบเคียงการคำนวณตามข้อ ๑.๑.๓.๑ โดยอนุโลม ๑.๑.๓.๓ ผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาจะได้รับเงินเยียวยาก็ต่อเมื่อได้ดำเนินการอื่นๆ ตามที่กำหนดไว้ภายใต้หลักเกณฑ์นี้ครบถ้วนเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ๑.๑.๓.๔ ให้นำจำนวนเงินช่วยเหลือหรือชดเชยอื่นๆ จากภาครัฐทั้งหมดอันเนื่องมาจากมูลเหตุหรือความเสียหายเช่นเดียวกันกับการถูกจำกัดเสรีภาพตามหลักเกณฑ์นี้ที่ผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาได้รับไปแล้ว (ถ้ามี) มาหักออกจากจำนวนเงินเยียวยาที่จะได้รับภายใต้หลักเกณฑ์นี้ และเมื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาได้รับเงินเยียวยาภายใต้หลักเกณฑ์นี้แล้ว ให้ถือว่าสิทธิที่จะได้รับเงินเยียวยาหรือช่วยเหลือหรือชดเชยอื่นๆ จากภาครัฐเป็นอันระงับสิ้นไป ๑.๒ ประมาณการผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่เหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประมาณปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๘ จนถึงเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓ จำนวน ๕๐๐ ราย และประมาณการงบประมาณในวงเงิน ๓๐๐ ล้านบาท ๑.๓ ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาและเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณ ๒. ส่วนเรื่องงบประมาณ ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๒๙๗,๗๖๐,๗๐๐ บาท ที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงการคลังให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน ๕๐๐ ราย ดังกล่าว และให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป สำหรับค่าใช้จ่ายบริหารจัดการนั้น ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งเมื่อทราบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงแล้ว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้คณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้พิจารณาเพิ่มเติมมาตรการด้านการปรับทัศนคติของผู้เสียหายให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างสมานฉันท์ รวมทั้งการสร้างหลักประกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นการค้ำจุนผู้ได้รับผลกระทบในระยะยาว ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
.....