ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1 | รายงานการพัฒนาเด็กและเยาวชน ประจำปี 2553 | พม | 30/07/2555 | |||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอรายงานการพัฒนาเด็กและเยาวชน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติแล้ว โดยสาระสำคัญของรายงาน ประกอบด้วย วัตถุประสงค์และขอบเขตรายงาน เนื้อหารายงาน และข้อเสนอเชิงนโยบายต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชน โดยในส่วนของข้อเสนอเชิงนโยบายฯ มีดังนี้
๑. ส่งเสริมสถาบันครอบครัวและวัฒนธรรม ด้วยการพัฒนาความรู้ ทักษะ และทัศนคติที่ถูกต้องให้กับพ่อแม่และผู้ปกครองในการเลี้ยงดู เด็กและเยาวชนอย่างเหมาะสม โดยปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนมีคุณธรรม จริยธรรม ยึดมั่นในหลักคำสอนทางศาสนา มีความพอเพียง มีสำนึกความเป็นพลเมือง มีวิถีประชาธิปไตย เคารพสิทธิผู้อื่น รู้จักคิดอย่างมีเหตุผล มีจิตสาธารณะ รักสิ่งแวดล้อม สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย และสนับสนุนให้ชุมชน สังคม ภาคีเครือข่ายเข้าใจปัญหาและความต้องการของเด็กและเยาวชน จัดบริการสวัสดิการให้สอดคล้องกับความต้องการของเด็กและเยาวชน ๒. ส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพจิตเด็กและเยาวชน ด้านโภชนาการที่เหมาะสมตามวัยให้หญิงมีครรภ์และเด็กเล็กได้รับสารไอโอดีนอย่างทั่วถึง ให้ความรู้กับเด็กและเยาวชนในการป้องกันตนเองจากโรคและสิ่งเสพติด หมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ป้องกันปัญหาโรคอ้วน รวมทั้งดูแลสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนไม่ให้เกิดความเครียด ปรับปรุงคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและบุคลากรผู้ดูแลเด็ก รวมถึงการดูแลเด็กเล็กในโรงเรียน โรงงาน สถานประกอบการ และให้ความรู้และทักษะการใช้ชีวิตเรื่องเพศศึกษาเมื่อถึงวัยอันควร ๓. ด้านการศึกษา ควรสนับสนุนภาคีอื่นเข้าร่วมจัดการศึกษากับกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ สื่อมวลชน องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรระหว่างประเทศที่ทำงานด้านการศึกษา หรือชุมชน ฯลฯ เพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปอย่างมีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนแต่ละกลุ่ม รวมทั้งเตรียมความพร้อมเด็กและเยาวชนเมื่อไทยเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และต้องเพิ่มโอกาสทางการศึกษาของเด็กและเยาวชนที่ยากจนหรือด้อยโอกาสรุนแรงด้วยมาตรการที่หลากหลาย ดูแลเรื่องคุณภาพการศึกษาอย่างจริงจัง รวมทั้งสร้างความหลากหลายของแนวทางและช่องทางการศึกษา โดยสนับสนุนให้มีการจัดการศึกษาทางเลือกทุกระดับ ๔. ดูแลเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส ทั้งในด้านโภชนาการ การศึกษาที่พอเพียงและมีคุณภาพ การมีงานทำ ครอบครัวที่อบอุ่น รวมทั้งสร้างทุนทางสังคมให้กับเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสที่จะมีส่วนช่วยการพัฒนาตัวเองให้หลุดพ้นสภาพด้อยโอกาส ภาครัฐควรสร้างฐานข้อมูลเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส ซึ่งปัจจุบันยังมีความคลุมเครือและไม่สมบูรณ์ โดยเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ด้อยโอกาส ระหว่างเครือข่ายพันธมิตรและชุมชน และทำการปรับแก้หรือบังคับใช้กฎหมายที่เอื้อต่อการพัฒนา คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาส ๕. ปรับปรุงการดำเนินงานของสภาเด็กและเยาวชน ด้วยการสร้างความเข้าใจถึงบทบาทและความสำคัญของสภาเด็กและเยาวชนในทุกระดับ เพื่อให้มีความต่อเนื่องของการดูแลเป็นพี่เลี้ยงให้ผู้บริหารสภาเด็กและเยาวชน พร้อมกับที่ต้องส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของสภาเด็กและเยาวชนไปในตัวด้วย ในขณะที่ผู้บริหารสภาเด็กและเยาวชนควรทำการปรึกษาอย่างกว้างขวางกับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ในการจัดกิจกรรมที่ตรงกับความต้องการในพื้นที่ อันจะนำไปสู่การสนับสนุนทรัพยากรทางการเงินจากภาครัฐได้มากขึ้น ๖. ส่งเสริมบทบาทของเครือข่ายเพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาเด็กและเยาวชน การพัฒนาเด็กและเยาวชนเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนในสังคมไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ธุรกิจเอกชน ชุมชน หรือครอบครัว จึงควรมีมาตรการส่งเสริมให้ภาคส่วนเหล่านี้ตระหนักและมีการเพิ่มบทบาทของตนเองในเรื่องนี้มากขึ้น มาตรการที่อาจทำได้ เช่น การสนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility) เพิ่มอัตราจ้างเด็กและเยาวชนในการทำงาน สนับสนุนให้อาสาสมัครมีบทบาทต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีฝ่ายงานด้านเด็กและครอบครัว ๗. ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกด้าน
|
||||||||||||
.....
