คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
               1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ
เสนอ มีสาระสำคัญคือ แก้ไขกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนในส่วนที่เกี่ยวกับฐานะผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะ
กรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน  การโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินให้แก่โรงเรียนเอกชน  ซึ่งเป็น
นิติบุคคล  และการขอยกเว้นเกี่ยวกับภาษีอากร การจัดทำระบบบัญชีและการจัดสรรผลกำไรโดยเฉพาะผลกระทบ
ต่อสิทธิของลูกจ้างในโรงเรียนเอกชนซึ่งไม่สามารถส่งเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกัน
สังคมให้มีสิทธิต่อไปเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโรงเรียนเอกชนและสร้างความมั่นใจแก่ผู้ดำเนิน
กิจการและลูกจ้างของโรงเรียนเอกชน และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  โดยให้รับความ
เห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วยว่าโรงเรียนนานาชาติ
เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งตามมาตรฐานสากล  มีบุคลากรและนักเรียนชาวต่างประเทศจำนวนมาก  การจัดการศึกษามี
ลักษณะเฉพาะรวมทั้งมีความหลากหลายในการบริหารและการจัดการเรียนการสอน แต่โดยที่ร่างพระราชบัญญัติ
ในเรื่องนี้ได้บัญญัติให้โรงเรียนนานาชาติเป็นโรงเรียนในระบบ  อาจมีผลกระทบต่อการกำหนดค่าธรรมเนียมการ
ศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น จึงควรพิจารณาในประเด็นนี้ด้วย แล้วนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
               2. กรณีร่างพระราชบัญญัติ ฯ  มีผลให้ต้องแก้ไขกฎหมายอื่นที่เกี่ยวกับการศึกษาให้สอดคล้องกัน  เช่น
กฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ และกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น  ให้
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องพร้อมไปในคราวเดียวกัน แล้วให้นำ
เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป