ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 27 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 521 - 540 จากข้อมูลทั้งหมด 3504 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
521 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (นายวิทิต อรรถเวชกุล) | สธ | 25/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายวิทิต อรรถเวชกุล ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป และให้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลที่ได้แต่งตั้งไว้แล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
522 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับโฆษณายาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา พ.ศ. .... | สธ | 18/06/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับโฆษณายาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการโฆษณายาเสพติดให้โทษประเภท ๕ เฉพาะกัญชา เพื่อการโฆษณาที่กระทำโดยตรงต่อผู้ประกอบวิชาชีพ และครอบคลุมถึงการโฆษณาที่เป็นเอกสาร ภาพ ภาพยนตร์ การบันทึกเสียงหรือภาพด้วย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ถึงหลักเกณฑ์ วิธีการ และข้อกำหนดต่าง ๆ ในการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับโฆษณายาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา ให้แก่ผู้รับอนุญาตผลิตหรือนำเข้าซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา ที่มีความประสงค์จะขออนุญาตโฆษณาผลิตภัณฑ์ยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชาที่ได้รับการรับรองตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้ได้รับทราบและสามารถดำเนินการได้ถูกต้องตามที่กฎหมายบัญญัติ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบและเข้าใจในสาระสำคัญของข้อกำหนดในกฎกระทรวงฯ โดยพิจารณาใช้กลไกระดับพื้นที่ในการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวบรรลุตามวัตถุประสงค์อย่างแท้จริง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
523 | หลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของประธานกรรมการ กรรมการ ที่ปรึกษา ประธานอนุกรรมการ และอนุกรรมการในคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ | สธ | 28/05/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบการกำหนดเบี้ยประชุมของประธานกรรมการ กรรมการ ที่ปรึกษา ประธานอนุกรรมการ และอนุกรรมการในคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ ในส่วนของการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับประโยชน์ตอบแทนอื่นเฉพาะในการเดินทาง ได้แก่ เบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก ค่าพาหนะในการเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ดังนี้ ๑.๑ ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ ที่ปรึกษาในคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ที่เป็นข้าราชการพลเรือนหรือข้าราชการการเมือง ให้ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการตามสิทธิที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และสำหรับบุคคลที่มิได้เป็นข้าราชการให้เบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการดังกล่าวโดยเทียบตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (ผู้ดำรงตำแหน่งอธิบดี) ๑.๒ ประธานอนุกรรมการและอนุกรรมการในคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ที่เป็นข้าราชการให้ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการตามสิทธิที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๒๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับบุคคลที่มิได้เป็นข้าราชการให้เบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการดังกล่าวโดยเทียบตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูง ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่า การใช้จ่ายงบประมาณในเรื่องดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยคำนึงถึงหลักความคุ้มค่าและประหยัดตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัดด้วย และควรให้นำความเห็นของกระทรวงการคลังมาประกอบการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับประโยชน์ตอบแทนอื่นเฉพาะในการเดินทาง เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกันในภาพรวม และสถาบันวัคซีนแห่งชาติต้องเสนอขอรับการประเมินค่างานและจัดกลุ่มองค์การมหาชนจากคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๒ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
524 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา พ.ศ. .... | สธ | 28/05/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา เพื่อให้มีการควบคุมและกำกับดูแลที่เข้มงวด รัดกุม อันเป็นการป้องกันการนำกัญชาไปใช้ในทางที่มิชอบด้วยกฎหมาย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น (๑) กัญชา ตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. ๒๕๐๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม จัดเป็น “สิ่งไม่ต้องห้าม” การนำเข้ามาในราชอาณาจักร ต้องแนบใบรับรองสุขอนามัยพืชจากประเทศต้นทางกำกับมาพร้อมกับสินค้าและแจ้งการนำเข้าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด ณ ด่านตรวจพืชที่นำเข้า และกรณีนำเข้าส่วนขยายพันธุ์ ต้องมีหนังสือรับรองว่าไม่ใช่พืชตัดต่อสารพันธุกรรม (non GMOs) ประกอบด้วย และ (๒) กัญชา ณ ปัจจุบัน ยังไม่ได้อยู่ในข่ายควบคุมของพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากไม่ได้ประกาศให้เป็นพันธุ์พืชควบคุม และพันธุ์พืชสงวน เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีกลไกกำกับดูแลและติดตามตรวจสอบกรณีมีการนำกัญชาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และควรประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนทราบถึงหลักเกณฑ์ วิธีการและข้อกำหนดต่าง ๆ ในการขออนุญาตเพื่อการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชา รวมถึงประโยชน์และโทษของกัญชาให้ครอบคลุมทุกมิติ รวมทั้งควรกำหนดแนวทางการติดตามและประเมินผลกระทบจากการดำเนินการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ที่เป็นระบบและมีความชัดเจน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
525 | ความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์สมาคมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพื่อผู้สูงอายุที่มีศักยภาพและนวัตกรรม | สธ | 14/05/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์สมาคมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพื่อผู้สูงอายุที่มีศักยภาพและนวัตกรรม ซึ่งจะมีการลงนามความตกลงฯ ในการประชุม Informal ASEAN Breakfast ในวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามในความตกลงฯ โดยสาระสำคัญของความตกลงฯ เป็นการจัดตั้งศูนย์สมาคมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) มีฐานะเป็นองค์การระหว่างประเทศระดับรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่จะสนับสนุนนโยบายผู้สูงอายุที่มีศักยภาพและการดำเนินการให้เกิดผล เสริมสร้างศักยภาพ และอำนวยความสะดวกในการดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก องค์กรระหว่างประเทศ หรือหุ้นส่วนอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุการมีผู้สูงอายุที่มีศักยภาพในอาเซียน โดยให้ศูนย์ฯ มีที่ตั้งอยู่ในราชอาณาจักรไทย (ประเทศผู้ก่อตั้ง) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรคำนึงถึงองค์ประกอบในการจัดตั้งศูนย์ฯ อาทิ โครงสร้าง ภารกิจ พันธกิจ อัตรากำลัง คุณสมบัติของบุคลากรในการปฏิบัติงาน รวมถึงจำนวนเงินที่บริจาคเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม ตลอดจนให้ความสำคัญกับการดำเนินงานที่ส่งผลสัมฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนไทยและประชากรอาเซียนอย่างแท้จริง อย่างไรก็ดี ศูนย์ฯ ยังไม่สามารถดำเนินการในประเทศไทยได้จนกว่าจะได้มีการจัดทำความตกลงประเทศผู้จัดตั้งระหว่างประเทศไทย ในฐานะประเทศผู้จัดตั้งกับศูนย์ฯ และมีการตราพระราชกฤษฎีการองรับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันของศูนย์ฯ แล้ว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
526 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (จำนวน 3 คน 1. นายธีรพล โตพันธานนท์ ฯลฯ) | สธ | 30/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล รวม ๓ คน แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ เมษายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป และให้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลที่ได้แต่งตั้งไว้แล้ว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายธีรพล โตพันธานนท์ ประธานกรรมการ ๑.๒ รองศาสตราจารย์จิรุตน์ ศรีรัตนบัลล์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๑.๓ นางสาววลัยรัตน์ ศรีอรุณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาลในครั้งต่อไปให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
527 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางรมณีย์ ขัดเงางาม) | สธ | 24/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางรมณีย์ ขัดเงางาม ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทันตกรรม) สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
528 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายอดุลย์ บัณฑุกุล) | สธ | 17/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอดุลย์ บัณฑุกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
529 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ) | สธ | 17/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ (ด้านอาหารและยา) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
530 | การเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การทำประกันสุขภาพสำหรับคนต่างด้าวผู้ขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant Visa รหัส O-A (ระยะ 1 ปี) | สธ | 02/04/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการให้เพิ่มเติมหลักเกณฑ์การทำประกันสุขภาพสำหรับคนต่างด้าวผู้ขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว Non-Immigrant Visa รหัส O-A (ระยะ ๑ ปี) โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตให้คนต่างด้าวที่ขอรับการตรวจลงตรา กรณีใช้ชีวิตบั้นปลาย ครั้งละไม่เกิน ๑ ปี Non-Immigrant Visa รหัส O-A ให้มีการประกันสุขภาพของไทยคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่พำนักในราชอาณาจักร โดยมีจำนวนเงินเอาประกันภัยสำหรับค่ารักษาพยาบาลในกรณีผู้ป่วยนอกไม่น้อยกว่า ๔๐,๐๐๐ บาท กรณีผู้ป่วยในไม่น้อยกว่า ๔๐๐,๐๐๐ บาท โดยซื้อกรมธรรม์แบบออนไลน์ผ่าน www.longstay.tgia.org สำหรบผู้ซื้อประกันสุขภาพของบริษัทต่างประเทศจะต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยไม่น้อยกว่าการทำประกันสุขภาพของไทยตามที่กำหนดด้วยเช่นกัน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจที่เห็นควรพิจารณากำหนดแนวทางการติดตามและประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน และควรพิจารณาอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับหลักเกณฑ์กรณีที่สามารถใช้การประกันสุขภาพของต่างประเทศเพื่อขอรับการตรวจลงตราประเภทนี้อาจก่อให้เกิดปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลการประกันได้ เพราะไม่มีระบบการตรวจสอบรองรับ และภาษาที่ใช้ในกรมธรรม์มีความหลากหลาย อีกทั้งโรงพยาบาลในไทยไม่สามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนโดยตรงกับบริษัทประกันภัยในต่างประเทศได้ รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับจำนวนคนต่างด้าวที่เข้ารับการรักษาและหนี้สูญค่ารักษาพยาบาลคนต่างด้าวที่ไม่สามารถจัดเก็บได้อาจครอบคลุมทั้งการเข้ารักษาด้วยปัญหาสุขภาพหรือเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแหงชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งต่าง ๆ ในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานเพื่อรองรับการดำเนินการในเรื่องนี้ตามขั้นตอนของกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติทราบถึงการเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ฯ ในเรื่องนี้อย่างทั่วถึง และให้ขอความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการจัดเตรียมช่องทางสำหรับซื้อประกันสุขภาพในรูปแบบออนไลน์ให้มีความพร้อมต่อไป ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาศึกษาความเหมาะสมในการจัดทำประกันสุขภาพภาคบังคับให้ครอบคลุมนักท่องเที่ยวและคนต่างด้าวทุกกลุ่มให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อมิให้เป็นภาระค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
531 | ร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ | 26/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอางให้เหมาะสมและรวดเร็ว โดยกำหนดให้ผู้เชี่ยวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศทำหน้าที่ในการประเมินเอกสารทางวิชาการ การตรวจวิเคราะห์ การตรวจสถานประกอบการ หรือการตรวจสอบ เพื่อให้สอคดล้องกับความรู้และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยให้ผู้ประกอบการเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเกี่ยวกับ (๑) ประเด็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการเป็นผู้รับผิดชอบในกระบวนการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอาง ไม่ควรเพิ่มขึ้นมากเกินไป รวมทั้งควรระบุอัตราค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ชัดเจน เช่น ค่าใช้จ่ายในการขอขึ้นทะเบียน อัตราค่าตอบแทนในการประเมินเอกสารวิชาการ อัตราค่าการตรวจสถานที่เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาต เป็นต้น และ (๒) ประเด็นกระบวนการพิจารณาอนุญาต ควรมีการให้นิยามของผู้เชี่ยวชาญที่จะทำหน้าที่พิจารณาอนุญาต คุณลักษณะในการสรรหาหรือคัดเลือก หลักเกณฑ์การขึ้นบัญชี และระยะเวลาในการเป็นผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความชัดเจนโปร่งใสในการดำเนินการ ควรมีมาตรการการรักษาความลับขององค์ความรู้และเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ โดยอาจพิจารณาร่างสัญญาว่า ห้ามเปิดเผย/นำส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน และควรพิจารณากำหนดนิยามของกฎหมายให้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติทั้งของเครื่องสำอางและยา โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการเจริญเติบโตในท้องตลาด ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
532 | แผนปฏิบัติการบูรณาการจีโนมิกส์ประเทศไทย | สธ | 26/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแผนปฏิบัติการบูรณาการจีโนมิกส์ประเทศไทย (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๗) เป็นแผนที่เกี่ยวข้องกับการนำข้อมูลพันธุกรรมมนุษย์มาประยุกต์ใช้ทางการแพทย์และสาธารณสุข และมีเป้าหมายที่จะบูรณาการการใช้ข้อมูลพันธุกรรมในด้านการแพทย์และสาธารณสุขของไทยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประชาชน และมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทำคำของบประมาณและจัดสรรงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนแผนภายใต้งบบูรณาการ รวม ๔,๕๗๐ ล้านบาท ระยะเวลา ๕ ปี และอนุมัติให้สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เป็นหน่วยงานกลาง และมีโครงสร้างองค์กรเพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลัก รวมทั้งอนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกรวบรวมความต้องการพัฒนาจีโนมิกส์ประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้มีการลงทุนที่เหมาะสม ให้มีอุตสาหกรรมการแพทย์ เกิดการบริการและธุรกิจที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย โดยมีถ่ายทอดเทคโนโลยีระดับสูง และมีการเพิ่มตำแหน่งงานสำหรับคนไทย ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง แนวทางการเสนอแผนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายและภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ ให้กระทรวงสาธารณสุข สวรส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดลำดับความสำคัญ ความจำเป็นเร่งด่วน ความคุ้มค่า และประโยขน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุข สวรส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ เช่น ควรพิจารณาเพิ่มรายชื่อ “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (ศลช.)” ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงานด้านอุตสาหกรรมทางการแพทย์โดยตรงตามภารกิจเข้าร่วมในรายชื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย ควรกำหนดตัวชี้วัดที่สะท้อนผลลัพธ์ของการยกระดับสุขภาพของประชาชนที่ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีการแพทย์แบบจีโนมิกส์ และการเกิดอุตสาหกรรมการแพทย์สมัยใหม่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การกำหนดกิจกรรมภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ควรให้ความสำคัญกับการดำเนินโครงการที่เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะหน่วยงานวิจัย/สถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพจากต่างประเทศ และการปรับโครงสร้างองค์กรของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข โดยการจัดตั้งองค์กรเพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการฯ ควรดำเนินการเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
533 | รายงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2561 | สธ | 19/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ที่ผ่านการเห็นชอบโดยคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแล้ว ในคราวประชุมครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ โดยรายงานดังกล่าวครอบคลุมสาระสำคัญรวม ๘ ด้าน ได้แก่ (๑) ด้านความครอบคลุมค่าใช้จ่าย (๒) ด้านความครอบคลุมสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (๓) หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (๔) ด้านความครอบคลุมการใช้บริการสุขภาพ (๕) คุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข (๖) การคุ้มครองสิทธิ (๗) การมีส่วนร่วมพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ (๘) ความท้าทายในการดำเนินงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
534 | งบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2560 | สธ | 19/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบงบดุลและรายงานการรับจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ โดยผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเห็นว่า งบการเงินแสดงฐานะทางการเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ ผลการดำเนินงาน และกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังประกาศใช้ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
535 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวกาญจนา จันทร์ไทย) | สธ | 12/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวกาญจนา จันทร์ไทย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพทรงคุณวุฒิ (ด้านการพยาบาล) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
536 | ขอถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาทัศนมาตรเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. .... | สธ | 05/03/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาทัศนามาตรเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
537 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายธีรพล สุขมาก) | สธ | 26/02/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธีรพล สุขมาก ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลทุ่งสง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
538 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน เป็นอาคาร คสล. 7 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 6,184 ตารางเมตร (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ตำบลเวียง อำเภอเมือง เชียงราย จังหวัดเชียงราย 1 หลัง | สธ | 18/02/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน เป็นอาคาร คสล. ๗ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๖,๑๘๔ ตารางเมตร (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ๑ หลัง จากวงเงิน ๑๓๒.๐๖ ล้านบาท เป็นวงเงิน ๑๔๕.๒๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรดำเนินการให้เป็นไปตามนัยมาตรา ๓๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
539 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายวิทยา นันทิยกุล) | สธ | 18/02/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวิทยา นันทิยกุล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
540 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข (ศาสตราจารย์ภิเศก ลุมพิกานนท์) | สธ | 12/02/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง ศาสตราจารย์ภิเศก ลุมพิกานนท์ ผู้เชี่ยวชาญสาขาอื่น เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
.....