ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | มาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน | ปช. | 15/12/2563 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน
เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการเพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่
หรือการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามมาตรา ๓๒
แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.
๒๕๖๑ โดยสาระสำคัญของมาตรการฯ ครอบคลุมการดำเนินการเพื่อป้องกันการกระทำการทุจริตของเจ้าหน้าที่
๔ กรณี ได้แก่ (๑)
กรณีผู้ต้องขังภายในเรือนจำที่เป็นผู้มีอิทธิพลทางการเงินสามารถติดต่อสั่งการค้ายาเสพติดได้อย่างอิสระกับเครือข่ายภายนอกเรือนจำ
(๒) กรณีการตรวจสอบพบยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน (๓)
กรณีผู้ต้องขังให้สินบนกับเจ้าหน้าที่เพื่อใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต
ทำให้เกิดการซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน และ (๔)
กรณีผู้ต้องขังในเรือนจำที่เป็นผู้มีอิทธิพลทางการเงินสามารถสั่งการให้เครือข่ายค้ายาเสพติดข่มขู่หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถานไปถือปฏิบัติหรือดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้
ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด)
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับหน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องดำเนินการตามมาตรการฯ
ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมและความได้สัดส่วนในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ
เช่น สิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวตามมาตรา ๓๒ เสรีภาพในการติดต่อสื่อสารตามมาตรา ๓๖
และเสรีภาพในการประกอบอาชีพตามมาตรา ๔๐
รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่อดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวต้องคำนึงถึงมาตรา
๗๗ ของรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |