ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1285 จากทั้งหมด 6221 หน้า แสดงรายการที่ 25681 - 25700 จากข้อมูลทั้งหมด 124410 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 25681 | ขอความเห็นชอบให้ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขพ้นจากตำแหน่ง | สธ | 16/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ในการประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๗ ให้นายสมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||
| 25682 | การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเดือนมหามงคล ธันวาคม 2557 และเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน | พณ | 16/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเดือนมหามงคล ธันวาคม ๒๕๕๗ และเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. จัดงานร่วมทำบุญปีใหม่ มอบความสุขแก่คนไทย น้อมใจถวายในหลวง ในวันที่ ๒๐-๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ณ เทศบาลนครนนทบุรี โดยจัดกิจกรรมถวายราชสักการะ และลงนามถวายพระพร ทำบุญตักบาตร จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การบริการต่าง ๆ กับประชาชน การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาถูก ๒. จัดงานลดราคาจำหน่ายสินค้าเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ในวันที่ ๒๔-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ รวม ๗ วัน โดยผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้ารายใหญ่ ห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ จัดกิจกรรมลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิด ทุกแผนก ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งร้านค้าส่งค้าปลีกรายย่อยในท้องถิ่นที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยลดราคาสินค้าสูงสุดร้อยละ ๗๐ ๓. Thailand Online Mega Sale 2015 ในวันที่ ๑๕-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และพันธมิตรจัดกิจกรรมผ่านเว็บไซต์ www.ThailandMegaSale.com เพื่อจำหน่ายสินค้าออนไลน์ในราคาพิเศษ ลดราคาสินค้าร้อยละ ๒๐-๙๐ ๔. Thai Commerce Store ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เป็นต้นไป โดยร่วมมือกับภาคเอกชนในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน และผลิตภัณฑ์จากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ www.thaicommercestore.com ๕. จัดงานเปิดระบบ “คลังข้อมูลทางการค้าของไทย” เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการภาคเอกชนในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลด้านภาษีศุลกากร กฎระเบียบและมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศของไทยได้ ณ จุดเดียว ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตก่อนจะเชื่อมโยง “คลังข้อมูลทางการค้าของไทย” ไป “คลังข้อมูลทางการค้าของอาเซียน” ๖. จัดกิจกรรมซื้อขายเพิ่มสภาพคล่องของขวัญปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป โดยตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยปรับเวลาเปิดตลาดให้เร็วขึ้นเป็น ๐๘.๐๐ น. และลดค่าธรรมเนียมลง ๑๕ บาท/สัญญา เพื่อเพิ่มปริมาณการซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ๗. จัดกิจกรรมมอบความสุขปีใหม่ด้วยบริการจากใจให้แก่ผู้ประกอบการ ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยขยายเวลาให้บริการการขอหนังสือรับรองเพื่อนำไปใช้ประกอบพิธีการศุลกากรได้ทันความต้องการของผู้ประกอบการ ๘. จัดหน่วยเคลื่อนที่ (Mobile Unit) และสนับสนุนค่าธรรมเนียมยื่นในการขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๕๗-กรกฎาคม ๒๕๕๘ โดยจัดหน่วยบริการให้คำปรึกษาแนะนำและรับคำขอจดทะเบียนและแจ้งข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาเคลื่อนที่ ในจังหวัดเป้าหมาย ๑๖ จังหวัด และสนับสนุนค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา
|
|||||||||||||||
| 25683 | ของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2558 ให้แก่ประชาชนของกระทรวงคมนาคม | คค | 16/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมรายงานว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดจัดเตรียมโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยมีของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๕๘ จำนวน ๖๙ โครงการ ดังนี้
๑. ด้านนโยบายและแผน จำนวน ๒ โครงการ ของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ๒. ด้านการขนส่งทางบก จำนวน ๓๓ โครงการ ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก จำนวน ๑๑ โครงการ กรมทางหลวง จำนวน ๑๑ โครงการ กรมทางหลวงชนบท จำนวน ๓ โครงการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จำนวน ๒ โครงการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำนวน ๓ โครงการ และบริษัท ขนส่ง จำกัด จำนวน ๓ โครงการ ๓. ด้านการขนส่งทางราง จำนวน ๖ โครงการ ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน ๔ โครงการ และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย จำนวน ๒ โครงการ ๔. ด้านการขนส่งทางน้ำ จำนวน ๑๘ โครงการ ประกอบด้วย กรมเจ้าท่า จำนวน ๓ โครงการ และการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำนวน ๑๕ โครงการ ๕. ด้านการขนส่งทางอากาศ จำนวน ๑๐ โครงการ ประกอบด้วย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน ๖ โครงการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน ๒ โครงการ และบริษัท ไทยสมาย์แอร์เวย์ จำกัด จำนวน ๒ โครงการ
|
|||||||||||||||
| 25684 | การมอบของขวัญให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการ | ศธ | 16/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงศึกษาธิการรายงานภาพรวมในการดำเนินการมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงศึกษาธิการได้จัดเตรียมของขวัญเพื่อมอบให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ของขวัญ “เรียนรู้...สู่อาชีพ” ประกอบด้วย ของขวัญ ๕ ชิ้น คือ (๑) ครูพระราชทาน...สัญญาณจากฟ้า (๒) กศน. ฝึกอาชีพให้ประชาชน (หนึ่งคนหนึ่งอาชีพ) (๓) อาชีวะ ซ่อม สร้าง เสริม ส่งสุข (๔) สัปดาห์อาชีวะเอกชน สร้างคน สร้างชาติ และ (๕) อุดมศึกษาสร้างความรู้ สร้างอาชีพ สร้างความสุขสู่ชุมชน โดยไม่ต้องของบประมาณเพิ่มเติม
|
|||||||||||||||
| 25685 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 16/12/2557 | ||||||||||||
|
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านการต่างประเทศ ๑.๑ ให้กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทำ Roadmap ในเรื่องที่เป็นการดำเนินการตามพันธกรณีกับองค์การระหว่างประเทศ เช่น กรณีการจัดส่งแผนปฏิบัติการงาช้างแห่งประเทศไทยไปยังสำนักเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) การส่งรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) เป็นต้น โดยระบุถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานผู้รับผิดชอบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง งบประมาณในการดำเนินงาน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และแผนการดำเนินงานในอนาคต ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการในเรื่องที่มีผลกระทบสำคัญและมีเงื่อนไขเวลาที่จำกัดก่อน เช่น การแก้ไขปัญหาเรือประมง ๑.๒ ให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดกลุ่มความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับแต่ละกลุ่มประเทศและประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น อาเซียน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น สาธารณรัฐประชาชนจีน สหรัฐอเมริกา สหพันธรัฐรัสเซีย รวมถึงประเทศหมู่เกาะต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการกำหนดแนวทางการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจและอื่น ๆ ในอนาคต ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบรายการสินค้านำเข้าเพื่อพิจารณาความจำเป็นและปริมาณในการนำเข้า รวมทั้งกำหนดมาตรการเพื่อจูงใจให้ลดการนำเข้ารายการสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อไป ๒.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาแนวทางในการแปรรูปยางเป็นผลิตภัณฑ์หรือใช้เป็นส่วนผสมต่าง ๆ เช่น พื้นลู่วิ่ง พื้นช่องทางจักรยาน พื้นสนามฟุตซอล เป็นต้น ทั้งนี้ ให้นำเสนอผลการพิจารณาต่อคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์ต่อไป ๒.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เกี่ยวกับการส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันและขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศในภูมิภาคอื่น และเมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๗ เกี่ยวกับการหาแนวทางการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าเพื่อการส่งออกให้สามารถรักษาคุณภาพความสดใหม่ให้คงอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะส่งเสริมการส่งออกกล้วยไม้ไทยให้เป็นที่แพร่หลายในตลาดต่างประเทศยิ่งขึ้น และรายงานผลความคืบหน้าให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนมกราคม ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||
| 25686 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 16/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๓๒/๒๕๕๗ วันพฤหัสบดีที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ และครั้งที่ ๓๓/๒๕๕๗ วันศุกร์ที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๗
|
|||||||||||||||
| 25687 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. ให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างกฎหมายใดที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยเป็นร่างกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาลหรือมีความจำเป็นเร่งด่วนให้เร่งดำเนินการ หากยังมีประเด็นต้องแก้ไขให้ดำเนินการในชั้นกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้มีกฎหมายในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ไปดำเนินการโดยให้ประสานคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... ไปพิจารณาความจำเป็นของการมีร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวก่อน เพื่อมิให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติและซ้ำซ้อนกับกฎหมายที่มีใช้อยู่แล้ว ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ๓. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||
| 25688 | ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ ซึ่งให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามสิ่งยั่วยุพฤติกรรมอันตราย พ.ศ. .... ไปพิจารณาความจำเป็นของการมีร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวก่อน เพื่อมิให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติและซ้ำซ้อนกับกฎหมายที่มีใช้อยู่แล้ว ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
|
|||||||||||||||
| 25689 | การแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัตืความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. 2535 (สำนักงานอัยการสูงสุด) | อส | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยมีองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ จำนวน ๑๗ คน ประกอบด้วยอัยการสูงสุดหรือรองอัยการสูงสุดที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานคณะกรรมการ และนายชัชชม อรรฆภิญญ์ เป็นกรรมการและเลขานุการ มีอำนาจหน้าที่พิจารณาแก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ. ๒๕๓๕ เพื่อให้สอดคล้องกับสนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องทางอาญาของภูมิภาคอาเซียน และมีหน้าที่ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ของร่างกฎหมายฯ ต่อผู้เกี่ยวข้องจนกว่าจะเสร็จสิ้นการพิจารณาของรัฐสภา และให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยดำเนินการภายในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าวได้ตามความเหมาะสม ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ ๒. กรณีส่วนราชการใดเห็นควรให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการใดให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||
| 25690 | การแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลฝ่ายไทย สถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) | ตช | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลฝ่ายไทย สถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยมีอำนาจหน้าที่ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๑๔๙/๒๕๕๒ ลงวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๒ และเพิ่มองค์ประกอบคณะกรรมการกำกับดูแลฝ่ายไทย โดยแต่งตั้งให้ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นกรรมการ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ โดยองค์ประกอบของคณะกรรมการฯ มี ดังนี้ ๑.๑ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานคณะกรรมการ ๑.๒ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กรรมการ ๑.๓ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กรรมการ ๑.๔ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน กรรมการ ๑.๕ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการ ๑.๖ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรรมการ ๑.๗ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กรรมการ ๑.๘ อธิบดีกรมศุลกากร กรรมการ ๑.๙ ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ กรรมการ ๑.๑๐ ผู้บัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรรมการ ๑.๑๑ ผู้อำนวยการบริหาร สถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศ กรรมการ/เลขานุการ ว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ๒. กรณีส่วนราชการใดเห็นควรให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการใดให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||
| 25691 | การตรวจสอบคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงสาธารณสุข) | สธ | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๑๑ คณะ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโดอีนแห่งชาติ ๑.๒ คณะกรรมการอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ๑.๓ คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาแพทย์ ๑.๔ คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาทันตแพทย์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาทันตแพทย์ ๑.๕ คณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาเภสัชศาสตร์ผู้ทำสัญญาการเป็นนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ๑.๖ คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการสารเคมี ๑.๗ คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ ๑.๘ คณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติ ๑.๙ คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุข ๑.๑๐ คณะกรรมการอำนวยการยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทย ๑.๑๑ คณะกรรมการบริหารยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทย ๒. กรณีส่วนราชการใดเห็นควรให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการใดให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||
| 25692 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงการต่างประเทศ) | กต | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการของกระทรวงการต่างประเทศ จำนวน ๔๙ คณะ จากจำนวน ๕๒ คณะ เนื่องจากคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง และคณะอนุกรรมการร่วมไทย-เมียนมา ด้านการพัฒนาชุมชน เป็นคณะกรรมการตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๙๑/๒๕๕๗ (เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายไทย และคณะกรรมการประสานงานร่วมระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายไทย ลงวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗) ส่วนคณะกรรมการดำเนินการเพื่อจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียนให้ยุบรวมกับคณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ เนื่องจากอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดำเนินการเพื่อจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียนเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการอาเซียนแห่งชาติ ๒. กรณีส่วนราชการใดเห็นควรให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการใด ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||
| 25693 | ผลการตรวจสอบคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) | กก | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติให้แต่งตั้งคณะกรรมการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้ ๑.๑ คณะกรรมการที่มีความสำคัญและจำเป็นต้องคงอยู่ ๑.๑.๑ คณะกรรมการบริหารโครงการเงินสนับสนุนจากการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อการพัฒนากีฬาของชาติ ๑.๑.๒ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ ๑๓ ๑.๑.๓ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ ๒๔ พ.ศ. ๒๕๕๐ และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ ๔ พ.ศ. ๒๕๕๐ ๑.๑.๔ คณะกรรมการอำนวยการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์เกมส์ ครั้งที่ ๑ ๑.๑.๕ คณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงในประเทศไทย ๑.๑.๖ คณะกรรมการวิชาชีพท่องเที่ยวแห่งชาติ (National Tourism Professional Board : NTPB) ๑.๑.๗ คณะกรรมการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพการท่องเที่ยว (Tourism Professional Certification Board : TPCB) ๑.๒ คณะกรรมการที่ขอปรับปรุงองค์ประกอบ ๑.๒.๑ คณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวถูกหลอกลวงในประเทศไทย ขอปรับปรุงองค์ประกอบในส่วนของประธานกรรมการ และรองประธานกรรมการ ๑.๒.๒ คณะกรรมการวิชาชีพท่องเที่ยวแห่งชาติ (National Tourism Professional Board : NTPB) ขอยกเลิกองค์ประกอบในส่วนของคณะกรรมการ รายชื่อลำดับที่ ๒๐ นางสาวมาลียา เครือตราชู ลำดับที่ ๒๑ นางพัชรี นนทศักดิ์ และลำดับที่ ๒๒ นางสาวพรชณิตช์ แก้วเนตร เนื่องจากทั้งสามลำดับ เป็นรายชื่อที่ชี้เฉพาะตัวบุคคล ซึ่งองค์ประกอบรายชื่อคณะกรรมการควรเป็นลักษณะหน่วยงานหรือองค์กร อีกทั้งรายชื่อทั้งสามลำดับได้สังกัดอยู่ในหน่วยงาน ลำดับที่ ๕ (กระทรวงศึกษาธิการ) อยู่แล้ว จึงเห็นควรยกเลิกองค์ประกอบรายชื่อทั้งสามลำดับ
|
|||||||||||||||
| 25694 | แต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | ยธ | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ว่าที่ร้อยตรี เชิดศักดิ์ จำปาเทศ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ ธันวาคม ๒๕๕๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||
| 25695 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (นางกนกทิพย์ รชตะนันทน์) | นร08 | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนางกนกทิพย์ รชตะนันทน์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||
| 25696 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 3 ราย) (1. นายจรูญ นราคร ฯลฯ) | วธ | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายจรูญ นราคร ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายดำรงค์ ทองสม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายกฤษณา คงคะจันทร์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||
| 25697 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (จำนวน 13 ราย) (1. นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ฯ) | กต | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างและสับเปลี่ยนหมุนเวียน จำนวน ๑๓ ราย ในจำนวนนี้เป็นการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำต่างประเทศ จำนวน ๑๐ ราย ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากประเทศผู้รับแล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต รัฐคูเวต ๒. นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ๓. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ๔. นายนรชิต สิงหเสนี ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายวีรชัย พลาศรัย ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ๖. นายอิทธิพร บุญประคอง ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ๗. นายกิตติพงษ์ ณ ระนอง ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และ ไอร์แลนด์เหนือ ๘. นายไกรรวี ศิริกุล ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี รัฐลิเบีย ๙. นายณรงค์ ศศิธร ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ๑๐. นายวิทวัส ศรีวิหค ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงาน ปลัดกระทรวง ๑๑. นายศุภร พลมณี ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงราบัต ราชอาณาจักรโมร็อกโก ๑๒. นายพิศาล มาณวพัฒน์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ๑๓. นายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา
|
|||||||||||||||
| 25698 | ร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) | นร | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เสนอร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
|||||||||||||||
| 25699 | รายงานสถานภาพ ภาพรวมด้านงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร07 | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. รับทราบรายงานสถานภาพ ภาพรวมด้านงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ จากงบประมาณทั้งสิ้น ๒,๕๗๕,๐๐๐ ล้านบาท จัดสรรแล้ว ๑,๖๑๓,๖๗๖.๓๙๗ ล้านบาท หรือร้อยละ ๖๒.๖๗ มีการลงนามสัญญาแล้ว ๕๙๙,๐๓๗.๐๔๐ ล้านบาท หรือร้อยละ ๒๓.๒๖ มีการเบิกจ่ายแล้ว ๕๕๐,๔๓๓.๗๓๓ ล้านบาท หรือร้อยละ ๒๑.๓๘ ทั้งนี้ แผนการใช้จ่ายงบประมาณไตรมาสที่ ๑ กำหนดไว้เป็นเงิน ๙๓๘,๕๕๒.๓๘๑ ล้านบาท มีการเบิกจ่ายแล้ว ๕๕๐,๔๔๓.๗๓๓ ล้านบาท หรือร้อยละ ๕๘.๖๕ ๑.๒ เงินกันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๗ รวมทั้งสิ้น ๓๒๕,๘๙๘.๐๗๐ ล้านบาท มีการลงนามสัญญาแล้ว ๑๒๐,๓๖๙.๖๓๙ ล้านบาท หรือร้อยละ ๓๖.๙๓ มีการเบิกจ่ายแล้ว ๕๒,๔๕๘.๕๙๘ ล้านบาท หรือร้อยละ ๑๖.๑๐ ๑.๓ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะ ๓ เดือน จากกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติทั้งสิ้น ๒๒,๙๙๙.๗๙๒ ล้านบาท ได้อนุมัติจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗ ที่กรมบัญชีกลางอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว จำนวน ๗,๗๑๗.๕๖๔ ล้านบาท และอนุมัติจัดสรรเงินกู้ไทยเข้มแข็งแล้ว จำนวน ๑๓,๕๖๑.๙๙๘ ล้านบาท รวมอนุมัติจัดสรรแล้ว จำนวน ๒๑,๒๗๙.๕๖๒ ล้านบาท หรือร้อยละ ๙๒.๕๒ ทั้งนี้ ผลการใช้จ่ายงบประมาณตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ณ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ในส่วนของงบกลางฯ มีการลงนามสัญญาแล้ว (ใบสั่งซื้อเหลื่อมปี) จำนวน ๑,๑๔๗.๘๘๓๔ ล้านบาท และเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว จำนวน ๑๗.๔๙๘๓ ล้านบาท คงเหลือยังไม่ลงนามสัญญา ๖,๕๕๒.๑๘๒๐ ล้านบาท ในส่วนของเงินสำรองจ่ายงบไทยเข้มแข็ง มีการลงนามสัญญาแล้ว (ใบสั่งซื้อเหลื่อมปี) จำนวน ๖๗.๔๔๗๕ ล้านบาท และเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว จำนวน ๑.๔๗๘๔ ล้านบาท รวมเบิกจ่ายแล้วทั้งสิ้น ๑๘.๙๗๖๖ ล้านบาท ๒. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐเร่งดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณ ทั้งนี้ หากมีปัญหาไม่สามารถดำเนินการเบิกจ่ายได้ ให้ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นต่อสำนักงบประมาณเพื่อรายงานคณะรัฐมนตรีต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) และสำนักงบประมาณร่วมกันรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณและความคืบหน้าในการดำเนินโครงการตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ให้คณะรัฐมนตรีทราบทุก ๑๕ วัน
|
|||||||||||||||
| 25700 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2557 เรื่อง การแก้ไขปัญหายางพาราตามมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2557 (โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง) | อก | 09/12/2557 | ||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ [เรื่อง การแก้ไขปัญหายางพาราตามมติคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๗ (โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง)] ในส่วนของข้อคิดเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับงบประมาณดำเนินการโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง ซึ่งเป็นผลการหารือร่วมกับสำนักงบประมาณและธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยขอแก้ไขเป็นดังนี้ ๑.๑ ให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ที่กระทรวงอุตสาหกรรมเห็นสมควร เป็นผู้สนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง ภายในกรอบวงเงิน ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ๑.๒ ให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นผู้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ ๓ ตามรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริง โดยกำหนดให้มีการจ่ายชดเชยดอกเบี้ยเป็นรายเดือน ตามลักษณะการประกอบธุรกรรมของธนาคาร ภายในกรอบวงเงินไม่เกิน ๓๐๐ ล้านบาท โดยให้ใช้จากเงินทุนที่เป็นสภาพคล่องของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ กระบวนการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยในโครงการฯ จะจ่ายเป็นรายเดือนตามที่เกิดขึ้นจริง โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องเปิดบัญชีออมทรัพย์/กระแสรายวันกับสาขาธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ที่ประสงค์จะรับเงินชดเชยดอกเบี้ย และกระทรวงอุตสาหกรรมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบปริมาณการเก็บสต็อกยางทุกวันสุดท้ายของเดือน เพื่อพิจารณาอนุมัติการชดเชยดอกเบี้ยในเดือนถัดไป ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะแจ้งข้อมูลรายละเอียดการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยของผู้ประกอบการให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทราบ เพื่อธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จะโอนเงินให้แก่ผู้ประกอบการที่เปิดบัญชีไว้กับสาขาธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ต่อไป ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงการคลัง [ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)] รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติในการจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการให้ชัดเจน โดยเฉพาะเอกสารหลักฐานประกอบการจ่ายเงิน อาทิ ตั๋วสัญญากู้เงิน ใบเสร็จรับเงินค่าดอกเบี้ย และระยะเวลาที่ผู้ประกอบการยางสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการฯ เป็นต้น รวมทั้งให้มีระบบการติดตามกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินงานโครงการฯ ให้ถูกต้องตามรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริง เกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นธรรมต่อไป นอกจากนี้ควรทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการให้รับทราบถึงกระบวนการ ขั้นตอนและระยะเวลาในการเบิกจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยคืนให้กับผู้ประกอบการ พร้อมทั้งวางระบบและกำกับดูแลให้การเบิกจ่ายเงินคืนเงินให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการฯ เป็นไปอย่างรวดเร็ว ตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||
.....
