ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย (เพิ่มเติม) | นร | 01/11/2554 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย (เพิ่มเติม) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การช่วยเหลือประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบ ๑.๑.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกันปรับปรุงรูปแบบของศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยให้เป็นศูนย์พัฒนาฝีมือและคุณภาพชีวิตชั่วคราว โดยจัดบริการเบ็ดเสร็จให้ความช่วยเหลือ ด้านอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค การดูแลสุขภาพให้บริการทางการแพทย์ และการเยียวยาจิตใจ และจัดให้มีกิจกรรมที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มวัย รวมทั้งเร่งการฝึกอบรมอาชีพระยะสั้นเพื่อนำไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้ต่อไป โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประสานกับกระทรวงแรงงานและกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการรับฝึกอบรมเฉพาะประชาชนที่พักอยู่ในศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย ไม่นับรวมผู้ที่เดินทางไป - กลับ ทั้งนี้ ในระหว่างที่ฝึกอบรมอาชีพผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับเบี้ยเลี้ยง ๑๒๐ บาท/วัน และหากประสงค์จะทำงานต่อจะจัดหางานให้ทำต่อในศูนย์พักพิง เช่น ทำอาหาร ดูแลเด็ก ผู้สูงอายุและผู้พิการ เป็นต้น โดยได้รับค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งหางานอาชีพให้ทำนอกศูนย์พักพิงที่มีตำแหน่งว่างอยู่กว่า ๓๐,๐๐๐ ตำแหน่ง ๑.๑.๒ สำหรับการดูแลผู้ป่วย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ดูแลผู้ประสบอุทกภัยที่เป็นผู้ป่วย และส่งต่อผู้ป่วยของโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบอุทกภัยไปยังโรงพยาบาลที่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นระบบ แต่เริ่มมีการขาดแคลนเวชภัณฑ์บางชนิด เช่น น้ำยาล้างไต เป็นต้น เนื่องจากโรงงานผลิตในประเทศไม่สามารถดำเนินการได้ ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งเตรียมการนำเข้าและสำรวจเวชภัณฑ์ที่จำเป็นที่อาจมีไม่เพียงพอ ๑.๑.๓ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดกำลังดูแลทรัพย์สินของประชาชนที่ไม่ได้อยู่บ้านอย่างเข้มงวดเพื่อให้มีความปลอดภัยจากการโจรกรรม ๑.๑.๔ ให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาจัดตั้งคลังอาหารสดและอาหารปรุงสำเร็จสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ประสานให้จังหวัดต่าง ๆ ที่อยู่นอกพื้นที่ประสบอุทกภัยซึ่งยังมีศักยภาพและมีความประสงค์ที่จะส่งอาหารเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดอื่นดำเนินการรวบรวมจัดส่งเข้าคลัง และจัดให้มีจังหวัดคู่แฝดที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกันที่มีศักยภาพและความพร้อมเพื่อช่วยเหลือจังหวัดที่ประสบภาวะอุทกภัย ๑.๑.๕ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งสำรวจความเสียหายในพื้นที่ซึ่งน้ำลดแล้ว เพื่อจัดงบประมาณช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหาย ซึ่งจะได้รับความช่วยเหลือไม่เกินครอบครัวละ ๓๐,๐๐๐ บาท และประสานการช่วยเหลือในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การรวมพลังช่วยเหลือกันในชุมชน และการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมของภาคเอกชนเพื่อซ่อมสร้างบ้าน เป็นต้น ๑.๒ การช่วยเหลือเกษตรกร ๑.๒.๑ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม เพื่อเตรียมโครงการและงบประมาณช่วยเหลือความเสียหาย เช่น ความเสียหายด้านพืช ปศุสัตว์และประมง การช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์ข้าว พันธุ์พืชไร่ พันธุ์สัตว์น้ำ และพันธุ์สัตว์ปีก การฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ การแก้ไขปัญหาน้ำเสียและฟื้นฟูคุณภาพดิน การช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น ๑.๒.๒ สินเชื่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ๑.๒.๒.๑ กรณีลูกค้าประสบภัยและเสียชีวิต ธ.ก.ส. ปลดหนี้ให้กับทายาทหรือคู่สมรส และรับเป็นลูกค้าเพื่อให้สินเชื่อฟื้นฟูการผลิตแทน ๑.๒.๒.๒ กรณีประสบภัยร้ายแรงและไม่เสียชีวิต จะมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และพักชำระหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบประมาณชดเชยดอกเบี้ยในช่วงพักชำระหนี้ ๓ ปีแทนเกษตรกร ๑.๒.๒.๓ สินเชื่อ ธ.ก.ส. ดำเนินการ ๒ โครงการ ได้แก่ สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพเกษตรกร วงเงินรวม ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติร้อยละ ๓ ต่อปี และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร วงเงินรวม ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน ร้อยละ ๗ ต่อปี) ระยะ ๓ - ๕ ปี หรือยาวกว่านั้น ทั้งนี้ ให้รวมถึงเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายที่ไม่ได้เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. สามารถมาขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าได้ด้วย สำหรับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรและเกษตรกรที่เป็นลูกค้าธนาคารพาณิชย์ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงการคลังประสานให้ได้รับความช่วยเหลือในลักษณะเดียวกับลูกค้า ธ.ก.ส. ด้วย ๑.๓ การกอบกู้นิคมอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประสานนิคมอุตสาหกรรม เขตอุตสาหกรรม และสวนอุตสาหกรรม ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทั้ง ๗ แห่ง เร่งจัดทำแผนปฏิบัติการในการลดระดับน้ำในนิคมอุตสาหกรรม (Dewatering Action Plan) และฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมเมื่อน้ำเริ่มลดเพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อได้ภายใน ๔๕ วันนับจากวันที่เริ่มปฏิบัติการสูบน้ำออกจากนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการจัดให้มีคณะกรรมการอำนวยการระดับนโยบาย ๑ คณะ และคณะอนุกรรมการระดับปฏิบัติการร่วมระหว่างรัฐและเอกชน รวมทั้งจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จสำหรับนิคมอุตสาหกรรมทั้ง ๗ แห่ง ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาน้ำเสียและฟื้นฟูคุณภาพดิน โดยร่วมกับกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อให้การดำเนินการช่วยเหลือเป็นไปอย่างเหมาะสมตรงตามกลุ่ม/พื้นที่เป้าหมาย โดยให้ดำเนินการบูรณาการและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งภาคเอกชนด้วย
|
.....