คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้
ป่วยยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 2 - 8 พฤษภาคม 2546 และผลการดำเนินการกรณีเจ้าหน้าที่
ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย
ยาเสพติด  จากรายงานทั้งสิ้น 75 จังหวัด  มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 6,743 ราย  โดยสถานบำบัดที่ให้
การบำบัดมากที่สุด คือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน รองลงมา คือ ระดับ PCU/สถานีอนามัย ระดับโรงพยาบาลศูนย์/
โรงพยาบาลทั่วไป สังกัดกรมสุขภาพจิต และสังกัดกรมการแพทย์ ตามลำดับ  ส่วนวิธีการบำบัดรักษาแยกเป็นการ
บำบัดในชุมชน 3,285 ราย  วิธีผู้ป่วยนอก 3,323 ราย  วิธีผู้ป่วยใน  135  ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดรักษา
โดยวิธีบำบัดในชุมชนบริการสูงสุด คือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน  วิธีผู้ป่วยนอกบริการสูงสุด คือ ระดับโรงพยาบาล
ชุมชน  และวิธีผู้ป่วยในบริการสูงสุดโดยสถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต  ลักษณะการบำบัดของผู้รับการบริการ
เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ 6,107 ราย  โดยการบังคับบำบัด 636 ราย  ทั้งนี้  การบำบัดโดยการสมัคร
ใจบริการสูงสุด และการบังคับมารับบริการสูงสุด คือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน  สำหรับผลการดำเนินการกรณีเจ้า
หน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข  (ครั้งที่ 10)  มีจำนวน 21 ราย  เป็นข้อมูล
จากกระทรวงมหาดไทย 14 ราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด รายงานเพิ่มเติม 9 ราย เ สียชีวิต 1 ราย  และไม่ใช่
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข 1 ราย  ซึ่งผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พบว่า มีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 8 ราย 
มีหลักฐานไม่เพียงพอแต่สงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2 ราย ไม่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด  2  ราย 
และไม่พบพฤติกรรมว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 9 ราย

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยศูนย์ปฏิบัติการโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน
รุนแรงเสนอสรุปสถานการณ์และรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคทางเดินหายใจเฉียบ
พลันรุนแรง (Severe Acute Respiratory Syndrome : SARS) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2545  ถึงวันที่ 13 พฤษภา
คม 2546  สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2546 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่า
ด้วยโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง  (Special ASEAN  Leaders'' Meeting  on  SARS)  และการประชุมร่วมกับ
ผู้นำของสาธารณรัฐประชาชนจีน (Special ASEAN-China  Leaders''  Meeting  on  SARS) ซึ่งที่ประชุมได้มีการทำ
ความตกลงร่วมกันในการดำเนินการเพื่อป้องกันและควบคุมโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง  และฟื้นฟูความมั่น
ใจในการเดินทาง การท่องเที่ยว และการลงทุนในภูมิภาคนี้ สำหรับสถานการณ์โรคในต่างประเทศจากรายงานของ
องค์การอนามัยโลก ล่าสุดมีรายงานผู้ป่วยทั่วโลกขณะนี้มี จำนวน 7,447 ราย  เสียชีวิต 552 ราย โดยมีการเพิ่มขึ้น
ของผู้ป่วยใหม่ 168 ราย เสียชีวิตเพิ่ม  26  ราย  และการแจ้งพื้นที่ที่มีการแพร่ติดต่อโรค  ซึ่งแบ่งตามระดับของการ
แพร่ติดต่อออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่มีการแพร่ติดต่อโรคสูง  กลุ่มที่มีการแพร่ติดต่อโรคปานกลาง  กลุ่มที่มีการ
แพร่ติดต่อโรคต่ำ และกลุ่มที่ไม่มีข้อมูลการแพร่ติดต่อโรคที่เพียงพอ โดยในส่วนของประเทศเวียดนาม (กรุงฮานอย)
องค์การอนามัยโลกได้ประกาศไม่เป็นเขตติดโรค   รวมทั้งการแจ้งพื้นที่ที่ควรหลีกเลี่ยงการเดินทาง   ได้แก่   ปักกิ่ง 
กวางตุ้ง  ฮ่องกง  มองโกเลียตอนใน  ชานสี  เทียนจิ้น  และไทเป   ส่วนสถานการณ์โรคในประเทศไทยได้รับแจ้งว่า 
มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ (ที่สมควรได้รับการสอบสวนโรค) จากโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ
จำนวน 230 ราย และได้ติดตามสอบสวนพบผู้ป่วยที่เข้าได้กับนิยามโรคนี้  (Probable case)  จำนวน 8 ราย  เสีย
ชีวิต 2 ราย  ทุกรายเป็นผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรค  อนึ่ง  มีผู้ป่วยที่สงสัย (Suspected case)
จำนวน 22 ราย เป็นชาวต่างชาติ 6 ราย ชาวไทย 16 ราย และจนถึงขณะนี้ ไม่พบผู้ป่วย SARS ที่ติดเชื้อในประเทศ
ไทย  และยังไม่มีการแพร่ระบาดในชุมชน  ในส่วนของความก้าวหน้าในการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขได้
มีมาตรการพิเศษหลายประการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทย   ได้แก่   การเฝ้าระวัง
