ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ร่างกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย - สหภาพยุโรป | พณ | 04/12/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ที่จะใช้ในการเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งครอบคลุมถึงความตกลงด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยกรอบการเจรจาจะครอบคลุม ๑๗ ประเด็น ได้แก่ การค้าสินค้า พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า มาตรการเยียวยาทางการค้า มาตรการปกป้องด้านดุลการชำระเงิน มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า การค้าบริการ การลงทุน การระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐ ทรัพย์สินทางปัญญา การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ความโปร่งใส การแข่งขัน การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน ความร่วมมือ และอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้เสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙๐ วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป ๒. รับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วนในเรื่องการจัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ว่า ภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจมีความเห็นว่า การเจรจาต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังเพื่อให้การเจรจามีประโยชน์มากที่สุด จัดให้มีมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน และต้องเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และเป็นระบบ โดยประเด็นที่มีความห่วงกังวลมากที่สุด ได้แก่ การมีข้อผูกพันเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาที่เกินไปกว่าที่ตกลงไว้แล้วในองค์การการค้าโลกที่จะก่อให้เกิดการผูกขาดการเกษตรอย่างครบวงจร กระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และวิถีชีวิตของชุมชนและเกษตรกรรายย่อย รวมถึงอุปสรรคต่อการใช้มาตรการสิทธิเหนือสิทธิบัตรยาและการเข้าถึงยาจำเป็นของประชาชน การเปิดเสรีเครื่องดื่มสินค้าแอลกอฮอล์ และบุหรี่จะทำให้มีการบริโภคมากขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างกว้างขวาง รวมทั้งการสูญเสียฐานทรัพยากรของประเทศ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ๓. ให้ประธานผู้แทนการค้าไทยเป็นหัวหน้าคณะในการเจรจาตามกรอบการเจรจาในเรื่องนี้ ๔. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขัน อาทิ เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กฎระเบียบ และเงื่อนไขการลงทุนที่ชัดเจนเพื่อดึงดูดและรองรับการลงทุนจากสหภาพยุโรปและจากประเทศอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กับกระบวนการเจรจา การใช้ช่องทางการจัดทำความตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมในการผลักดันความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายโอนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของภาคเอกชนไทยและต่อยอดความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ (Comparative advantage) เพื่อขยายโอกาสของไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การเตรียมความพร้อมในเรื่องมาตรการรองรับและปรับตัว ตลอดจนมาตรการเยียวยาต่อการค้าสินค้าและการค้าบริการ อาทิ มาตรการสินเชื่อเพื่อการปรับตัว มาตรการกำกับดูแลการลงทุนให้มีการแข่งขันอย่างเท่าเทียม การเสริมสร้างการรวมกลุ่มของเกษตรกรรายย่อยและผู้ประกอบการขนาดย่อมให้มีความเข้มแข็งและมีอำนาจต่อรอง การพัฒนาระบบสารสนเทศให้มีข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี การผลิต การตลาด ราคาสินค้า ข้อตกลงต่าง ๆ ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีต่าง ๆ และคู่มือการปฏิบัติในการใช้สิทธิประโยชน์ความตกลงการค้าเสรีต่าง ๆ นอกจากนี้ เห็นควรพิจารณาเสนอความร่วมมือจากสหภาพยุโรปในสาขาต่าง ๆ ที่สหภาพยุโรปมีความเชี่ยวชาญเพื่อเป็นประโยชน์กับไทย อาทิ การพัฒนาระบบทดสอบมาตรฐานสินค้า รวมทั้งหารือกับภาคเอกชนในการกำหนดท่าทีของไทยต่อประเด็นต่าง ๆ โดยให้ความสำคัญกับประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการเข้าถึงยาจำเป็นของประชาชน และการเปิดเสรีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะไวน์ ซึ่งสหภาพยุโรปมีศักยภาพในการส่งออก เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินต่อไปด้วย ๕. ให้คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ติดตาม ศึกษา และวิเคราะห์การเจรจาในเรื่องดังกล่าว แล้วชี้แจงให้ทุกภาคส่วนมีความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างถูกต้อง |
.....