ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2554 | นร | 08/03/2554 | ||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) ครั้งที่ ๑/๒๕๕๔ เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ และเห็นชอบผลการพิจารณาและมติของคณะกรรมการ กรอ. ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ กรอ. เสนอ โดยที่ประชุมฯ มีมติ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบตามมติคณะทำงานร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ และส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพารา ที่เห็นว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นในการแก้ไขพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๘๔ แต่เห็นควรให้มีแนวทาง/มาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมไม้ยางพารา เพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ยางพารา และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมป่าไม้) ดำเนินการตามแนวทาง/มาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมไม้ยางพารา ตามมติคณะทำงานร่วมฯ และแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการต่ออายุใบอนุญาตอุตสาหกรรมไม้ทุกประเภท (รวมถึงไม้ยางพารา) ที่ได้ปรับปรุงแล้วเสร็จ ไปปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ และให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไม้รับทราบแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการต่ออายุใบอนุญาตดังกล่าว และนำไปปฏิบัติต่อไป นอกจากนี้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมป่าไม้) เร่งรัดการออกระเบียบ ข้อกำหนด และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการจัดทำบัญชีไม้ การกำหนดค่ามาตรฐานในการแปลงค่าน้ำหนักเป็นปริมาตรเพื่อประกอบการจัดทำบัญชีไม้ และปรับปรุงการออกและต่ออายุใบอนุญาตจัดตั้งโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา ๑.๒ รับทราบผลการศึกษาการยกเลิกอัตราการนำเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยให้คงอัตราการนำเงินเข้ากองทุนฯ ๕ บาท ต่อกิโลกรัมจนกว่ากองทุนฯ จะชำระหนี้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๓ (เรื่อง การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย) แล้วเสร็จ รวมทั้งให้กระทรวงอุตสาหกรรมศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบให้แล้วเสร็จและเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ๑.๓ เห็นชอบตามข้อเสนอบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทย และให้ สศช. ประสานกับภาคเอกชนเพื่อพิจารณาในรายละเอียดการดำเนินงานต่อไป ๑.๔ ให้กระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานหลักในการหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อรับความเห็นของคณะกรรมการ กรอ. ไปพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เต็มตามศักยภาพ รวมทั้งการพัฒนาระบบข้อมูลการตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้าให้เป็นมาตรฐานสากล และให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์และข้อเสนอด้านงบประมาณในการจัดพิมพ์บัตร ตม.๖ ให้เพียงพอ รวมทั้งการปรับปรุงกฎกระทรวงเพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบหนังสือเดินทางล่วงหน้าด้วย ๑.๕ รับทราบรายงานผลการศึกษาเบื้องต้นศักยภาพในการรองรับอุตสาหกรรมของพื้นที่มาบตาพุด และให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยทำหนังสือพร้อมหลักฐานการส่งข้อมูลแผนแม่บทการใช้ประโยชน์ที่ดินและการพัฒนาบนพื้นที่ถมทะเลให้กับคณะกรรมการ ๔ ฝ่าย (ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และนักวิชาการ) ด้วย ๑.๖ รับทราบผลการดำเนินการของกรมศุลกากร ตามมติคณะกรรมการ กรอ. ครั้งที่ ๖/๒๕๕๓ วันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนากองเรือพาณิชย์ไทย นโยบายและมาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ แนวทางแก้ไขปัญหาการนำเข้าสินค้าวัตถุอันตรายตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ทั้งนี้ ในเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาการนำเข้าสินค้าวัตถุอันตรายตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. ๒๕๓๕ ที่ประชุมได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหานำเข้าสินค้าวัตถุอันตรายตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและการกำหนดหน่วยงานที่เป็น Contact Point ให้ชัดเจน โดยให้ สศช. ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ แล้วนำเสนอคณะกรรมการ กรอ. พิจารณาต่อไป ๒. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นเพิ่มเติมของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ ๒.๑ กรณีการขอผ่อนปรนกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว หากผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นว่ามีประเด็นใดที่ต้องมีการทบทวนหรือปรับปรุงแก้ไข ก็ควรระบุให้ชัดเจน เพื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปปฏิบัติให้ถูกต้องตรงกันต่อไป ๒.๒ การใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Economic Partnership Agreement : EPA) เนื่องจากปัจจุบันยังมีการใช้ประโยชน์จากความตกลงดังกล่าวค่อนข้างน้อย เช่น ความตกลงการค้าไทย - นิวซีแลนด์ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - อินเดีย เป็นต้น ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ (กรมการค้าต่างประเทศ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรหาแนวทางเพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนใช้ประโยชน์ของความตกลงการค้าและลงทุนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งควรขยายกรอบของความตกลงการค้าเพื่อให้สามารถขยายขอบเขตการลงทุน ฐานการผลิตในประเทศ และการส่งออก ให้มากยิ่งขึ้นด้วย
|
.....