คณะรัฐมนตรีมีมติ  อนุมัติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2530 เกี่ยวกับการอนุมัติ
ให้จัดตั้งศูนย์วิจัยจุฬาภรณ์  เป็นองค์กรหรือหน่วยงานภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์     โดยเพิ่มเงินอุดหนุนมูลนิธิ
จุฬาลงกรณ์เฉพาะในปีงบประมาณ 2533 จากที่ได้รับอนุมัติไว้เดิมจำนวน 20 ล้านบาท   เป็น 24.90 ล้าน
บาท  เพื่อสมทบกับงบประมาณปี 2530  และปี 2532 จำนวน 12 ล้านบาทและ 20 ล้านบาท  ตามลำดับ 
เป็นค่าก่อสร้างอาคารสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์หลังแรก  ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัย เสนอ 

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยดำเนินการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม 
(เขตอุตสาหกรรมส่งออก)    สำหรับอุตสาหกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ       และไม่กระทบกระเทือนต่อคุณภาพ
สิ่งแวดล้อมในบริเวณใกล้ท่าเรือน้ำลึกที่จังหวัดภูเก็ต   หรือบริเวณพื้นที่อื่นที่มีความเหมาะสมในจังหวัดภูเก็ตเป็น
อีกพื้นที่หนึ่ง     เนื่องจากรัฐบาลมุ่งพัฒนาให้จังหวัดภูเก็ต เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ ตามที่กระทรวง
อุตสาหกรรม  เสนอ    โดยให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  1  กันยายน  2530     ให้กระทรวงอุตสาหกรรม 
(การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)  พิจารณาจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม  (เขตอุตสาหกรรมส่งออก)  ในเขต
จังหวัดภูเก็ตได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการติดตามเร่งรัดและตรวจสอบผลการดำเนินงานเรื่องที่
คณะรัฐมนตรีมอบหมาย จำนวน 89 เรื่อง  ซึ่งส่วนราชการต่าง ๆ ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว 78
เรื่อง ยังคงค้างอยู่ในระหว่างการดำเนินการ  11  เรื่อง สำหรับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  1  มกราคม
2531-14 มิถุนายน 2531 มอบหมายให้รัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม  และคณะกรรมการต่างๆ รับ
ไปพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีมีทั้งสิ้น 43 เรื่อง และได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วจำนวน 14 เรื่อง
จึงยังคงค้างอยู่ในระหว่างดำเนินการอีก  29  เรื่อง       และโดยที่จะครบกำหนดติดตามเร่งรัดมติคณะ
รัฐมนตรีระยะ  6  เดือน  ในเดือนกรกฎาคม  2531    แต่เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาเมื่อ 29
เมษายน 2531   จึงเสนอบัญชีมติคณะรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่  1  มกราคม  2531 - 14 มิถุนายน 2531
จำนวน 29 เรื่อง ซึ่งคงค้างเดิม 11 เรื่อง รวมทั้งสิ้น 40 เรื่อง ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีราย
งาน

           คณะรัฐนตรีมีมติ  อนุมัติให้ยกเลิกการไปปฏิบัติงานของนาย ณัฐพล ขันไชย   รองศาสตราจารย์   
สำนักวิจัย   สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์   ซึ่งไปปฏิบัติงานที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม   กระทรวง
อุตสาหกรรม  ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ประจำโครงการบริการข้อมูลอุตสาหกรรมชนบท  เป็นเวลา 1 ปี 
นับตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์  2531  ตามที่ทบวงมหาวิทยาลัย  เสนอ

           คณะรัฐมนตรีมีมติ  ดังนี้
1. เห็นชอบ และอนุมัติให้ดำเนินการเกี่ยวกับการขอเปลี่ยนแปลงการใช้เงินกองทุนสงเคราะห์
เกษตรกรตามโครงการเร่งรัดพัฒนาสัตว์น้ำในพื้นที่ชลประทานภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกรมประมง 
ตามที่กระทรวงเกษตร  เสนอ  โดยให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2529  เปลี่ยนแปลงการ
ใช้เงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรจากการให้สินเชื่อไปจัดซื้อเครื่องจักรกลในการขุดบ่อปลา และเป็นค่า
ส่งเสริมเทคนิควิชาการ ในวงเงิน 14.7  ล้านบาท  ส่วนที่เหลือนำไปให้สินเชื่อแก่เกษตรกรในโครงการ
ต่อไป  
           2. ให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณรับไปตรวจสอบว่า การที่ส่วนราชการจะกู้ยืมเงิน
จากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรนั้น จะกระทำได้ตามกฎหมายหรือไม่เพียงใด แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรี
ทราบ

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ นายบุญมี พุกโพธ์ ข้าราชการครู  ตำแหน่งอาจารย์ 2 วิทยาลัยเทคนิค        
ประจวบคีรีขันธ์ กรมอาชีวศึกษา  ซึ่งไปปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ชำนาญ 3 ในสาขาออกแบบและสร้างอุปกรณ์       
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ฯ อยู่ปฏิบัติงานดังกล่าวต่อไปอีกมีกำหนด 2 ปี   ตั้งแต่       
วันที่ 1 มิถุนายน 2531  โดยให้ออกจากราชการ  และให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ   ตามที่ 
กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ

           คณะรัฐมนตรีมีมติ ให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2531 โดยให้ชะลอการพิจารณา
ในข้อ 3 เกี่ยวกับการอนุญาตให้รถยนต์รับจ้างสามล้อวิ่งข้ามเขตกรุงเทพมหานคร ของร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ ..   
(พ.ศ. ....)    ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์  พ.ศ.  2522    (การแก้ไขปัญหารถยนต์รับจ้างสามล้อใน
จังหวัดนนทบุรี) ตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาว่า 
ควรเพิ่มข้อความใด ในข้อ 1 ของร่างกฎกระทรวง ฯ เพื่อป้องกันมิให้มีการรับโอนหรือแจ้งย้ายรถยนต์สามล้อจาก
จังหวัดอื่นเข้ามาในจังหวัดนนทบุรี โดยให้รีบดำเนินการเป็นการด่วน

           คณะรัฐมนตรีมีมติ 
1. เห็นชอบให้จัดหาปุ๋ยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร สำหรับฤดูการผลิตปี 2531/2532  เฉพาะในช่วงนาปี  
(มิถุนายนถึงกันยายน 2531)  จำนวน 100,000 ตัน  ทั้ง 2 สูตร   ในราคาและการส่งมอบตามการพิจารณาของ
คณะทำงานจัดหาปุ๋ยโดยวิธีพิเศษ  เป็นกรณีเฉพาะราย  โดยมีเงื่อนไขให้จัดซื้อปุ๋ยนำเข้าจากต่างประเทศใหม่ที่มี         
คุณภาพถูกต้องตามมาตรฐาน
           2. ให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2531   โดยให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรเป็นผู้จัด  
หาปุ๋ยให้เป็นไปตามความต้องการของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร      และชุมนุมสหกรณ์การ  
เกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด โดยใช้เงินยืมจากกองทุน ฯ ทันทีเมื่อได้รับชำระหนี้
           3. ให้หน่วยงานจำหน่ายปุ๋ยของรัฐ จำหน่ายปุ๋ยในราคาทุนจากการจัดหาเป็นราาคาเดียวกันถึงพื้นที่   
ระดับอำเภอและต้องต่ำกว่าราคาท้องตลาด 
           4. ให้จัดสรรเงินจ่ายขาดจากกองทุน ฯ สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการขนส่งและการจัดจำหน่ายปุ๋ย  ให้     
แก่หน่วยงานจำหน่ายปุ๋ยของรัฐ ตามที่จ่ายจริงในอัตราไม่เกินตันละ 280 บาท
           5. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลังควบคุมดูแลการจัดหาและจำหน่ายปุ๋ยครั้งนี้    
ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยและถูกต้อง 
           6. ในปีต่อไปให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมเสนอแผนการจัดหาปุ๋ยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรต่อ 
คณะกรรมการกลางจัดหาปุ๋ยล่วงหน้า ให้ทันต่อความต้องการของเกษตรกร 
            

  
 

           คณะรัฐมนตรีมีมติ 1. รับทราบสถานะการรวมตัวของสถาบันฝึกอบรมสหกรณ์การเกษตรแห่งชาติ
เข้ากับสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย  และผลการเจรจาของกระทรวงการต่างประเทศกับประชาคมยุโรป     
ตามที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ
                     2. ให้การแก้ไขมติคณะรัฐมนตรี   เมื่อวันที่  16  กุมภาพันธ์  2531   ข้อ 2  ใน    
กรณีที่ประชาคมยุโรปให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเป็นบางส่วน     และให้ธนาคารเพื่อการเกษตร      และ   
สหกรณ์การเกษตรจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่ สถาบัน ฯ เป็นเงินปีละ 2.4 ล้านบาทต่อไป     จนกว่าสันนิบาต     
สหกรณ์แห่งประเทศไทยพร้อมที่จะรับภาระ       ส่วนจำนวนเงินที่ขาดในแต่ละปีให้สำนักงบประมาณจัดสรร    
เงินอุดหนุนให้แก่ สถาบัน ฯ  ปีละไม่เกิน 4 ล้านบาท      กับให้สันนิบาตสหกรณ์จัดสรรเงินอุดหนุนเพิ่มเติม      
และหากยังไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพิ่มให้ตามความจำเป็น    ทั้งนี้ ให้สถาบันฯ 
พิจารณาตัดทอนค่าใช้จ่ายลงให้เหมาะสมกับรายรับของแต่ละปีด้วย

           คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. อนุมัติการขอขยายเวลาการชำระค่าปุ๋ยต่อกระทรวงพาณิชย์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  
เสนอ   โดยให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรี  เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2530     ขยายการชำระค่าปุ๋ยของชุมนุมสหกรณ์ 
การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด   ให้แก่กระทรวงพาณิชย์ จากเดิม    เป็นให้ชำระภายในวันที่ 30 มิถุนายน  
2531        
           2. สำหรับการขอให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ชำระดอกเบี้ยให้แก่กระทรวง  
พาณิชย์ นั้น อนุมัติให้ใช้เงินจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรเป็นเงินจ่ายขาดเพื่อชำระดอกเบี้ยดังกล่าว 

           คณะรัฐมนตรีมีมติ
1. รับทราบรายงานผลการตรวจสอบผลขาดทุนจากการดำเนินงานตามโครงการรับซื้อข้าวโพด
เพื่อแทรกแซงตลาดในฤดูการผลิตขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เสนอ
           2. เห็นชอบให้ชดเชยผลขาดทุนจากการดำเนินงานตามโครงการรับซื้อข้าวโพด ฯ    ของ  อ.ต.ก.    
ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไว้           และตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้รับรองแล้วจำนวน  
7,193,023.45 บาท โดยอนุมัติให้หักจากเงินยืมที่ อ.ต.ก. จะต้องส่งคืนกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร 
           3. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งกำชับให้ อ.ต.ก. ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดไว้  
โดยเคร่งครัด     กับให้รับข้อสังเกตของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินไปดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว   แล้ว 
รายงานคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติคณะรัฐมนตรีมีมติให้เจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 
กรมที่ดินและกรมการปกครอง  กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรป่าไม้ ต้องแสดงสินทรัพย์ 
และหนี้สิน    ตามที่สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการเสนอ
โดยให้ตัดตำแหน่งปลัดอำเภอที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับที่ดิน      และป่าไม้ทุกตำแหน่งรวมทั้งการกำหนดให้แสดง 
สินทรัพย์และหนี้สินทุกสามปีออก      ส่วนการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชกฤษฎีกาและกฏกระทรวงให้สำนักงาน
ดังกล่าวรับไปดำเนินการยกร่าง และให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายมีชัย ฤชุพันธุ์) เป็นผู้ตรวจสอบ
ดูแลการยกร่างแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมมนตรีที่ว่าสำนักงาน
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ   จะเปิดซองแบบแสดงรายการ
สินทรัพย์และหนี้สินของเจ้าหน้าที่ของรัฐในกรณีที่มีเหตุจำเป็นอย่างอื่นได้ด้วยหรือไม่ไปประกอบการพิจารณา

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการ การแก้ไขปัญหาการสร้างทางเพื่อความมั่นคงในเขตพื้นที่
กองทัพภาค   และอนุมัติการก่อสร้างทางในเขตกองทัพภาคที่ 2  จำนวน 2 สายทาง  คือสาย บ้านแสงพา-
บ้านบ่อเหมืองน้อย (บ้านจัดตั้งใหม่) -บ้านนาเจริญ อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย และสาย บ้านนาปอ - บ้าน
จัดตั้งใหม่ 2 อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย และการปรับแผนการสร้างทางเพื่อความมั่นคงในเขตกองทัพ ภาคที่ 4 
รวม 2 ทาง คือ สายทาง บ้านบ่อน้ำร้อน 3 - ค่ายพักอดีต จคม.เขต 2 จังหวัดยะลา และสายบ้านหินลูกจ้าง - 
บ้านลาบู -บ้านตังกะเต็ง จังหวัดยะลา  โดยให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2529   โดยให้ปรับ
ระยะทางและมาตรฐานทั้ง 2 สายทางในเขตกองทัพภาคที่ 4 ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณ เรื่อง ค่าใช้จ่ายของคณะอนุญาโตตุลาการ 
และค่าใช้จ่ายของคณะเจ้าหน้าที่ฝ่าย   กระทรวงอุตสาหกรรม  ในการระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับค่าภาคหลวงปิโตรเลียม
เป็นเงิน 1,071,312.50 บาท   ให้จ่ายจากเงินอุดหนุนจากสัญญาและสัมปทานปิโตรเลียม    และอนุมัติงบประมาณ
รายจ่ายปี 2531  งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  ในวงเงินไม่เกิน 2,311,642.79 บาท  
ให้แก่   กระทรวงอุตสาหกรรม   สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของคณะที่ปรึกษากฎหมายเป็นกรณีพิเศษ    และให้กระทรวง-
อุตสาหกรรมถือปฏิบัติให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ที่กำหนดเพื่อมิให้เกิดขึ้นอีก       เนื่องจากกรมทรัพยากรธรณี
ทำสัญญาว่าจ้างที่ปรึกษากฎหมายในราคาที่สูงกว่าวงเงินค่าจ้างที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ 

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบหลักการ ของวิธีการขายน้ำตาลทรายดิบโควต้า ข.ไปต่างประเทศ
และสัญญาซื้อขายน้ำตาลทรายดิบที่ บริษัทอ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด ได้ปรับปรุงแล้ว ตามที่ กระทรวง-
อุตสาหกรรมเสนอ  เห็นชอบให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรี  เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2530  เปลี่ยนแปลงจำนวน
น้ำตาลทรายดิบโควต้า  ข.ที่โรงงานน้ำตาลจะต้องส่งมอบให้บริษัทอ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด   จากเดิม  
6 แสนเมตริกตัน  มากน้อยร้อยละ 5 เป็น 6 แสนเมตริกตันถ้วน       และอนุมัติในหลักการให้กระทรวง-
อุตสาหกรรม ออกหนังสือรับรอง (LETTER OF COMFORT) และให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่เสนอ กับให้  
กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำชับการปฏิบัติงานของบริษัทอ้อยและน้ำตาลไทยให้ระมัดระวัง โดยไม่ดำเนิน
-การใด ๆ ที่จะส่งผลผูกพันต่อรัฐบาลก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาเห็นชอบ

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบว่าไม่ได้กระทำการใด อันเป็นการฝ่าฝืนมติคณะรัฐมนตรี .และระเบียบ 
สำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ คือ ในส่วนของการประกวดราคากระทรวงยุติธรรมดำเนินการก่อนมติ  
คณะรัฐมนตรี 13 ตุลาคม 2530  ซึ่งดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุโดยถูกต้อง 
จึงไม่ฝ่าฝืนมติคณะรัฐมนตรี  (การเปลี่ยนแปลงข้อปลีกย่อยในการลดรายการจัดซื้อครุภัณฑ์)     กระทำโดย 
สำนักงบประมาณ       ไม่ได้เปลี่ยนสาระสำคัญจึงไม่ขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี       ประการสุดท้าย 
กระทรวงยุติธรรม   ไม่อนุมัติให้ขยายระยะเวลาก่อสร้าง  ซึ่งขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี จึงให้คงระยะ
เวลาก่อสร้างเดิม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เรื่องยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมนำเข้า
ซากสัตว์อย่างอื่นสำหรับนำเข้ามาผลิตอาหารสัตว์เพื่อการส่งออก  โดยอนุญาตให้มีการนำเข้าจากประเทศ
ที่ปลอดโรคระบาดสัตว์เท่านั้น รวมทั้งดูแลกวดขันในการควบคุมโรคติดต่อตลอดจน ไม่นำซากสัตว์อย่างอื่น
เข้ามาจำหน่ายในประเทศ

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้จัดซื้อเครื่องบินตามแผนการลงทุนระยะยาว 
(ปี2531-2535) ของบริษัทการบินไทย  โดยซื้อเครื่อง ดี ซี 10-30 อีอาร์ ลำที่ 3   และเครื่องโบอิ้ง 747-400 
จำนวน 2 ลำ  และให้กระทรวงการคลังกับบริษัทการบินไทยดำเนินการปรับแผนการตลาด  แผนการลงทุน และ 
แผนการเงินให้สอดคล้องกับการพัฒนาฝูงบินระหว่างประเทศ กลยุทธการตลาดและศูนย์กลางขนส่งทางอากาศ 
และให้กระทรวงการคลังจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสมกับโครงการตามแผนลงทุนฯ นี้      พร้อมทั้งให้การบินไทย
ปรับปรุงระบบวางแผนระยะยาวของบริษัทให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

คณะรัฐมนตรีมีมติให้แก้ไขมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 31 มีนาคม 2530 โดยตัดข้อความว่า  "และต่อไป
ต้องปฏิบัติตามระเบียบปกติ"    และอนุมัติในหลักการให้กระทรวงคมนาคม  (กรมทางหลวง) จัดซื้อครุภัณฑ์
ประเภทเครื่องมือสื่อสาร โดยระบุยี่ห้อโมโตโรล่าได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ตามที่เสนอโดยวิธีประกวดราคา 
และให้ดำเนินการต่อไปได้

 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้บริษัทการบินไทยได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2530    โดยให้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี   เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2509   ซึ่งอนุญาต
ให้ลาติดตามคู่สมรสได้ไม่เกิน 1 ปี เป็นการเฉพาะราย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