ค้นหาผู้ที่มีอาการสงสัยว่าอาจป่วยเป็นโรคให้ได้โดยเร็ว  ให้การดูแลผู้สงสัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้ออย่างเคร่งครัด
ตลอดจนรีบรับผู้ป่วยเข้ารักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการ  และได้จัดทำประกาศกระทรวงสาธารณสุขและคำแนะนำเพิ่มเติม

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข  โดยศูนย์ปฏิบัติการโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน
รุนแรง  เสนอสรุปสถานการณ์และรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคทางเดินหายใจเฉียบ
พลันรุนแรง (Severe Acute Respiratory Syndrome : SARS) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2545 ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม
2546 สรุปได้ว่า  เมื่อวันที่  26  เมษายน  2546  ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขของสมาคมประชาชาติ
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้  (อาเซียน)  โดยประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ฯ ร่วมกับรัฐมนตรีสาธารณสุข
ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น  และสาธารณรัฐเกาหลี  เพื่อกำหนดมาตรการความร่วมมือในการแก้ปัญหาการ
แพร่ระบาดของโรค  โดยในส่วนของประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรคทางเดิน
หายใจเฉียบพลันรุนแรง  (Special ASEAN Leaders' Meeting on SARS)  ร่วมกับสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่
29 เมษายน 2546  สำหรับสถานการณ์โรคในต่างประเทศ  จากรายงานขององค์การอนามัยโลก ล่าสุดมีรายงานผู้
ป่วยทั่วโลกขณะนี้มี  จำนวน  6,583 ราย  เสียชีวิต  461  ราย  โดยมีการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยใหม่  364  ราย  เสียชีวิต
เพิ่ม  25  ราย   และการแจ้งพื้นที่ที่มีการแพร่ติดต่อโรคซึ่งแบ่งตามระดับของการแพร่ติดต่อออกเป็น  4  กลุ่ม  ได้แก่ 
กลุ่มที่มีการแพร่ติดต่อโรคสูง กลุ่มที่มีการแพร่ติดต่อโรคปานกลาง  กลุ่มที่มีการแพร่ติดต่อโรคต่ำ  และกลุ่มที่ไม่มีข้อ
มูลการแพร่ติดต่อโรคที่เพียงพอ  โดยในส่วนของประเทศเวียดนาม  (กรุงฮานอย)  ซึ่งสามารถควบคุมการระบาดได้
สำเร็จเป็นประเทศแรก องค์การอนามัยโลกจึงได้ประกาศไม่เป็นเขตติดโรค ส่วนสถานการณ์โรคในประเทศไทย ได้รับ
แจ้งว่า   มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ  (ที่สมควรได้รับการสอบสวนโรค)  จากโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนทั่ว
ประเทศ จำนวน 198 ราย  และติดตามสอบสวนพบผู้ป่วยที่เข้าได้กับนิยามโรคนี้ (Probable case) จำนวน  7  ราย
และเสียชีวิต  2  ราย ทุกรายเป็นผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรค  อนึ่ง  มีผู้ป่วยที่สงสัย (Suspected
case) จำนวน 19 ราย เป็นชาวต่างชาติ 4 ราย  ชาวไทย  15  ราย  และจนถึงขณะนี้ ไม่พบผู้ป่วย SARS ที่ติดเชื้อใน
ประเทศไทย และยังไม่มีการแพร่ระบาดในชุมชน  ในส่วนของความก้าวหน้าในการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณ
สุข    ได้มีมาตรการพิเศษหลายประการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทย  ได้แก่  การเฝ้า
ระวังค้นหาผู้ที่มีอาการสงสัยว่าอาจป่วยเป็นโรคให้ได้โดยเร็ว รวมทั้งให้การดูแลผู้สงสัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้ออย่าง
เคร่งครัด และรีบรับผู้ป่วยเข้ารักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการ

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้ นางพรรณพิมล หล่อตระกูล ตำแหน่งนาย
แพทย์ 9 วช.  (ด้านเวชกรรมสาขาจิตเวช)  ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเต็ม
เวลา มีกำหนดเวลา 4 ปี ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ  (6 พฤษภาคม 2546)  เป็นต้นไป  โดยไม่ได้รับเงิน
เดือนจากต้นสังกัด และผู้บังคับบัญชาต้องสั่งให้ออกจากราชการตามมติคณะรัฐมนตรี  (20  พฤษภาคม  2512)
ด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ รองปลัด
กระทรวงสาธารณสุข ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเต็มเวลาในตำแหน่งเลขาธิการสำนัก
งานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีกำหนดเวลา 4 ปี ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (6 พฤษภาคม 2546) เป็นต้น
ไป โดยไม่ได้รับเงินเดือนจากต้นสังกัด ซึ่งผู้บังคับบัญชาต้องสั่งให้ออกจากราชการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
20 พฤษภาคม 2512

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2546  และผลการดำเนินการ
กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข    โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟู
สมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด จากรายงานทั้งสิ้น 75 จังหวัด ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้ง
สิ้น 21,196 ราย  โดยสถานบำบัดที่ให้การบำบัดมากที่สุด คือ ในระดับ PCU/สถานีอนามัย  รองลงมาคือ  ระดับ
โรงพยาบาลชุมชน   ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป   สังกัดกรมสุขภาพจิต   และสังกัดกรมการแพทย์
ตามลำดับ ส่วนวิธีการบำบัดรักษาแยกเป็นบำบัดในชุมชน 13,549 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 7,376 ราย  และวิธีผู้ป่วย
ใน 271 ราย สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดในชุมชนบริการสูงสุด  คือ  ระดับ PCU/สถานีอนามัย  วิธีผู้
ป่วยนอกบริการสูงสุดมากที่สุด คือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน  และวิธีผู้ป่วยในบริการสูงสุดโดยสถานบริการสังกัด
กรมสุขภาพจิต ลักษณะการบำบัดของผู้รับการบริการ เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ  20,965  ราย  โดย
การบังคับบำบัด  231  ราย  ทั้งนี้  การบำบัดโดยการสมัครใจบริการสูงสุด  คือ  ระดับ PCU/สถานีอนามัย  และ
การบังคับมารับบริการสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน  สำหรับผลการดำเนินการกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยว
ข้องกับยาเสพติดในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข (ครั้งที่ 9)  มีจำนวน  21  ราย  เป็นข้อมูลจากกระทรวงมหาด
ไทย  14  ราย  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดรายงานเพิ่มเติม  9  ราย  เสียชีวิต  1  ราย  และไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของ
กระทรวงสาธารณสุข 1 ราย ซึ่งผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พบว่า มีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 8 ราย มีหลักฐานไม่
เพียงพอแต่สงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2 ราย  ไม่พบพฤติกรรมว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 9 ราย  และ
ไม่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2 ราย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอขอสนับสนุนงบประมาณในการ
ดำเนินการป้องกันโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง วงเงิน 88,190,000 บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546  งบกลาง  รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  และให้ขอตกลงใน
รายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป   ทั้งนี้  ค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอขอมาสูงกว่า
อัตราการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2544
นั้น  ให้กระทรวงสาธารณสุขขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเป็นกรณีพิเศษต่อไป  ตามความเห็นของสำนัก
งบประมาณ

           คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้ (1) เห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอโครงการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาล
หัวหินให้เป็นศูนย์อุบัติเหตุและศูนย์โรคหัวใจ (Excellent Center) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-2550 และที่รัฐมนตรีว่า
การกระทรวงสาธารณสุขเสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายขนาดของโรงพยาบาลหัวหิน จาก 90 เตียง เป็น 200 เตียง
เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้มีนโยบายให้โรงพยาบาลหัวหินทำหน้าที่เป็นโรงพยาบาลศูนย์เฉพาะทางตามโครง
การสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรคในเขตพื้นที่ภาคกลางตอนล่างอีกทางหนึ่งด้วย  รวมไปถึงอัตรากำลังที่จะ
ปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลหัวหิน ซึ่งนอกเหนือจากบุคลากรเดิม และที่จัดเพิ่มเติมในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว
ยังได้ประสานขอความร่วมมือเพื่อเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนปฏิบัติหน้าที่   โดยอัตรา
กำลังของโรงพยาบาลหลังจากที่ได้เกลี่ยอัตรากำลังในสังกัดแล้ว   ยังคงจำเป็นต้องขออนุมัติอัตราตั้งใหม่อีก  จำนวน 
150 อัตรา ประกอบด้วย ข้าราชการ 105 อัตรา  และลูกจ้างประจำ 45 อัตรา  ทั้งนี้  ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัด
ดำเนินการเพื่อให้พร้อมให้บริการสำหรับภารกิจเร่งด่วนได้โดยเร็วที่สุด   และหากมีข้อขัดข้องที่เกี่ยวกับระเบียบหรือ
กฎเกณฑ์ในการดำเนินงานให้หารือกับรองนายกรัฐมนตรี  (นายวิษณุ   เครืองาม)  (2)   เห็นชอบในหลักการตาม
ความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลหัวหิน ฯ  โดยมีระยะเวลาใน
การดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-2550 ในวงเงินรวมทั้งสิ้น  660  ล้านบาท  โดยงบประมาณดำเนิน
การในระยะที่ 1 วงเงิน  96,323,300  บาท  ให้ใช้จ่ายจากงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2546  งบกลาง  รายการเงิน
สำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง สำหรับงบประมาณ
ดำเนินการในระยะที่ 2 และ 3 วงเงิน 563,677,000 บาท  ให้ใช้จ่ายจากเงินกองทุนประกันสุขภาพแห่งชาติในส่วน
ของงบลงทุนที่กำหนดไว้สำหรับพัฒนาศูนย์บริการตติยภูมิ  (Excellent  Center)  มาดำเนินการ  หากไม่เพียงพอก็
ให้เสนอขอตั้งงบประมาณประจำปีสนับสนุนตามความจำเป็นต่อไป  และ  (3)  อนุมัติในหลักการให้เพิ่มอัตรากำลัง
สำหรับการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลหัวหิน ฯ  จำนวนรวม 150 อัตรา  โดยให้กระทรวงสาธารณสุขขอทำความ
ตกลงกับสำนักงาน ก.พ. และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการประชุม  Special  ASEAN+3  and
Hong Kong Health Ministers Meeting  On  Severe  Acute  Respiratory  Syndrome  (SARS)  ระหว่างวันที่ 25-26
เมษายน 2546 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยการประชุมดังกล่าวแบ่งออกเป็น  2  ช่วง ดังนี้ (1) การ
ประชุม Senior Officers and Health Minister Special Meeting on SARS ในวันที่ 25 เมษายน 2546  ที่ประชุมได้มี
การนำเสนอสถานการณ์และการดำเนินการของประเทศที่เข้าประชุม ซึ่งในส่วนของประเทศไทยกล่าวถึงการดำเนิน
การทางด้านการป้องกัน และควบคุมอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันการเกิด Local transmission  นอกจากนี้ ที่ประชุม
ได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางในประเด็นสำคัญ  ได้แก่  การสนับสนุนให้มี  Pre-departure  screening  แก่ผู้เดิน
ทางระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่โรคในยานพาหนะระหว่างเดินทาง  และไม่สร้างภาระให้แก่ประเทศที่รับผู้
เดินทาง   กับเพิ่มเติมประเด็นในส่วนของแรงงานที่ทำงานอยู่ใน SARS Affected areas จะต้องได้รับการปฏิบัติด้าน
การป้องกันโรคอย่างเท่าเทียมกันกับประชาชนในประเทศเหล่านั้น  โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ  รวมทั้งการบรรจุ Joint
statement  ลงในรายงานการประชุม  เพื่อให้ที่ประชุมเห็นชอบในการประชุมวันที่ 26 เมษายน 2546  ต่อไป  และ
(2) การประชุม Health Minister Meeting on SARS ในวันที่ 26 เมษายน 2546  ที่ประชุมได้มีการเสนอประเด็นที่
สำคัญ  ได้แก่  การเสนอให้ WHO review classification ของ SARS-AFFECTED COUNTRIES ใหม่ เนื่องจากปัจจุบัน
มีผู้เดินทางเป็นจำนวนมาก  ประเทศที่เป็นศูนย์กลางทางการบิน  Airport hub  อาจได้รับผลกระทบจากผู้โดยสาร
ที่ Transit  ซึ่งต้องเปลี่ยนผ่านเครื่องบิน  การใช้  Pre-departure screening  ในการลดการแพร่กระจายของ SARS
การกรอก  health declaration forms  สำหรับผู้เดินทางซึ่งมาจากประเทศ  SARS-AFFECTED  AREAS  การเสนอ
แบบฟอร์มตัวอย่างการรายงานผู้ป่วยของสิงคโปร์   และการร้องขอให้ไทยเป็นผู้ประสานงานในการจัดตั้ง  ASEAN
EPIDEMIC NETWORK เพื่อเป็นเครือข่ายในการพัฒนาบุคลากรทางด้านการเฝ้าระวังโรคทางระบาดวิทยา นอกจาก
นี้  ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบกับ  Joint  statement  และจะนำเข้าสู่การเห็นชอบในการประชุม Special Meeting
of ASEAN Summit Leader ที่กรุงเทพ ฯ ในวันที่ 29 เมษายน 2546

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยศูนย์ปฏิบัติการโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน
รุนแรง รายงานสรุปสถานการณ์และการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง  สรุป
ได้ดังนี้ (1) สถานการณ์โรคในต่างประเทศ  จากรายงานขององค์การอนามัยโลกตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2545
ถึงวันที่ 26 เมษายน 2546  มีรายงานผู้ป่วยทั่วโลกขณะนี้มีจำนวน 4,836 ราย เสียชีวิต 293 ราย  โดยมีการเพิ่ม
ขึ้นของผู้ป่วยใหม่ 190 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 19 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มอยู่ในประเทศแคนาดา 3 ราย จีน 7
ราย ฮ่องกง 6 ราย  ฟิลิปปินส์ 1 ราย  และสิงคโปร์  2  ราย  (2)  สถานการณ์โรคในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 11
มีนาคม 2546 จนถึงวันที่ 27 เมษายน 2546  ได้รับแจ้งผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ  (ที่สมควรได้รับการสอบ
สวนโรค)  จากโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ จำนวน  174  ราย  เสียชีวิต  2  ราย   และจนถึงขณะนี้ 
ไม่พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อในประเทศ  และยังไม่มีการแพร่ระบาดในชุมชน  (3)  สรุปความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรค  SARS
ขณะนี้สามารถแยกเชื้อและค้นพบสารพันธุกรรมของ  Corona virus  รวมทั้งวิธีการตรวจหาการติดเชื้อ  และ  (4) 
มาตรการและผลการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข ได้มีมาตรการพิเศษหลายประการในอันที่จะป้องกันไม่
ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคในประเทศ  โดยมาตรการสำคัญที่ได้มีการดำเนินงานอย่างเข้มงวด   คือ   การเฝ้า
ระวังค้นหาผู้ที่มีอาการสงสัยว่าอาจป่วยเป็นโรคให้ได้โดยเร็วทั้งในผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและในหมู่คนไทย
ให้การดูแลผู้สงสัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้ออย่างเคร่งครัด  และรีบรับผู้ป่วยเข้ารักษาตั้งแต่เริ่มมีอาการ  อนึ่ง เมื่อ
วันที่  26  เมษายน  2546  ที่ผ่านมาได้มีการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออก
เฉียงใต้  (อาเซียน)  ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อเสนอร่วมกันในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค   หนึ่งใน
ข้อเสนอดังกล่าวคือ     การขอให้ประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบประสานเครือข่ายระบาดวิทยาในการเฝ้าระวังและ
ควบคุมโรค SARS  ของภูมิภาคอาเซียนนี้   โดยข้อเสนอเหล่านี้จะได้รับการนำขึ้นพิจารณาและให้ความเห็นชอบ
ในการประชุมผู้นำอาเซียน ในวันที่ 29 เมษายน 2546 ที่กรุงเทพมหานครด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 18-24 เมษายน 2546 และผลการดำเนินการกรณีเจ้าหน้า
ที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข   โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้
ป่วยยาเสพติด จากรายงานทั้งสิ้น 75 จังหวัด ซึ่งในช่วงดังกล่าวมีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 22,857 ราย
โดยสถานบำบัดที่ให้การบำบัดมากที่สุดคือ  ในระดับ PCU/สถานีอนามัย  รองลงมาคือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน
ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สังกัดกรมสุขภาพจิต และสังกัดกรมการแพทย์ ตามลำดับ ส่วนวิธีการ
บำบัดรักษา แยกเป็นบำบัดในชุมชน 14,828 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 7,631 ราย วิธีผู้ป่วยใน 398 ราย สถานบำบัด
ที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดในชุมชนมากที่สุด คือ ระดับ PCU/สถานีอนามัย วิธีผู้ป่วยนอกบริการสูงสุดมากที่สุด
คือ ระดับ PCU/สถานีอนามัย และวิธีผู้ป่วยในให้บริการสูงสุดโดยสถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต ลักษณะการ
บำบัดของผู้มารับการบริการ  เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ  22,167  ราย   โดยการบังคับบำบัด  690 
ราย ทั้งนี้ การบำบัดโดยการสมัครใจบริการสูงสุด  คือ   ระดับ  PCU/สถานีอนามัย และการบังคับมารับบริการ
สูงสุด คือ ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สำหรับผลการดำเนินการกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง
กับยาเสพติดในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข  (ครั้งที่ 8)  มีจำนวน 21 ราย  เป็นข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย 
14 ราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดรายงานเพิ่มเติม 9 ราย  เสียชีวิต 1 ราย  และไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของกระทรวง
สาธารณสุข 1 ราย ซึ่งผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พบว่า มีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 8 ราย มีหลักฐานไม่เพียงพอ
แต่สงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง 2 ราย ไม่พบพฤติกรรมว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด  8  ราย  ไม่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้อง  2 
ราย และอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง 1 ราย

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6  (คกก.6)  ที่
มีมติอนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุขปรับขยายโครงการจัดทำระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการบริหารข้อมูลข่าวสารด้าน
การเงิน  การคลัง  และข้อมูลของโรงพยาบาล  จากเดิม  โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป  92  แห่ง  เป็นโรง
พยาบาลทั่วประเทศ  816  แห่ง ได้  โดยให้กระทรวงสาธารณสุขทำความตกลงในรายละเอียดและวงเงินค่าใช้จ่าย
โครงการ  ฯ  กับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสำนักงบประมาณจะได้จัดสรรงบประมาณให้ตามความจำเป็น
ต่อไป ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเกี่ยวกับการดำเนินโครงการจัดทำ
ระบบคอมพิวเตอร์ ฯ  ดังกล่าว ควรพิจารณาใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายหลักในการเชื่อมโยงหน่วยงาน
ในสังกัดและใช้เทคนิค  Virtual Private Network  (VPN)  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ดียิ่งขึ้น สำหรับในส่วนของระบบสาร
สนเทศเพื่อการบริหาร ควรพิจารณาให้เป็น  Software  กลาง  เพื่อให้ส่วนราชการอื่น  ๆ  ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
และเนื่องจากโครงการนี้ได้จัดทำไว้เมื่อปี พ.ศ. 2543  จึงเห็นควรปรับกรอบเวลาของแผนการดำเนินงานและราย
ละเอียดโครงการให้สอดคล้องกับกรอบเวลา ขอบเขตของเป้าหมาย และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์  และการสื่อสาร
ที่เปลี่ยนไป   ตลอดจนขยายการเชื่อมต่อระบบสารสนเทศกับหน่วยงานภายนอก   รวมทั้งข้อสังเกตของ  คกก.6 
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย  ดังนี้  เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประโยชน์ที่สุด   กระทรวงสาธารณสุข
