สำนักงบประมาณเสนอรายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลน และปะการัง ของประเทศพร้อมทั้งข้อคิดเห็นและข้อสังเกต มาเพื่อคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ทราบ ตามที่ได้รับมอบหมายจาก คกก.กลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่ง คกก.กลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ พิจารณาแล้วมีมติให้นำเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป 1.รับทราบรายงานการศึกษาสถานภาพปัจจุบันของป่าไม้ชายเลนและปะการัง ของประเทศตามที่สำนักงบประมาณเสนอ 2.ให้คณะกรรมการนโยบายป่าไม้ ฯ รับมาตรการหยุดการทำลายป่าแล้วเสนอมา ภายใน 30 วัน 3.ให้ระงับการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลนโดยเด็ดขาดให้กระทรวงมหาดไทย รับไปดำเนินการสั่งการยังจังหวัดที่เกี่ยวข้อง 4.ให้ ธปท.รับไปกำกับดูแลเกี่ยวกับการ ให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในโครงการที่จะทำลายป่า
อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้แทน ในการลงนามความตกลงต่อท้ายความตกลงพื้นฐานว่าด้วยโครงการ อุตสาหกรรมอาเซียน สำหรับ โครงการทำเหมืองแร่โปแตชอาเซียน (ประเทศไทย) และให้สัตยาบันความตกลงดังกล่าว ในการประชุมระดับ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 19-20 - กรกฎาคม 2534 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตามที่ กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอ
คณะรัฐมนตรีจะได้ศึกษาเรื่อง การแก้ไขปัญหาการขาดแคลน บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ต่อไป คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้แต่งตั้ง คณะทำงาน เพื่อพิจารณาประกอบด้วยกระทรวงการคลังเป็นเจ้าของเรื่อง ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ , ทบวงมหาวิทยาลัย , สำนักงานคณะกรรมการ -พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , สำนักงบประมาณ , สำนักงาน- คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาต่อไป
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการกำหนดพื้นที่ และกำหนดมาตรการควบคุมการทำเกลือ จากน้ำเกลือใต้ดิน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และการพลังงานเสนอเพิ่มเติม ในส่วนของพื้นที่ที่จะอนุญาตจะต้องเป็นพื้นที่ซึ่งเคยมีการผลิตเกลืออยู่เดิมหรือ มีความเหมาะสมในด้านแหล่งน้ำใต้ดิน แหล่งน้ำผิวดินและไม่เป็นแหล่งเกษตรกรรมตามข้อมูลของกรมทรัพยา กรธรณี และกรมพัฒนาที่ดิน ต้องได้รับความเห็นชอบจากจังหวัด ให้เป็นพื้นที่ทำเกลือโดยวิธีสูบน้ำเกลือใต้ดิน ได้ หากมีการคัดค้านหรือร้องเรียนขึ้นในพื้นที่ใด ให้ชะลอการพิจารณาอนุญาตจนว่าทางจังหวัดจะสามารถหา ข้อยุติ ส่วนการดำเนินการทำเกลือและสูบน้ำเกลือให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขและมาตรการควบคุมที่ทางราชการ กำหนดอย่างเคร่งครัด และให้สำนักงานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ความเห็นประกอบการอนุญาต ด้วย เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและควบคุมผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้อยู่ในขอบเขตจำกัด สำหรับการพิจารณา อนุญาตและการตรวจสอบควบคุมการทำเกลือโดยการสูบน้ำเกลือใต้ดินให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 และพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ติดตามตรวจสอบและเฝ้า ระวังผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากกิจการทำเกลือดังกล่าว หากมีการฝ่าฝืนจนก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุน แรง ให้กระทรวงอุตสาหกรรมีสิทธิ์เพิกถอนการอนุญาตตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2518 สั่งระงับการผลิตเกลือในพื้นที่ดังกล่าวได้ทันที
สธ.เสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการสนับสนุนองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ในการ พัฒนาสาธารณสุข โดายกำหนดแผนงานโครงการที่รัฐจะให้การสนับสนุนงบประมาณหมวด เงินอุดหนุนแก่องค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ทั้งสิ้น 11 แผนงานรวมยอดงบประมาณ 69.2 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ สศช.มีความเห็นดังนี้ 1.เห็นด้วยในหลักการที่จะให้การ สนับสนุนด้านการเงินแก่องค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ให้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนา สาธารณสุขร่วมกับภาคราชการ 2.เห็นควรให้มีความร่วมมือสนับสนุนองค์กรเอกชน สาธารณประโยชน์ในเรื่องอื่น ๆ ด้วย อาทิ การสนับสนุนด้านวิชาการ ข้อมูลข่าวสาร การอำนวยความสะดวกในการปฎิบัติงานในพื้นที่ควบคู่ไปกับการสนับสนุนทางด้านการเงิน 3.เห็นควรให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อประโยชน์ในการติดตามและประเมินผล ของโครงการ และ คกก.กลั่นกรองฯ พิจารณาแล้วมีมติดังนี้ 1.อนุมัติโครงการสนับสนุน องค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ในการพัฒนาสาธารณสุข ตามที่ สธ.เสนอ ในวงเงิน งบประมาณ 69.2 ล้านบาท โดยให้ สธ.รับข้อสังเกตตามข้อ 2 ไปพิจารณาปรับปรุงโครงการ 2.ให้ตั้งงบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท ไว้ในงบกลางสำหรับสนับสนุนองค์กรเอกชน สาธารณประโยชน์ในการดำเนินกิจการ โดยมีองค์กรควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินโดยเฉพาะ และสงป.ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าเห็นควรตั้งงบประมาณสนับสนุนองค์กรเอกชนดังกล่าว ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2535 เป็นต้นไปจำนวน 49.2 ล้านบาท อนุมัติในหลักการโครงการสนับสนุนองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ในการพัฒนาสาธารณสุข ตามที่ สธ.เสนอโดยในปีงบประมาณ 2535 ให้ใช้จ่ายในวงเงิน 49.2 ล้านบาท ตามที่ สงป.ได้จัดสรรให้แล้ว 2.ให้ สธ.รับไปดำเนินการดังนี้ 2.1 ความเห็นของ คกก.กลั่นกรองฯ ฝ่ายสังคมและกฎหมายที่ให้แก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในโครงการประสานงาน และสนับสนุนสื่อมวลชนท้องถิ่นในแผนงานสาธารณสุขมูลฐาน และส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของชุมชนมิให้ขัดกับกฎหมายที่มิให้ตั้งงบประมาณสนับสนุนสื่อมวลชน 2.2 ความเห็น สศช.เห็นควรให้มีความร่วมมือสนับสนุนองค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์ในเรื่องอื่น ๆด้วย อาทิ การสนับสนุนด้านวิชาการ ข้อมูลข่าวสาร การอำนวยความสะดวกในการปฎิบัติงาน ในพื้นที่ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านการเงิน
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย