ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมการทบทวนนโยบายการค้าของไทย (Trade Policy Review) ภายใต้องค์การการค้าโลก | พณ | 13/02/2555 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมการทบทวนนโยบายการค้าของไทย (Trade Policy Review) ภายใต้องค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ครั้งที่ ๖ ระหว่างวันที่ ๒๘ - ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ณ สำนักงานองค์การการค้าโลก นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับประเด็นสำคัญที่สมาชิก WTO หยิบยกในระหว่างการประชุมฯ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การทบทวนนโยบายการค้าของไทยภายใต้ WTO ประเทศสมาชิก WTO หลายประเทศมีข้อกังวลต่อนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการค้าของไทยหลายประการ ได้แก่ ๑.๑.๑ ความล่าช้าในการปรับโครงสร้างในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงด้านทรัพย์สินทางปัญญา การแปรรูปองค์กรของรัฐ (Privatization) การเปิดเสรีด้านการค้า บริการ และการลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ และกระทบต่อปริมาณการลงทุนของต่างชาติ (Foreign Direct Investment : FDI) ๑.๑.๒ การปรับปรุงระบบโครงสร้างภาษีศุลกากร รวมถึงปัญหาการรับสินบนของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและระบบการให้รางวัลนำจับกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร ๑.๑.๓ ระบบโครงสร้างภาษีภายในประเทศของไทยที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ๑.๑.๔ การจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีซึ่งส่งผลให้เกิดความยุ่งยากซับซ้อนในเรื่องกฎแหล่งกำเนิดสินค้า (Rules of Origin) ของแต่ละความตกลง โดยเรียกว่าผลกระทบผัดไทย (Pad Thai Effect) ๑.๑.๕ นโยบายด้านการลงทุนของไทยที่ต้องการคุ้มครองอุตสาหกรรมภายใน เช่น ข้อจำกัดในเรื่องการถือครองหุ้นของต่างชาติ และข้อจำกัดเรื่องกฎระเบียบในบางสาขาเฉพาะ รวมทั้งความยุ่งยากซับซ้อนในกระบวนการชำระภาษี และปัจจัยจากความไม่มั่นคงทางการเมืองที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วยเช่นกัน ๑.๑.๖ ข้อจำกัดภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวและข้อจำกัดในสัดส่วนการถือครองหุ้นที่ต่างชาติถูกจำกัดไม่ให้ถือครองเกินร้อยละ ๔๙ โดยเฉพาะในสาขาโทรคมนาคม ประกันภัย และโลจิสติกส์ รวมทั้งความสอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้องค์การการค้าโลกในกรณีการให้สิทธิพิเศษของไทยต่อสหรัฐฯ ภายใต้สนธิสัญญาไมตรี ๑.๑.๗ การละเมิดสินค้าลิขสิทธิ์และการบังคับใช้กฎหมายและบทลงโทษอย่างมีประสิทธิภาพ ๑.๑.๘ ประเด็นอื่น ๆ เช่น การออกระเบียบกำหนดมาตรฐานสำหรับสินค้าชั้นกลาง การออกกฎระเบียบว่าด้วยการขึ้นทะเบียนยาขององค์การอาหารและยาด้วยการติดฉลากเตือนบนสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การให้สิทธิพิเศษกับองค์การเภสัชกรรมในการได้รับการพิจารณาจัดซื้อยาโดยโรงพยาบาลของรัฐก่อน การประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว และกรณีการให้ใบอนุญาตให้บริการ 3G ที่ล่าช้าเนื่องจากกระบวนการทางกฎหมาย เป็นต้น ๑.๒ สมาชิก WTO ได้ให้ความสนใจโดยมีคำถามกว่า ๔๐๐ คำถาม จากสมาชิกกว่า ๒๐ ประเทศ โดยประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้น เช่น ประเด็นเรื่องสนธิสัญญาไมตรีระหว่างไทย - สหรัฐฯ พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ความยุ่งยากซับซ้อนและไม่โปร่งใสของระบบโครงสร้างภาษีศุลกากรและภาษีภายในประเทศ ประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา และข้อจำกัดในภาคการลงทุนและบริการ เป็นต้น ซึ่งเป็นคำถามที่เคยถูกยกขึ้นมาแล้วในการประชุมทบทวนนโยบายการค้าของไทย ครั้งที่ ๕ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยสมาชิกได้จับตาดูว่าไทยจะกำหนดนโยบายเรื่องดังกล่าวไปในทิศทางใด ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศมีความเห็นว่า รัฐบาลควรถือโอกาสในการปฏิรูปโครงสร้าง และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องไปพร้อม ๆ กัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิกโดยเฉพาะในด้านการลงทุน ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวกับข้อเสนอจากประเทศสมาชิก WTO ในเรื่องการปรับโครงสร้างภาคการเกษตร เพื่อเปิดตลาดยกเลิกการอุดหนุนส่งออก และลดการอุดหนุนภายในที่มีผลบิดเบือนทางการค้า ซึ่งสินค้าเกษตรเป็นสินค้าที่สมาชิก WTO ส่วนใหญ่มีมาตรการปกป้องไว้เช่นกัน ทั้งในด้านมาตรการภาษี มาตรการที่มิใช่ภาษี การอุดหนุนภายในที่มีผลบิดเบือนทางการค้า และการอุดหนุนการส่งออก ตลอดจนการใช้มาตรการทางการค้าต่าง ๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการชะงักงันของผลการเจรจา WTO รอบโดฮา ทั้งนี้ สินค้าเกษตรของไทยในปัจจุบัน ไม่มีการดำเนินการปกป้องเกินกว่าพันธกรณีและสิทธิของไทยภายใต้กรอบ WTO แต่อย่างใด ดังนั้น ในการปฏิรูปโครงสร้างและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในประเด็นนี้ ควรต้องคำนึงถึงความอ่อนไหวของสินค้าเกษตร และควรให้ความสำคัญกับการผลักดันผลสำเร็จของการเจรจาดังกล่าว เพื่อให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่เสรีและเป็นธรรมต่อประเทศสมาชิก ซึ่งมีระดับการพัฒนาที่แตกต่างกัน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....