คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้องค์การเภสัชกรรมร่วมลงทุนในบริษัทผลิตอุปกรณ์การแพทย์ 
ในสัดส่วนร้อยละ 26 (ประมาณ 93.6 ล้านบาท) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ โดย 
ให้องค์การ ฯ  รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  และข้อสังเกตของ  
คณะรัฐมนตรี  ซึ่งเห็นว่า  นโยบายจำหน่ายซึ่งกำหนดไว้ว่าร้อยละ  20  ของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตทั้งหมดจะจำหน่ายใน   
ประเทศและประเทศข้างเคียง นั้น  ควรจะกำหนดให้ชัดเจน  โดยต้องไม่มีข้อสัญญาผูกพันใด ๆ  ให้องค์การ ฯ  ต้อง 
ซื้อผลิตภัณฑ์แต่ฝ่ายเดียว ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย      รวมทั้งให้รับความเห็นและข้อเสนอแนะของ  
กระทรวงการคลัง คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ 
และสังคมแห่งชาติ  (เกี่ยวกับการที่องค์การ ฯ  ขอจัดทำหลักประกันในการกู้เงิน และการลงทุนกับธนาคารของรัฐ 
หรือธนาคารพาณิชย์อื่นที่เสนอเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ต่อองค์การ  ฯ)  ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป  
และโดยที่โครงการนี้เป็นการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน และการลงทุน นั้น มีวงเงินหรือทรัพย์สินตั้งแต่หนึ่งพันล้าน    
บาทขึ้นไป    หากต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ 
พ.ศ. 2535 ก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปด้วย แต่โดยที่กระทรวงการคลังชี้แจงว่า กรณีนี้อาจเป็น  
การร่วมทุนทั่วไป ไม่ใช่การดำเนินการประเภท "กิจการของรัฐ" ตามความหมายในพระราชบัญญัติ ฯ ดังกล่าว  ให้ 
กระทรวงสาธารณสุขรับไปตรวจสอบหรือหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย