ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | สรุปผลการดำเนินการโครงการปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ | มท | 02/04/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ ผลการดำเนินงานโครงการปีแห่งการรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องตลอดทั้งปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึ่งผลจากการดำเนินโครงการได้ก่อให้เกิดการรับรู้และตื่นตัวในเรื่องของการสวมหมวกนิรภัย มีการบังคับใช้กฎหมาย ว่ากล่าวตักเตือนและจับปรับ เพิ่มขึ้นมา ๓ เท่า (เพิ่มจาก ๘๕๐,๐๖๐ ราย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็น ๒,๗๐๗,๔๔๐ ราย ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔) และผลจากการสำรวจการสวมหมวกนิรภัยทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน ๑,๒๓๐,๑๙๗ คน พบว่า สัดส่วนการสวมหมวกนิรภัยในภาพรวมของประเทศเพิ่มสูงขึ้นเพียง ๒ เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น โดยเพิ่มจาก ๔๔ เปอร์เซ็นต์ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็น ๔๖ เปอร์เซ็นต์ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ๑.๒ แนวทางที่จะดำเนนการในระยะต่อไป ๑.๒.๑ ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการต่อไปอีก ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗) เพื่อให้มีการเพิ่มสัดส่วนของผู้สวมหมวกนิรภัยอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเร่งรัดให้มีการสวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ ๒๐ ในแต่ละปี ๑.๒.๒ ให้คณะอนุกรรมการด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (เสาหลักที่ ๔ ตามแนวทางทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน) เป็นผู้รับผิดชอบหลัก พร้อมทั้งมีการติดตามกำกับ การรายงานความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคต่อศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ๑.๒.๓ รัฐบาลควรมีการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้สามารถดำเนินการบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเย็นและกลางคืน เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีข้อจำกัดในด้านบุคลากรและงบประมาณในช่วงเวลาดังกล่าว ๑.๒.๔ ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนประสานงานกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้เข้ามามีบทบาทในการกำกับดูแลและตรวจจับหมวกนิรภัยที่ไม่ได้มาตรฐานในสถานประกอบการและในท้องตลาด รวมทั้งเร่งรัดและหามาตรการในการส่งเสริมมาตรฐานหมวกนิรภัยที่จะประกาศใช้ ให้มีกลไกที่เอื้อต่อการผลิตในราคาที่ถูก เช่น การใช้มาตรการด้านภาษี หรือการอุดหนุนผู้ประกอบการที่ผลิตหมวกนิรภัยที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะหมวกนิรภัยสำหรับเด็ก ๑.๒.๕ ให้คณะอนุกรรมการด้านการบริหารจัดการข้อมูลและการติดตามประเมินผลในคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน พัฒนาระบบข้อมูลเพื่อติดตามสถานการณ์การบาดเจ็บศรีษะและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ (ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย) พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูลให้กับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนเป็นประจำทุก ๒ เดือน ๑.๒.๖ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัด โดยเฉพาะในสถานประกอบการ สถานศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมทั้งกำหนดให้มีการนำเสนอข้อมูลการดำเนินงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย และข้อมูลการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านที่ประชุมจังหวัดทุกเดือน ๑.๒.๗ ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนขยายความร่วมมือกับภาคีภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ หน่วยงาน องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการรณรงค์ประชาสัมภันธ์ในรูปแบบที่หลากหลาย โดยเฉพาะการรณรงค์ผ่านสื่อศิลปิน เพลง ภาพยนตร์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ เด็ก/เยาวชนเพิ่มมากขึ้น ๑.๒.๘ ให้กระทรวงคมนาคมวางแนวทางการดำเนินการเพื่อให้สภาพถนนและสิ่งแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการขับขี่รถจักรยานยนต์ได้อย่างปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ การออกแบบจุดกลับรถที่ปลอดภัยสำหรับรถจักรยานยนต์ เช่น การทำทางลอดใต้สะพาน การทำสะพานลอยรถจักรยานยนต์ การหาแนวทางการเพิ่มช่องทาง/เลนรถจักรยานยนต์ในถนนที่กำลังออกแบบใหม่ หรือถนนที่มีปริมาณรถจักรยานยนต์สัญจรเป็นจำนวนมาก โดยควรมีการจัดทำมาตรฐานช่องทางรถจักรยานยนต์และจัดโครงการถ่ายทอดความรู้ให้กับหน่วยงานด้านงานทางและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อนำไปวางแผนให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ และการสนับสนุนให้กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนเข้าร่วมในการรณรงค์ส่งเสริมการใช้หมวกนิรภัยอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ๒. ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตและความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้หน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเล็งเห็นถึงความปลอดภัยที่จะได้รับจากการสวมหมวกนิรภัยโดยให้มีการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ปี และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและจริงจังด้วย รวมทั้งเห็นควรทำการศึกษาเพื่อประเมินผล วิเคราะห์สาเหตุและเสนอแนะมาตรการที่รัดกุม เพื่อให้ทราบถึงประเด็นปัญหาที่สำคัญที่ทำให้การรณรงค์ไม่ได้ผลตามเจตนารมณ์ และเพื่อสามารถวางแนวทางการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบพร้อมทั้งตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติอันจะทำให้การณรงค์นั้นมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการรณรงค์เรื่องการสวมหมวกนิรภัย ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย |
.....