คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
               ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ เพื่อกำหนดให้มีสถานะเป็นกฎหมายกลาง กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาธารณะที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๔๑ (๑) และมาตรา ๕๙ รวมทั้งปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการให้มีความเหมาะสมเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาในประเด็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ให้นำข้อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติข้อมูลความมั่นคงของรัฐและความลับของทางราชการ พ.ศ. .... ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาเมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ มาประกอบการพิจารณาให้สอดคล้อง เหมาะสมกับหลักการตามรัฐธรรมนูญทั้งในเรื่องการตรวจสอบ ถ่วงดุล และบทลงโทษ รวมทั้งการคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชนด้วย และรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้แก่ (๑) บทนิยามคำว่า “ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ” ควรบัญญัติให้มีความชัดเจน ไม่ควรรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่บ่งบอกเกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัวของบุคคล อาทิ การศึกษา ฐานะการเงิน ประวัติสุขภาพ  และควรนำมาตรา ๕๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาเป็นหลักการในการกำหนดนิยาม (๒) บทนิยามคำว่า “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ...รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ นั้น อาจไม่สอดคล้องกับแนวทางการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจของภาครัฐและอาจเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของรัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัท (๓) บทนิยาม “หน่วยงานของรัฐ” ซึ่งรวมถึงส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ทำให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวราชการในกรณีที่มีลักษณะเป็นการก้าวล่วงถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับการดำเนินงานด้านนิติบัญญัติของวุฒิสภา (๔) องค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหา คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารที่มีปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นกรรมการสรรหา ซึ่งไม่สอคคล้องกับพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๙ และ (๕) หลักการเกี่ยวกับการให้สิทธิบุคคลต่างด้าวเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของทางราชการได้เช่นเดียวกับบุคคลสัญชาติไทย อาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐและความมั่นคง และ (๖) หลักการเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ให้ประชาชนต้องมีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ซึ่งแตกต่างจากระบบสากลที่จะต้องมีการเปิดเผยทุกรณีโดยไม่ต้องร้องขอและจะต้องระบุให้ชัดเจนว่าเรื่องใดจะไม่เปิดเผย จึงเห็นว่าไม่ควรกำหนดให้เป็นอำนาจของหน่วยงานของรัฐที่จะใช้ดุลพินิจพิจารณา ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
               ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
               ๓. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของกระทรวงการคลังและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบไปพิจารณาดำเนินการต่อไป