ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การจัดตั้งทุนหมุนเวียนของหน่วยงานของรัฐ | กค | 22/02/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการดำเนินการตามความเห็น ข้อสังเกต และข้อเสนอแนะของคณะกรรมการกลั่นกรองการจัดตั้งทุนหมุนเวียน ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๕ เกี่ยวกับการขอจัดตั้งกองทุนการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ของกระทรวงยุติธรรม (สถาบันนิติวิทยาศาสตร์) และการขอจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ ของสำนักนายกรัฐมนตรี และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยเร็วต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
๑. กรณีกระทรวงยุติธรรม (สถาบันนิติวิทยาศาสตร์) คณะกรรมการกลั่นกรองฯ มีข้อสังเกตว่าการดำเนินการไม่เป็นไปตามกรอบคู่มือการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนของทางราชการ โดยขาดความชัดเจนในสาระสำคัญด้านการบริหารงานในรูปแบบทุนหมุนเวียน เช่น การกำหนดแหล่งที่มาของรายได้ไม่ชัดเจน รวมทั้งมีลักษณะพึ่งพิงจากเงินงบประมาณเป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสถานะและการบริหารงานของกองทุนการตรวจพิสูจน์ฯ ในอนาคต และการกำหนดโครงสร้างผู้รับผิดชอบในการบริหารกองทุนการตรวจพิสูจน์ฯ และกลุ่มเป้าหมายของผู้รับบริการกองทุนการตรวจพิสูจน์ฯ ยังขาดความชัดเจนเป็นรูปธรรม จึงไม่เห็นควรให้จัดตั้งกองทุนการตรวจพิสูจน์ฯ พร้อมทั้งมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ๑.๑ ควรทบทวนรูปแบบในการบริหารจัดการกองทุนการตรวจพิสูจน์ฯ เนื่องจากแนวทางการจัดตั้งเป็นทุนหมุนเวียนจะไม่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินการตามเจตนารมณ์แห่งร่างพระราชบัญญัติการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ. .... ๑.๒ กรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นในการดำเนินงานตามสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฯ สามารถถือปฏิบัติตามกฎหมายวิธีการงบประมาณ ซึ่งจะมีความเหมาะสมและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ๑.๓ ทบทวนและปรับปรุงสาระสำคัญในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกองทุนการตรวจพิสูจน์ฯ ในร่างพระราชบัญญัติฯ ก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามลำดับต่อไป ๒. กรณีสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ไม่มีประเด็นพิจารณาความเหมาะสมของการจัดตั้งกองทุนพัฒนาฯ เนื่องจากมีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาฯ โดยบรรจุในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ และอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาก่อนมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การบริหารงานกองทุนพัฒนาฯ เกิดประโยชน์ต่อทางราชการได้อย่างแท้จริงและสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล คณะกรรมการกลั่นกรองฯ มีข้อเสนอแนะประกอบการพิจารณา ดังนี้ ๒.๑ ในร่างพระราชบัญญัติฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ มาตรา ๓๒ (๓) บัญญัติให้ตั้งงบประมาณรายจ่ายของกองทุนและเงินทุนหมุนเวียนในชื่อ “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” วงเงินจำนวน ๑,๗๒๐ ล้านบาท ดังนั้น การพิจารณายกร่างระเบียบที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องกำหนดชื่อกองทุนให้มีความสอดคล้องกับสาระสำคัญในร่างพระราชบัญญัติฯ เพื่อมิให้เป็นอุปสรรคในการเบิกจ่ายเงินกองทุนพัฒนาฯ ในอนาคต ๒.๒ ในร่างกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการบริหารกองทุนพัฒนาฯ ควรต้องถือปฏิบัติตามกรอบคู่มือการขอจัดตั้งทุนหมุนเวียนของทางราชการ เช่น การจัดทำรายงานการรับและการใช้จ่ายเงินที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๗๐ และทุนหมุนเวียนที่จัดตั้งขึ้นแล้วต้องเข้าสู่ระบบประเมินผลการดำเนินงานของกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) เป็นต้น ๒.๓ เพื่อให้การดำเนินการของกองทุนพัฒนาฯ เป็นส่วนหนึ่งในการบูรณาการสนับสนุนการดำเนินงานเชิงสังคมของรัฐ ควรมีข้อกำหนดที่ชัดเจนในร่างกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารกองทุนพัฒนาฯ ในประเด็นของเจตนารมณ์ หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ และอำนาจหน้าที่การบริหารกองทุนพัฒนาฯ เป็นต้น ๒.๔ เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติไม่มีสถานะเป็นนิติบุคคล จึงมีข้อจำกัดในการทำนิติกรรม สัญญา หรือดำเนินการเกี่ยวกับภาระผูกพันของกองทุนพัฒนาฯ ดังนั้น การกำหนดโครงสร้างการบริหารจัดการโดยเฉพาะในระดับภูมิภาค จึงควรต้องกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่มีความชัดเจนเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาฯ ๒.๕ โครงสร้างการบริหารกองทุนพัฒนาฯ มีรูปแบบบริหารจัดการในลักษณะคณะกรรมการที่มีความซับซ้อน อีกทั้งจำเป็นต้องมีการรองรับการดำเนินงานในระดับท้องถิ่น จังหวัด และภูมิภาคครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ดังนั้น จึงควรที่จะต้องมีการกำหนดอำนาจหน้าที่การดำเนินงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละภาคส่วนอย่างชัดเจนสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบ ๒.๖ โดยที่กองทุนพัฒนาฯ เป็นทุนหมุนเวียนตามนัยกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง ฉะนั้น ในส่วนที่เกี่ยวกับการจ่ายและการเก็บรักษาเงินกองทุน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดไว้ในกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องสำหรับจัดตั้งกองทุนพัฒนาฯ เนื่องจากสามารถถือปฏิบัติตามนัยมาตรา ๑๓ แห่งกฎหมายเงินคงคลัง ซึ่งกำหนดให้กระทรวงการคลังพิจารณารายละเอียดที่เกี่ยวข้องในการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงิน เป็นต้น ๒.๗ เนื่องจากกองทุนพัฒนาฯ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพสตรี เพิ่มบทบาท สร้างสวัสดิภาพและสวัสดิการสตรี รวมทั้งมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อสร้างงาน สร้างรายได้และพัฒนาอาชีพให้แก่กลุ่มสตรีในทุกระดับ อันเป็นภารกิจที่มีความจำเป็นและมีความสำคัญในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จึงควรกำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาฯ เบื้องต้นในช่วงระยะเวลา ๕ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๕๙) ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการติดตามประเมินประสิทธิภาพการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาฯ และเพื่อช่วยให้รัฐบาลสามารถประเมินภาระทางการคลังเพื่อการพิจารณาสนับสนุนงบประมาณให้กองทุนพัฒนาฯ ตลอดจนการทบทวนสถานภาพของกองทุนพัฒนาฯ ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น |
.....