คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
              1. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรี
ชุดก่อนได้มีมติอนุมัติหลักการ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลัง
เสนอ มีสาระสำคัญดังนี้
                  1.1 กำหนดให้ในกรณีที่ผู้เดินทางไปราชการถึงแก่ความตายระหว่างไปราชการ ให้บุคคลในครอบครัว
หรือผู้จัดการศพของผู้เดินทางไปราชการซึ่งถึงแก่ความตาย  ได้รับค่าพาหนะในการเดินทางเพื่อไปปลงศพ  หรือค่า
พาหนะและค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวกับการส่งศพกลับ
                  1.2 กำหนดเกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าเช่าที่พัก และค่าโดยสารเครื่องบินของข้าราช
การ คู่สมรสหรือบุตรของข้าราชการหรือลูกจ้าง
                  1.3 กำหนดให้ในกรณีไปประจำสำนักงานซึ่งต่างสังกัดให้เบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการจาก
สังกัดใหม่ซึ่งไปประจำ
              2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ตามที่
กระทรวงการคลังเสนอ   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการต่อไปได้  โดย
ร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ มีสาระสำคัญดังนี้
                  1.1 กำหนดให้ข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ไปราชการในอัตราเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 4
                  1.2 กำหนดให้ข้าราชการตำแหน่งประเภทวิชาการ  ระดับปฏิบัติงาน  มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดิน
ทางไปราชการในอัตราเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 5
                  1.3 กำหนดให้ข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน ระดับอาวุโส ตำแหน่งประเภทวิชา
การ ระดับชำนาญการ ระดับชำนาญการพิเศษ ตำแหน่งประเภทอำนวยการ  ระดับต้น  มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการ
เดินทางไปราชการในอัตราเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 6
                  1.4 กำหนดให้ข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป  ระดับทักษะพิเศษ  ตำแหน่งประเภทวิชาการ  ระดับ
เชี่ยวชาญ ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง ตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น  มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดิน
ทางไปราชการในอัตราเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 9
                  1.5 กำหนดให้ข้าราชการตำแหน่งประเภทวิชาการ  ระดับทรงคุณวุฒิ  ตำแหน่งประเภทบริหารระดับ
สูงมีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในอัตรราเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 10
               3. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงาน  ก.พ.  เกี่ยวกับวันใช้บังคับร่างพระราชกฤษฎีกาตาม
ข้อ 2. คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2551 เป็นต้นไป หากภายหลังปรากฏว่าการปรับเข้าสู่ประเภทและระดับตำแหน่ง
ใหม่ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน  พ.ศ. 2551  มีผลก่อนหรือหลังวันที่ดังกล่าว  อาจมีผลกระทบ
ต่อการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของข้าราชการพลเรือนระหว่างช่วงเวลาที่ไม่สอดคล้องกันได้   จึงเห็น
ควรพิจารณากำหนดบทเฉพาะกาลรองรับกรณีนี้ด้วย    และให้กำหนดสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
ของข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน ระดับอาวุโส  ตำแหน่งประเภทวิชาการ  ระดับชำนาญการ
ระดับชำนาญการพิเศษ ตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับต้น  เป็น  2  กรณี  คือ  กรณีที่  1  ข้าราชการตำแหน่ง
ประเภททั่วไป  ระดับชำนาญงาน  ให้มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในอัตราเดียวกับผู้ดำรงตำแหน่ง
ระดับ 6 และกรณีที่ 2 ข้าราชการตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับอาวุโส  ตำแหน่งประเภทวิชาการ  ระดับชำนาญการ
ระดับชำนาญการพิเศษ  ประเภทอำนวยการ   ระดับต้น   ให้มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในอัตรา
เดียวกับผู้ดำรงตำแหน่งระดับ 7  ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้