ควรนำโครงการนี้ไปเชื่อมโยงกับหน่วยงานภายนอกเพื่อให้ส่วนราชการอื่น ๆ ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน  นอกจากนี้
ควรสำรวจทรัพยากรที่ใช้ในโครงการ  ฯ   เพื่อประเมินความคุ้มค่า   ตลอดจนการนำผลงานในลักษณะเดียวกันนี้
ของหน่วยงานอื่นที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว   มาเป็นตัวอย่างในการดำเนินงานต่อไปของกระทรวงสาธารณ
สุขด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 6  ที่มีมติอนุมัติ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งนายประเวศ วะสี นายสมชัย ฤชุพันธุ์ นายวิจารณ์ พานิช นายเกษม วัฒนชัย
 นายดำรงค์ บุญยืน นายโสภณ สุภาพงษ์ นายสุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้ดำรงตำแหน่งมาครบกำหนด  2  ปี ตามวาระในวันที่
19 มีนาคม 2546 ทั้งนี้ ให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (22 เมษายน 2546) เป็นต้นไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 4 - 17 เมษายน 2546  และผลการดำเนินงานกรณีเจ้าหน้า
ที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งข้อมูลการบำบัดรักษาจากรายงานทั้งสิ้น  75  จังหวัด มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัด
รักษาทั้งสิ้น 29,831 ราย โดยสถานบำบัดที่ให้การบำบัดมากที่สุดคือในระดับ PCU/สถานีอนามัย  รองลงมาคือ
ระดับโรงพยาบาลชุมชน  ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป  สังกัดกรมสุขภาพจิต   และสังกัดกรมการ
แพทย์ตามลำดับ ส่วนวิธีการบำบัดรักษา แยกเป็นบำบัดในชุมชน 19,302 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 10,414  ราย  วิธี
ผู้ป่วยใน 115 ราย  โดยสถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดในชุมชนและวิธีผู้ป่วยนอกมากที่สุด คือ ในระดับ
PCU/สถานีอนามัยส่วนวิธีผู้ป่วยในให้บริการสูงสุดโดยสถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต  ลักษณะการบำบัดของ
ผู้มารับการบริการเป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ  29,009  ราย โดยการบังคับบำบัด  822  ราย  บำบัด
โดยการสมัครใจมารับบริการสูงสุดในระดับ  PCU/สถานีอนามัย   และการบังคับมารับบริการสูงสุดในระดับโรง
พยาบาลชุมชน      สำหรับผลการดำเนินงานกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในส่วนของกระทรวง
สาธารณสุข  (ครั้งที่ 7) พบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 21 ราย เป็นข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย 14 ราย
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด  9  ราย  โดยเสียชีวิต 1 ราย   และไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข 1 ราย
โดยผลการสอบสวนข้อเท็จจริง  พบว่า  มีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด  8  ราย  มีหลักฐานไม่เพียงพอแต่สงสัยว่าจะมี
ส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด2 ราย  ไม่พบพฤติกรรมว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2 ราย  ไม่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้อง 8 ราย
และอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง 1 ราย

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการตรวจสอบสถานที่ผลิตยาสัตว์ต้อง 
สงสัยว่าจะมีการลักลอบผลิตและขายยาสำหรับสัตว์ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดปทุมธานี  จังหวัดนนทบุรี 
และกรุงเทพมหานคร รวม 7 แห่ง โดยได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ดำเนินการตรวจสอบ
สถานที่ทั้ง 7 แห่ง  ผลการตรวจพบว่ามีสถานที่ซึ่งกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฯ  จำนวน 2
แห่ง  คือ  (1)  บริษัท ยูเนี่ยนแคสแทป จำกัด  ตั้งอยู่ที่อำเภอลำลูกกา  จังหวัดปทุมธานี  เป็นสถานที่ผลิตอาหาร
สัตว์   พบมียาปลอม  1  รายการ   ยาที่ทะเบียนตำรับยาถูกยกเลิก  5  รายการ    และยาที่ไม่มีทะเบียนตำรับยา
1 รายการ   มูลค่าสิ่งของที่กระทำความผิดประมาณ  3  ล้านบาท   ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ฟ้องร้องดำเนินคดี
บริษัท ฯ ในความผิดฐานขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาปลอม ขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา
และขายยาที่ทะเบียนตำรับยาถูกยกเลิก  ฝ่าฝืนมาตรา  12   และมาตรา  72(1)  (4)  (5)  แห่งพระราชบัญญัติ
ยา พ.ศ. 2510  ฯ  ตามลำดับ  และ (2) สถานที่เก็บผลิตภัณฑ์ของบริษัท  อินทิเกรท อกรีคัลเจอร์  จำกัด  ตั้งอยู่
ที่อำเภอลำลูกกา  จังหวัดปทุมธานี  ตรวจพบมีอาหารสัตว์   และยาสำหรับสัตว์ที่ไม่มีทะเบียนตำรับ  9  รายการ 
มูลค่าประมาณ  3  ล้านบาท  ซึ่งได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีบริษัท  ฯ  ในความผิดฐานผลิตและขายยาแผน
ปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต  ผลิตและขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา   ฝ่าฝืนมาตรา  12  และมาตรา  72(4) 
