ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การประชุมร่วมระหว่างภาคเอกชนและรัฐมนตรีประเทศลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่น ครั้งที่ 5 ภายใต้กรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม | นร | 24/07/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมร่วมระหว่างภาคเอกชนและรัฐมนตรีประเทศลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่น ครั้งที่ ๕ ภายใต้กรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพมหานคร ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และรัฐมนตรีประจำกรอบความร่วมมือประเทศลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่นด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม (Mekong Japan Economic and Industrial Cooperation : MJ-CI) เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการประชุมร่วมระหว่างภาคเอกชนและรัฐมนตรีประเทศลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่น ครั้งที่ ๕ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๔ เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๕ ณ กรุงโตเกียว ซึ่งมีเรื่องที่สำคัญ ได้แก่ การที่ผู้นำให้ความเห็นชอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น (Tokyo Strategy for Mekong - Japan Cooperation) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หลักฉบับใหม่ใช้แทนแผนปฏิบัติการ ๖๓ ข้อ ในฐานะแผนงานหลักของ Mekong - Japan Cooperation สำหรับปัจจุบันจนถึงการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี ๒๕๕๘ และองค์ประกอบของ Tokyo Strategy เป็นการกำหนดเสาหลักความร่วมมือของ Mekong - Japan Cooperation ขึ้นใหม่ ๓ เสา ได้แก่ เสาที่ ๑ การเสริมสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เสาที่ ๒ การพัฒนาไปพร้อมกัน และเสาที่ ๓ การสร้างความมั่นใจในด้านความมั่นคงของมนุษย์และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน รวมทั้งรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานภายใต้ MJ-CI Action Plan ที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญ อาทิ การอำนวยความสะดวกการค้าและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการสนับสนุนการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม ๑.๒ รับทราบผลการสำรวจความต้องการภาคธุรกิจและยุทธศาสตร์การพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ปี ๒๕๕๕ ที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญ อาทิ ภาพรวมของการดำเนินธุรกิจและการผลิตในประเทศลุ่มน้ำโขงที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในรูปแบบการลงทุนใหม่และการเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง การอำนวยความสะดวกทางการค้าและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่จำเป็นต้องปรับปรุงประสิทธิภาพ เนื่องจากยังคงมีปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินธุรกิจอันเนื่องมาจากพิธีการศุลกากร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีคุณภาพดีขึ้น และการสนับสนุนการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพควบคู่ไปกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ๑.๓ รับทราบข้อเสนอจากภาคเอกชนในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงและญี่ปุ่นซึ่งขอให้รัฐบาลของประเทศลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่น เร่งสนับสนุนการค้าการลงทุนในอนุภูมิภาค ได้แก่ ข้อเสนอการเร่งพัฒนาเส้นทางคมนาคมที่ยังไม่สมบูรณ์ตามแนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจตะวันออก - ตะวันตก (East West Economic Corridor : EWEC) และแนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจตอนใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) การพัฒนาเส้นทางรถไฟ การพัฒนาท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศบนสองฝั่งมหาสมุทร คือ ฝั่งอันดามัน และทะเลจีนใต้ ข้อเสนอการอำนวยความสะดวกการขนส่งข้ามพรมแดน โดยให้มีการเดินรถข้ามพรมแดนระหว่างกันได้สะดวก ทำการตรวจปล่อย ณ จุดเดียว เพื่อลดจำนวนและความซับซ้อนของเอกสารที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงกระบวนการข้ามพรมแดนและผ่านแดนให้มีประสิทธภาพ และให้ศุลกากรขยายเวลาปฏิบัติงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง ข้อเสนอการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการเพิ่มความสามารถการแข่งขันและการเข้าถึงแหล่งเงิน โดยจัดตั้งกองทุนพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Development Fund) และร่วมมือกับสถาบันทางการเงินของญี่ปุ่น โดยใช้แนวทางการปล่อยกู้ต่อ (Two - step Loan) ข้อเสนอการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพการผลิตในภาคบริการและอุตสาหกรรมใหม่ และข้อเสนอการสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาแรงงานที่มีการปรับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีความเชื่อมโยงกับภูมิภาคและโลกเพิ่มมากขึ้นในสิ่งแวดล้อมที่มีความทันสมัย โปร่งใส และเสรีมากขึ้น ๑.๔ รัฐมนตรี MJ-CI และภาคเอกชนได้ร่วมกันพิจารณาเอกสาร Input to “Mekong - Japan Action Plan for Realization of the Tokyo Strategy 2012” ซึ่งมีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ การอำนวยความสะดวกการค้าและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการสนับสนุนการพัฒนาของภาคอุตสาหกรรมและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะทำงานความร่วมมือประเทศลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่น ด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมรับข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อประกอบการจัดทำแผนปฏิบัติการฉบับใหม่เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรี MJ-CI ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๕ ณ ประเทศกัมพูชา และนำเสนอต่อที่ประชุมระดับผู้นำเพื่อให้ใช้เป็นแผนปฏิบัติการสำหรับการดำเนินงานในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่อไป ๒. ข้อเสนอของฝ่ายไทยในการประชุมฯ ๒.๑ ยืนยันบทบาทประเทศไทยร่วมกับญี่ปุ่นในการพัฒนาประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยเน้นการดำเนินงานของไทยในการให้ความช่วยเหลือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านและการดำเนินงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ๒.๒ เน้นความสำคัญของการร่วมมือในระดับภูมิภาคเพื่อรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ๒.๓ เน้นย้ำถึงการดำเนินงานของรัฐบาลในการผลักดันกระบวนการอนุวัตรกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนการอำนวยความสะดวกการขนส่งข้ามพรมแดน โดยไทยได้ให้สัตยาบันภาคผนวกและพิธีสารแนบท้าย (annexes and protocols) ภายใต้ความตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Cross Border Transport Agreement : CBTA) เพิ่มเติมอีก ๓ ฉบับ ทำให้ไทยได้ให้สัตยาบันไปแล้ว จำนวน ๑๔ ฉบับ เหลืออีกเพียงจำนวน ๖ ฉบับ ที่จะต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องในการผลักดันกระบวนการออกกฎหมายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว |
.....