ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 32 | กต | 07/08/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๒ (32nd ASEAN Summit) เมื่อวันที่ ๒๗-๒๘ เมษายน ๒๕๖๑ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมีนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ ซึ่งสาระสำคัญของการประชุมฯ ได้เน้นย้ำความสำคัญของความเป็นหนึ่งเดียวของอาเซียน ความสามารถในการรับมือกับความท้าทายในด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่ ความสำคัญของแนวคิดอินโด-แปซิฟิก และการสร้างเครือข่ายเมืองอัจฉริยะของอาเซียน โดยประเทศไทยได้เสนอกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และชลบุรีเป็นเมืองอัจฉริยะนำร่อง นอกจากนี้ ยังมีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับด้านการเมืองระหว่างประเทศ ได้แก่ (๑) สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี (๒) สถานการณ์ในรัฐยะไข่ และ (๓) สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ รวมทั้งประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ การเร่งรัดการรวมตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเร่งเจรจาความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) ให้แล้วเสร็จ และสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกที่เหลือเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership : CPTPP) รวมถึงเน้นย้ำความจำเป็นของการเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ ๔ และการรับรองเอกสารผลลัพธ์ที่สำคัญของการประชุมฯ จำนวน ๓ ฉบับ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการประชุมไปปฏิบัติและติดตามผลการประชุมดังกล่าวต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น (๑) ประเด็นนวัตกรรม อาเซียนสามารถร่วมกันพัฒนาทักษะและนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Cybersecurity พร้อมไปกับการผลักดันด้าน Entrepreneurial และ Startup โดยประเทศไทยอาจเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการริเริ่มและผลักดันโปรแกรมการพัฒนาศักยภาพดังกล่าว โดยอาศัยงบประมาณจากองค์กรที่สนับสนุนทุนให้เลขาธิการอาเซียนเพื่อดำเนินการต่อไป (๒) การผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเร่งพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมผู้ประกอบการ Startup และยกระดับทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อรองรับรูปแบบงานในอนาคต (Future of jobs) รวมถึงการสร้างสมดุลระหว่างการรักษาความมั่นคงทางไซเบอร์และการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของผลกระทบเชิงลบที่จะเกิดขึ้นจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจดิจิทัล และ (๓) เร่งรัดการดำเนินงานตามแผนความร่วมมืออาเซียนบวกสาม โดยขยายความร่วมมือในสาขาอื่นที่มีความก้าวหน้าสูง อาทิ ความมั่นคงด้านน้ำ การป้องกันและบริหารความเสี่ยงจากภัยพิบัติ รวมทั้งเร่งเจรจาความตกลง RCEP เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
.....