แห่งพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฯ ตามลำดับ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างอาหารสัตว์ที่พบส่งวิเคราะห์
คุณภาพที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อตรวจหายาแผนปัจจุบันอีก  16  รายการ    ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล
วิเคราะห์

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานสรุปสถานการณ์และการดำเนินงาน
ป้องกันและควบคุมโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (Severe Acute Raspiratory Syndrome : SARS) สรุป
ได้ดังนี้ (1) สถานการณ์โรคในต่างประเทศ  จากรายงานขององค์การอนามัยโลก ตั้งแต่วันที่  1  พฤศจิกายน
2545 ถึงวันที่ 21 เมษายน 2546  พบผู้ป่วยจาก 25 ประเทศ จำนวน  3,861  ราย  เสียชีวิต  217  ราย  ใน
จำนวนนี้มีอาการหายเป็นปกติแล้ว 1,873 ราย  โดยพื้นที่ที่องค์การ ฯ แจ้งเป็นพื้นที่ติดโรค  (Affected area)
ได้แก่ จีน เวียดนาม สิงคโปร์ และแคนาดา  (2) สถานการณ์โรคในประเทศไทย  กระทรวงสาธารณสุข  ได้รับ
แจ้งว่า  มีผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ  (ที่สมควรได้รับการสอบสวนโรค)  จากโรงพยาบาลภาครัฐและเอก
ชนทั่วประเทศ จำนวน 152 ราย  และติดตามสอบสวนผู้ป่วยที่เข้าได้กับนิยามโรคนี้ (Probable case) จำนวน
7 ราย เสียชีวิต 2 ราย ทุกรายเป็นผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรค  เป็นชาวต่างชาติ  4  ราย
ชาวไทย 3 ราย  โดยผู้ป่วยอีก 5 ราย ได้รับการดูแลอาการจนหายเป็นปกติและออกจากโรงพยาบาลทั้งหมด
แล้ว อนึ่ง มีผู้ป่วยที่สงสัย (Suspect case) อีกจำนวน 16 ราย เป็นชาวต่างชาติ 3 ราย ชาวไทย 13 ราย  ทั้ง
หมดมีประวัติการเดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรค  และได้รับการรักษาอาการจนทุเลาและกลับ
บ้านได้ คงเหลือเพียง  1  ราย ที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร  (3)  สรุปความรู้เพิ่มเติม
เกี่ยวกับโรค SARS โดยผลจากความร่วมมือของห้องปฏิบัติการจากทั่วโลก ขณะนี้ สามารถบ่งชี้ได้ว่าเชื้อไวรัส 
SARS  ที่เป็นสาเหตุของโรคนี้ เป็นไวรัสชนิดใหม่ในกลุ่ม  Corona virus  ปัจจุบันองค์การ ฯ  ร่วมกับนักวิทยา
ศาสตร์ในหลายประเทศกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาวิธีการตรวจหาเชื้อ (4) มาตรการและผลการดำเนินงาน
ของกระทรวงสาธารณสุข  ได้มีมาตรการพิเศษหลายประการในการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค
ในประเทศไทย  ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งประชา
ชน   แม้มาตรการต่าง ๆ  ที่กำหนดขึ้นจะก่อให้เกิดความไม่สะดวกและผลกระทบทางเศรษฐกิจ  แต่ได้ช่วยให้
ประเทศไทยคงสถานะประเทศที่ยังไม่มีการระบาดของโรค และเมื่อสถานการณ์โรคมีการปรับเปลี่ยนในทาง
ที่ดีขึ้น คาดว่า จะสามารถปรับมาตรการบางประการเพื่อความเหมาะสมต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6  (คกก.6)  ที่มี
มติอนุมัติเงินงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2546  จำนวน 77.965 ล้านบาท  เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ
จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีชีวภาพด้านการแพทย์และสาธารณสุข  สำหรับรายละเอียดค่าใช้จ่ายโครงการ  ฯ  ให้กระทรวง
สาธารณสุขทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง  ทั้งนี้  ให้กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสังเกตของ  คกก.6
ที่เห็นควรให้มีระบบเชื่อมโยงและบูรณาการระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย เพื่อ
เน้นมาตรฐานของสินค้า   ซึ่งในอนาคตการส่งสินค้าเกษตรสู่ต่างประเทศ   หากไม่มีคุณภาพจะถูกส่งกลับหมด และ
ถ้าสามารถเชื่อมโยงภารกิจของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ  กับโครงการพัฒนาชุดทดสอบ
จุลินทรีย์ปนเปื้อนอาหารจะสามารถยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรและอาหารของไทย  ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม - 3 เมษายน 2546 จากรายงานทั้งสิ้น 75 จังหวัด
ซึ่งในช่วงดังกล่าวมีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 39,928 ราย โดยสถานบำบัดที่ให้การบำบัดมากที่สุดคือใน
ระดับ PCU/สถานีอนามัย รองลงมา คือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สังกัด
กรมการแพทย์ และสังกัดกรมสุขภาพจิต ตามลำดับ  ส่วนวิธีการบำบัดรักษา แยกเป็นบำบัดในชุมชน 22,605 ราย 
วิธีผู้ป่วยนอก 17,110 ราย และวิธีผู้ป่วยใน  213  ราย  โดยสถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดในชุมชนมาก
ที่สุด คือ ในระดับ PCU/สถานีอนามัย  และวิธีผู้ป่วยนอกสูงสุดคือ  ระดับโรงพยาบาลชุมชน  สำหรับวิธีผู้ป่วยในให้
บริการสูงสุดโดยสถานบริการสังกัดกรมการแพทย์   ลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ  เป็นการมารับการ
บำบัดโดยสมัครใจ 39,005 ราย และโดยการบังคับบำบัด 923 ราย ทั้งนี้ การบำบัดโดยการสมัครใจมารับบริการ
สูงสุด คือ ในระดับ PCU/ สถานีอนามัย และการบังคับมารับบริการสูงสุดในระดับโรงพยาบาลชุมชน

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการปฏิบัติงานต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพ
ติดในส่วนของผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด  กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 21 - 27 
มีนาคม  2546   และรายงานผลการดำเนินงานกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับยาเสพติด  ข้อมูล  ณ  วันที่  28  
มีนาคม2546 สรุปได้ดังนี้ (1) ผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติดช่วงระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 
2545-27 มีนาคม 2546 จากรายงานทั้งสิ้น 71จังหวัด ของสถานบำบัดรักษายาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข 
ได้ให้การบำบัดรักษาผู้ป่วยทั้งสิ้น  260,678 ราย แยกวิธีการบำบัดรักษา โดยวิธีผู้ป่วยนอก 123,562 ราย การ
บำบัดในชุมชน 106,447 ราย และวิธีผู้ป่วยใน 14,333 ราย  ลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ เป็นการ
มารับการบำบัดโดยสมัครใจ 233,123 ราย และโดยบังคับ 8,843 ราย ส่วนผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถ
ภาพผู้ป่วยยาเสพติด  ช่วงระหว่างวันที่ 21 มีนาคม-27 มีนาคม 2546   มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษา  57,664 
ราย แยกเป็นวิธีการบำบัดรักษา โดยวิธีผู้ป่วยนอก 20,555 ราย  บำบัดในชุมชน  35,350  ราย  และวิธีผู้ป่วยใน
1,758 ราย  ลักษณะการบำบัดรักษาของผู้มารับการบริการ เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ 53,835 ราย
โดยการบังคับบำบัด 2,413 ราย  และผลการบำบัดรักษา  ณ  วันที่ 1 ตุลาคม 2545 ถึง 27 มีนาคม 2546  อยู่
ระหว่างการบำบัด 158,968 ราย  บำบัดครบกำหนด 45,838 ราย และบำบัดรักษาไม่ครบกำหนด 4,668 ราย  
และ (2) ผลการดำเนินการกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข มีจำนวน 
18 ราย โดยผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พบว่า  มีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 8 ราย  มีหลักฐานไม่เพียงพอแต่สงสัย
จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด  2 ราย สอบสวนแล้วไม่พบพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด  4  ราย  และไม่น่า
เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 4 ราย

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอสรุปสถานการณ์และมาตรการดำเนินงาน
ป้องกันและควบคุมโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (Severe Acute Respiratory Syndrome : SARS) โดยคณะ
รัฐมนตรีเห็นว่า โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS) เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่กำลังระบาดในประเทศใกล้
เคียงหลายประเทศ แม้ว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นเขตติดโรค  และได้เตรียมการป้องกันและแก้ไขในด้านต่าง ๆ ไว้แล้ว
ก็ตาม ขอให้กระทรวงสาธารณสุขติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง  รวมทั้งดำเนินการในด้าน
ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็นเหมาะสมตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2523 ต่อไป  และให้ส่วนราชการ
และหน่วยงานของรัฐดำเนินการตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข   ตลอดจนให้ความร่วมมือในเรื่องต่าง ๆ   ตาม
ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอต่อไปด้วย   สำหรับสถานการณ์และมาตรการดำเนินงานป้องกันและควบคุมโรคทาง
เดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง   (SARS)   สรุปได้ว่า  จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกตั้งแต่วันที่  1  พฤศจิกายน 
2545 ถึงวันที่  29  มีนาคม  2546   มีรายงานผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง  (SARS)  จาก 13
ประเทศ  จำนวน 1,550 ราย  เสียชีวิต 54 ราย   โดยเมืองและประเทศที่องค์การอนามัยโลกแจ้งเป็นพื้นที่ติดโรค
(Affected area) ได้แก่ จีน เวียดนาม สิงคโปร์ และแคนาดา  จากการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของโรค จนถึงขณะนี้
ไม่มีการยืนยันเชื้อที่เป็นสาเหตุของการระบาดครั้งนี้    เบื้องต้นสงสัยว่าน่ามาจากไวรัสในกลุ่ม Paramyxoviridae,
Corona  virus  การรักษาขณะนี้ยังไม่มีการรักษาเฉพาะโรค  นอกจากการรักษาตามอาการ   ในส่วนของประเทศ
ไทย กระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบการเฝ้าระวังและควบคุมโรคดังกล่าว  โดยมาตรการสำคัญที่ได้ดำเนินการมี
ดังนี้ (1) การติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์โรค (2) เร่งรัดการเฝ้าระวังโรคภายในประเทศ (3) เพิ่มมาตรการเฝ้า
ระวังโรคในกลุ่มผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด