ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับประเทศหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี และสหรัฐอเมริกา) | กต | 18/09/2555 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับประเทศหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี และสหรัฐอเมริกา) ได้แก่ ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๕ ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ ๒ ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ ๕ ผลการประชุมรัฐมนตรีมิตรของประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ ๒ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๐ - ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ ๔๕ ณ กรุงพนมเปญ และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปสาระสำคัญของผลการประชุมต่าง ๆ ได้ ดังนี้ ๑.๑ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๕ ที่ประชุมหารือเรื่องความก้าวหน้าและทิศทางของกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น และประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศ รวมทั้งรับรองแถลงการณ์ของประธานร่วมของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๕ และรับรองเอกสารแผนปฏิบัติการกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น เพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. ๒๐๑๒ เพื่อกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นสำหรับปี พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๘ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นจะจัดสรรงบประมาณ ๖๐๐,๐๐๐ ล้านเยน (ประมาณ ๒๓๐,๐๐๐ ล้านบาท) ทั้งในรูปแบบของการให้กู้เงินเยน การให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า และความช่วยเหลือทางวิชาการ เพื่อให้โครงการต่าง ๆ ตามแผนปฏิบัติการฯ ประสบผลสำเร็จ รวมถึงจะดำเนินโครงการนำร่อง ๕๗ โครงการ ซึ่งญี่ปุ่นได้ประกาศไว้ในการประชุมผู้นำฯ ครั้งที่ ๔ โดยใช้ประโยชน์จากแนวคิดหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐกับเอกชน ๑.๒ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ ๒ ที่ประชุมได้หารือในสองประเด็นการดำเนินการที่ผ่านมาและทิศทางความร่วมมือในอนาคต และประเด็นของภูมิภาคและของโลก โดยได้รับรองแถลงการณ์ของประธานร่วมของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญคือ การสนับสนุนการตั้งกองทุนความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี การจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อประกาศใช้ในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ และการพิจารณาจัดทำโครงการนำร่องในช่วงที่ยังไม่มีแผนปฏิบัติการ ๑.๓ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ ๕ ที่ประชุมได้หารือเรื่องการดำเนินการที่ผ่านมาและทิศทางความร่วมมือในอนาคต และได้รับรองแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญคือ การรับเมียนมาร์เข้าเป็นสมาชิกใหม่ของกรอบความร่วมมือนี้ และได้ให้เมียนมาร์เป็นผู้นำร่วมกับสหรัฐอเมริกาในสาขาการเกษตรและความมั่นคงทางอาหารซึ่งเป็นสาขาที่เพิ่มใหม่ และรับทราบสหรัฐอเมริกาจะให้ความช่วยเหลือทางการเงิน จำนวน ๕๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงสามปีข้างหน้าภายใต้วิสัยทัศน์ “LMI 2020” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Strategic Rebalancing โดยเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในอนุภูมิภาคเพื่อจัดการกับความท้าทายข้ามพรมแดนและสนับสนุนการเชื่อมโยงในเรื่องกฎระเบียบและประชาชนต่อประชาชนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง รวมทั้งตกลงที่จะให้มีการหารือเรื่องการพัฒนาเครือข่ายประสานงานข้อริ่เริ่มลุ่มน้ำโขงระดับภูมิภาค ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกรอบความร่วมมือนี้ต่อไป ๑.๔ การประชุมรัฐมนตรีมิตรของประเทศลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ ๒ ที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรี ซึ่งมีสาระสำคัญคือ เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานของเวทีมิตรของประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่างในอนาคตว่า จะเป็นไปในสองระดับ ได้แก่ การหารือระหว่างหน่วยงานผู้ให้ความช่วยเหลือเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและเสริมสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของโครงการต่าง ๆ และการหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของประเทศหุ้นส่วนและประเทศลุ่มน้ำโขงเพื่อกำหนดนโยบาย และเห็นว่าในอนาคตเวทีมิตรประเทศลุ่มน้ำโขงอาจหารือประเด็นที่มีลักษณะข้ามพรมแดนและกระทบต่อความมั่นคงของประเทศลุ่มน้ำโขง อาทิ การโยกย้ายถิ่นฐาน การค้ามนุษย์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม และประเด็นที่เกี่ยวกับความมั่นคงของมนุษย์ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่าการจัดทำกรอบความร่วมมือเพิ่มขึ้นกับหุ้นส่วนการพัฒนา ควรหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนกับกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่มีอยู่แล้ว เพื่อเสริมให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาประเทศไทยและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย
|
.....