ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การปรับปรุงค่าตอบแทนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ | นร | 10/04/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบข้อเสนอการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งงบประมาณสำหรับดำเนินการตามมติคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ในการประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ดังนี้ ๑.๑ แนวทางดำเนินการ ๑.๑.๑ ส่วนของข้าราชการพลเรือนสามัญ ๑.๑.๑.๑ กำหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาลในอีก ๒ ปีถัดไป โดยให้อัตราเงินเดือนแรกบรรจุขั้นต่ำของวุฒิปริญญาตรีในปีที่ ๒ เท่ากับ ๑๕,๐๐๐ บาท ปีที่ ๑ เท่ากับ ๑๓,๐๐๐ บาท วุฒิ ปวส. ปีที่ ๒ เท่ากับ ๑๑,๕๐๐ บาท ปีที่ ๑ เท่ากับ ๑๐,๒๐๐ บาท (วุฒิ ปวส. คงความแตกต่างของเงินเดือนกับวุฒิปริญญาตรี) และวุฒิ ปวช. ปีที่ ๒ เท่ากับ ๙,๔๐๐ บาท และปีที่ ๑ เท่ากับ ๘,๓๐๐ บาท (วุฒิ ปวช. คงความแตกต่างของเงินเดือนกับวุฒิ ปวส.) และกำหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุขั้นต่ำของคุณวุฒิอื่นให้สอดคล้องกับอัตราความแตกต่างระหว่างคุณวุฒิต่าง ๆ ที่กำหนดไว้เดิม ๑.๑.๑.๒ ปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รบผลกระทบ ๒ ครั้ง ให้มีผลใช้บังคับพร้อมกับการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุในปีที่ ๑ และปีที่ ๒ โดยปรับเงินเดือนชดเชยให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับราชการในตำแหน่งระดับแรกบรรจุก่อนวันที่อัตราเงินเดือนแรกบรรจุที่ปรับใหม่มีผลใช้บังคับอย่างน้อย ๑๐ ปี (มีอายุราชการตั้งแต่ ๑ วัน ถึง ๑๐ ปี โดยประมาณ) ๑.๑.๒ ส่วนของข้าราชการประเภทอื่นและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทบรรลุวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และหลักการ เดียวกัน โดยมีความเป็นธรรมไม่เหลื่อมล้ำกัน และให้มีผลใช้บังคับภายใน ๒ ปี ในทำนองเดียวกัน โดยให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่ละประเภท นำเสนอคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องให้ความเห็นชอบในรายละเอียดก่อน และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติให้ใช้งบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๗ ก่อนที่จะดำเนินการบังคับใช้ต่อไป ๑.๒ การมีผลใช้บังคับ ให้การปรับเงินเดือนแรกบรรจุและการปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐมีผลใช้บังคับในปีที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ และปีที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ ๑.๓ ค่าใช้จ่ายและแหล่งที่มา คาดว่าจะใช้งบประมาณเพื่อปรับเงินเดือนแรกบรรจุและปรับเงินเดือนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของข้าราชการทุกประเภทและเจ้าหน้าที่ของรัฐ สำหรับดำเนินการในปีที่ ๑ (ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖) เพิ่มขึ้นประมาณ ๕,๐๑๐ ล้านบาท และสำหรับดำเนินการในปีที่ ๒ (ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๗) เพิ่มขึ้นประมาณ ๗,๑๓๕ ล้านบาท ๒. ให้ส่วนราชการเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๓. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรมีแนวทางในการควบคุมงบประมาณรายจ่ายประจำไม่ให้สูงเกินกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ หรือให้ต่ำกว่า โดยอาจมีการควบคุมรายจ่ายประจำในหมวดอื่น ๆ ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นให้ลดลงกว่าในปีงบประมาณที่ผ่าน ๆ มา อาทิ งบดำเนินงานหรืองบรายจ่ายอื่นโดยเฉพาะรายจ่ายในการเดินทางเพื่อสัมมนาและดูงานในต่างประเทศ เป็นต้น และเพื่อควบคุมรายจ่ายในส่วนของรายจ่ายประจำโดยเฉพาะในหมวดค่าใช้จ่ายบุคลากรไม่ให้สูงขึ้นในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป อาจใช้มาตรการเกษียณอายุก่อนกำหนดควบคู่การจำกัดจำนวนข้าราชการใหม่ รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้สะท้อนถึงค่าตอบแทนที่ได้รับสูงขึ้นจากการปรับปรุงค่าตอบแทนในครั้งนี้ โดยอาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการประเมินผลการปฏิบัติราชการให้เข้มข้นขึ้น และเพื่อความเป็นธรรม และลดภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐที่สูงขึ้นจากการปรับฐานเงินเดือน ควรพิจารณาความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนเงื่อนไขการจ้างและสวัสดิการบางประการของข้าราชการที่เข้ารับการบรรจุใหม่ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ ให้เหมาะสม ส่วนผลกระทบอื่น ๆ จากการปรับปรุงค่าตอบแทนดังกล่าว อาจส่งผลให้กำลังคนด้านทักษะวิชาชีพที่มีคุณวุฒิต่ำกว่าปริญญา สายช่างเทคนิค เช่น ปวช. ปวส. ขาดแคลนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากนักเรียนจะเลือกเรียนระดับปริญญาซึ่งมีรายได้สูงกว่ามาก ดังนั้น ในช่วงที่ผลตอบแทนในวิชาชีพอื่นยังไม่ปรับตัวขึ้นตามกลไกตลาด ควรมีมาตรการส่งเสริมหรือกระตุ้นให้นักเรียนเข้าเรียนในสาขาวิชาชีพดังกล่าวไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ควรมีนโยบายหรือมาตรการให้แก่กลุ่มข้าราชการที่ไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ จากข้อเสนอดังกล่าว ซึ่งได้แก่ กลุ่มข้าราชการที่มีอายุราชการมากกว่า ๑๐ ปี ด้วย เช่น การจัดให้มีเงินรางวัลประจำปีตามผลงาน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย |
.....