ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2554/55 โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร | กค | 29/03/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ใช้เงินกู้โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต ๒๕๕๔/๕๕ วงเงิน ๒๖๙,๑๖๐ ล้านบาท เดิม เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ จำนวน ๑๐ ล้านตัน วงเงินกู้ไม่เกิน ๒๘,๒๕๐ ล้านบาท โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง วงเงินกู้ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ จำนวนประมาณ ๘ ล้านตัน วงเงินกู้ไม่เกิน ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท เพิ่มเติม รวมวงเงินทั้งสิ้นไม่เกิน ๑๖๓,๒๕๐ ล้านบาท ๑.๒ ให้ ธ.ก.ส. กู้เงินเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ จำนวน ๑๐ ล้านตัน วงเงินกู้ไม่เกิน ๒๘,๒๕๐ ล้านบาท โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง วงเงินกู้ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ จำนวนประมาณ ๘ ล้านตัน วงเงินกู้ไม่เกิน ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท รวมวงเงินทั้งสิ้นไม่เกิน ๑๖๓,๒๕๐ ล้านบาท จากสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งให้ ธ.ก.ส. กู้เงินเพื่อบริหารจัดการหนี้เงินกู้ด้วยการ Refinance หรือ Roll over หรือ Prepayment โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินกู้และดอกเบี้ย รัฐบาลรับภาระชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยจากการกู้เงิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจริงจากการดำเนินโครงการทั้งหมด ๑.๓ ให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ของ ธ.ก.ส. ที่เกิดจากการกู้เงินและการบริหารจัดการหนี้ของ ธ.ก.ส. โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ในแต่ละครั้ง ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ วงเงินกู้ไม่เกิน ๒๘,๒๕๐ ล้านบาท โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง วงเงินกู้ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ วงเงินกู้ไม่เกิน ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น รวมทั้งการบริหารจัดการหนี้ร่วมกับ ธ.ก.ส. ด้วยการ Refinance หรือ Roll over หรือ Prepayment โดยกระทรวงการคลังค้ำประกันจนกว่าจะมีการชำระคืนเงินกู้เสร็จสิ้น รัฐบาลรับภาระชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยจากการกู้เงิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจากโครงการทั้งหมด ๑.๔ ให้ ธ.ก.ส. แยกบัญชีการดำเนินงาน บัญชีธนาคารของโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ โดยเฉพาะ เพื่อให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีชำระคืน ธ.ก.ส. หากมีผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงจากโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ จำนวน ๑๐ ล้านตัน และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ จำนวน ๘ ล้านตัน ให้เสร็จสิ้นทุกสิ้นปีงบประมาณหรือไม่เกินปีงบประมาณถัดไป โดยไม่ต้องรอให้มีการระบายผลิตผลเสร็จสิ้นก่อน เพื่อให้การรับรู้กำไร/ขาดทุนจากการดำเนินโครงการดังกล่าวในปีนั้น ๆ รวมทั้งชดเชยต้นทุนเงินและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน และเงินที่ใช้ในการดำเนินงาน ทั้งในส่วนของ ธ.ก.ส. และส่วนที่กู้จากสถาบันการเงิน เพื่อมิให้เป็นภาระงบประมาณด้านดอกเบี้ยจ่ายจากหนี้คงค้างโครงการฯ เป็นเวลานาน รวมทั้งเพื่อให้ ธ.ก.ส. สามารถนำเงินไปหมุนเวียนเพื่อใช้ในโครงการอื่นในปีต่อ ๆ ไป หากมีกำไรเกิดขึ้นจากการดำเนินงานหลังจากการระบายผลผลิตหรือสิ้นสุดโครงการฯ ให้ ธ.ก.ส. นำเงินส่งคลังทันที ๑.๕ ให้หน่วยงานดำเนินการที่ได้จำหน่ายสินค้าตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ และได้รับชำระค่าสินค้าแล้วให้นำส่งเงินดังกล่าวแก่ ธ.ก.ส. ภายใน ๗ วัน นับจากวันที่ได้รับเงิน หากล่าช้าให้ชำระเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี เพื่อ ธ.ก.ส. จะได้นำไปชำระหนี้และลดภาระหนี้เงินกู้ต่อไป ทั้งนี้ ให้ ธ.ก.ส. ชำระคืนแหล่งเงินกู้ทันทีหรือภายใน ๓ วันทำการ โดยให้ชำระคืนเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าก่อนเป็นลำดับแรก ๑.๖ ให้หน่วยงานดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ได้แก่ สถาบันเกษตรกรและองค์การสวนยาง หน่วยงานดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ โดย อคส. และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ดูแลคลังสินค้า (Stock) ของโครงการฯ ไม่ให้มีการสูญหาย เว้นแต่จะมีการเสื่อมคุณภาพของสินค้าตามปกติ แต่หากมีการสูญหายหรือสินค้าเสื่อมคุณภาพเพราะความบกพร่อง หน่วยงานดังกล่าวจะต้องชดใช้ให้แก่รัฐ เนื่องจากได้รับอนุมัติวงเงินจ่ายขาดสำหรับค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้าแล้ว ทั้งนี้ ให้ อคส. และ อ.ต.ก. ปิดบัญชีโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๒ ปี นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการโครงการฯ ๑.๗ ให้กระทรวงพาณิชย์แต่งตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ รวมทั้งให้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง เพื่อดำเนินการปิดบัญชีโครงการดังกล่าว หลังจากครบกำหนดไถ่ถอน และ/หรือสิ้นสุดระยะเวลาโครงการ และให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายผลิตผล เพื่อลดความเสี่ยงด้านการจัดหาเงินทุน และภาระการค้ำประกันของกระทรวงการคลัง โดยมีกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง (สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) สำนักงบประมาณ และ ธ.ก.ส. ร่วมติดตามการระบายผลิตผลอย่างใกล้ชิด และให้มีการปิดบัญชีเป็นปี ๆ ไป โดยให้แล้วเสร็จภายใน ๙๐ วัน นับตั้งแต่วันสิ้นสุดรอบปีบัญชี ๑.๘ ให้กระทรวงพาณิชย์และคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติกำกับ ติดตาม ควบคุม รวมทั้งรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงาน การเบิกจ่ายเงิน การระบายสินค้า ปริมาณและมูลค่าสินค้าคงเหลือ รวมทั้งปัญหา อุปสรรคที่เกิดขึ้นสำหรับโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี ๒๕๕๔/๕๕ โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี ๒๕๕๕ ให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกวันที่ ๗ ของเดือนถัดไป จนกว่าหนี้คงค้างได้รับชำระครบถ้วน เพื่อให้คณะรัฐมนตรีสามารถติดตามการดำเนินงานได้อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้รายงานการระบายสินค้า ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าคงเหลือ ให้กระทรวงการคลัง (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ) และสำนักงบประมาณทราบทุกรายไตรมาส ๒. ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งระบายผลผลิตให้เสร็จสิ้นโดยเร็วเพื่อไม่ให้สินค้าเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ราคาสินค้าตกต่ำ และเพื่อจะได้รับรู้ผลกำไร/ขาดทุนของพืชแต่ละชนิดโดยแท้จริง รวมทั้งควรพิจารณาวางแผนเพื่อเร่งระบายผลผลิตอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว แยกบัญชีการดำเนินงานให้ชัดเจน และดำเนินการปิดบัญชีโครงการเพื่อลดภาระงบประมาณแผ่นดินที่จะต้องนำไปชำระเป็นต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อให้มีเงินกลับเข้ามาในระบบสำหรับนำมาใช้ในโครงการอื่นด้วย นอกจากนี้ ควรสนับสนุนการนำผลผลิตที่รับจำนำ/ซื้อมาสร้างมูลค่าเพิ่มและแปรรูปสินค้าเพื่อจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศ เร่งส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา ดำเนินการลดต้นทุนการผลิตควบคู่ไปด้วย เพื่อให้สามารถแข่งขันได้เมื่อมีการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ และเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดี นอกเหนือจากการรับจำนำผลผลิตหรือแทรกแซงตลาดสินค้าเกษตร ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
.....