ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | โครงการความร่วมมือเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน (Contract Farming) ภายใต้ยุทธศาสตร์อิระวดี - แม่โขง - เจ้าพระยา (ACMECS) ประจำปี 2555 | พณ | 10/04/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนการลงทุนเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน (Contract Farming) ภายใต้ยุทธศาสตร์อิระวดี - แม่โขง - เจ้าพระยา (ACMECS) ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึง ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ โดยกำหนดจังหวัดเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการลงทุนเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน (Contract Farming) ภายใต้ยุทธศาสตร์ ACMECS จำนวน ๑๑ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี บุรีรัมย์ อุบลราชธานี น่าน เลย มุกดาหาร นครพนม ศรีสะเกษ ตาก และกาญจนบุรี พื้นที่ดำเนินการในประเทศเพื่อนบ้าน ๓ ประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว และกัมพูชา รวม ๘๙๕,๓๔๐ ไร่ พืชเกษตรเป้าหมายภายใต้โครงการ Contract Farming จำนวน ๙ ชนิด ได้แก่ ถั่วเขียวผิวมัน ถั่วลิสง งา ข้าวโพดหวาน ลูกเดือย ละหุ่ง มันสำปะหลัง (มันเส้น) ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และเมล็ดถั่วเหลือง ๑.๒ เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานโครงการลงทุนเกษตรแบบมีสัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน (Contract Farming) ภายใต้ยุทธศาสตร์ ACMECS เพื่อกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติในการดำเนินงานโครงการฯ ดังกล่าวในแต่ละปี โดยหน่วยรับผิดชอบควบคุมดูแลในส่วนกลาง ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ และในส่วนภูมิภาคมีสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเป็นหน่วยงานหลัก กำหนดให้ผู้นำเข้าต้องขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบการภายใต้โครงการ Contract Farming กับจังหวัดเป้าหมาย ให้มีหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า และใบรับรองสุขอนามัยประกอบการขออนุญาตนำเข้า รวมทั้งจะต้องมีการรายงานการอนุญาตให้นำเข้าผลการผลิต ๑.๓ ให้ผู้ว่าราชการที่เป็นจังหวัดเป้าหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแผนการลงทุนฯ และแนวทางการดำเนินงานฯ ดังกล่าว โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Contract Farming จะต้องเป็นผู้เข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านและมีคู่สัญญา จะต้องมาขอจดทะเบียนผู้นำเข้าผลผลิตพืชเกษตรที่อยู่ในโครงการ Contract Farming ที่จังหวัดจะนำเข้า โดยมีหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า เพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรตามแบบที่ถือปฏิบัติกันในประเทศสมาชิกอาเซียน และเอกสารประกอบการนำเข้าตามที่กำหนด กรณีข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้มาจดทะเบียนเป็นผู้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากกัมพูชา สปป.ลาว และสหภาพพม่าเข้ามาในราชอาณาจักรที่กรมการค้าต่างประเทศ รวมทั้งให้แต่ละจังหวัดจัดทำรายงานสรุปทะเบียนผู้ประกอบการ แผนการลงทุนพืชเกษตรในโครงการ Contract Farming ปริมาณการนำเข้าพืชเกษตรแต่ละชนิดจัดส่งกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อเป็นประโยชน์ในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ Contract Farming และไม่กระทบต่อเกษตรกร ๑.๔ อนุมัติการยกเว้นค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในอัตราน้ำหนักสุทธิเมตริกตันละศูนย์บาท สำหรับการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้แผนการลงทุนฯ โดยผู้นำเข้าต้องเป็นผู้ที่ได้จดทะเบียนไว้ต่อกรมการค้าต่างประเทศ และเมื่อนำเข้าแล้วให้รายงานปริมาณการนำเข้า การใช้ การจำหน่าย โดยระบุผู้รับซื้อ และปริมาณคงเหลือของสินค้าที่นำเข้า วันที่ได้นำไปใช้หรือวันที่ได้มีการจำหน่าย แล้วแต่กรณี ๑.๕ อนุมัติให้ยกเว้นการจำกัดผู้มีสิทธิ์นำเข้าและการรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองที่ผลิตภายในประเทศ ตามที่คณะกรรมการนโยบายพืชน้ำมันและน้ำมันพืชกำหนด สำหรับการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองภายใต้แผนการลงทุนฯ ตามปริมาณที่กำหนดไว้ในโครงการ Contract Farming ซึ่งมีจำนวนไม่มากและประเทศไทยก็ผลิตไม่เพียงพอยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้น การนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองดังกล่าวจะไม่กระทบต่อเกษตรกร หรืออุตสาหกรรมภายในประเทศ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการยกเว้นค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในอัตราน้ำหนักสุทธิเมตริกตันละศูนย์บาท สำหรับการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้แผนการลงทุนฯ และการอนุมัติการยกเว้นการจำกัดสิทธินำเข้าและการรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองที่ผลิตภายในประเทศ ควรมีการติดตามกำกับดูแลการบริหารการนำเข้าอย่างใกล้ชิดเพื่อมิให้มีผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ผลิตภายในประเทศ และเห็นควรประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการ Contract Farming กับเกษตรกรไทยให้มากขึ้น รวมทั้งดูแลควบคุมเรื่องการลักลอบนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิ์กรณีที่มีการรับจำนำของรัฐบาล นอกจากนี้ ให้มีความเข้มงวดในการตรวจสอบและติดตามชนิดและปริมาณการนำเข้าของสินค้าเกษตรให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด รวมทั้งตรวจสอบศัตรูพืชที่อาจติดมากับสินค้าเกษตรอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
.....