ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การขอปรับโครงสร้างกองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (กองทุนย่อยกองที่ 1) | กค | 24/03/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี โดยยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๗ [เรื่อง การจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (SMEs Private Equity Trust Fund)] และคณะกรรมการที่แต่งตั้งตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ยกเว้นกองทุนย่อยกองที่ ๑ ที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยได้จัดตั้งแล้ว ให้ดำเนินการต่อไป โดยปรับปรุงโครงสร้างและหลักการกองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (กองทุนย่อยกองที่ ๑) ให้ลงทุนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises : SMEs)/วิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ที่มีศักยภาพสูงหรือที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐานในกระบวนการผลิตหรือให้บริการ หรืออยู่ในกลุ่มธุรกิจที่มีประโยชน์ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ ต้องเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ โดยร่วมลงทุนได้ไม่เกิน ๕๐ ล้านบาทต่อราย และร่วมลงทุนแต่ละรายไม่เกินร้อยละ ๔๙ ของทุนจดทะเบียนของกิจการ และให้มีคณะกรรมการพิจารณานโยบายการลงทุนทำหน้าที่กำหนดกรอบนโยบายการลงทุนและกำกับดูแลการลงทุนของกองทุนร่วมฯ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลัง (ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย) รับความเห็นและข้อเสนอแนะของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น (๑) การกำหนดวงเงินร่วมลงทุนไม่เกิน ๕๐ ล้านบาทต่อราย อาจทำให้เกิดความไม่ยืดหยุ่นในทางปฏิบัติ เพราะธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐานในการผลิตหรือให้บริการในบางอุตสาหกรรมใช้เงินลงทุนสูง และมีความเสี่ยงสูง แต่หากประสบผลสำเร็จก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศสูง ภาครัฐจำเป็นต้องช่วยแบ่งเบาความเสี่ยงบางส่วน ซึ่งอาจทำให้กองทุนร่วมฯ ต้องร่วมลงทุนสูงกว่า ๕๐ ล้านบาท จึงเห็นควรให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการพิจารณานโยบายการลงทุนในการพิจารณานโยบายการลงทุนในการกำหนดวงเงินการลงทุนให้เหมาะสมกับธุรกิจและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา (๒) คณะกรรมการพิจารณานโยบายการลงทุนควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือก SMEs ให้ชัดเจนและมีความโปร่งใส รวมทั้งควรมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนร่วมฯ เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง และ (๓) กลุ่มเป้าหมาย อาจพิจารณาร่วมลงทุนกับกิจการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโคโรนา (COVID-19) เช่น ธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่อง เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
.....