ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 12/06/2561 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ
๑. ด้านสังคม ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๑ และ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาและผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินการของกระทรวงศึกษาธิการในช่วง ๓ ปีที่ผ่านมา ให้คณะรัฐมนตรีทราบทุก ๓ เดือน โดยให้รายงานความคืบหน้าดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้นเพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศพิจารณา ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป นั้น ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดการดำเนินการและรายงานผลการปฏิรูปการศึกษาในประเด็นต่าง ๆ เพิ่มเติมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ดังนี้ ๑.๑ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน เช่น ๑.๑.๑ ลดการบ้านนักเรียนเพื่อให้นักเรียนสามารถมีเวลาอยู่กับผู้ปกครองมากขึ้น และส่งเสริมให้มีการศึกษาค้นคว้าข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศหรือดิจิทัล มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ปกครอง เพื่อให้เกิดการวิเคราะห์และสามารถเตรียมข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในการอภิปรายในชั้นเรียนต่อไป ๑.๑.๒ เน้นการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุมีผล กล้าพูด กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม รวมทั้งปลูกฝังให้เกิดความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย และมีจิตอาสา ๑.๑.๓ มีแบบเรียนวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม และคุณธรรมเป็นการเฉพาะ ๑.๑.๔ ปรับปรุงหนังสือแบบเรียนให้แยกส่วนของแบบฝึกหัดออกจากหนังสือแบบเรียน เพื่อให้นักเรียนรุ่นหลังสามารถใช้หนังสือแบบเรียนต่อจากรุ่นก่อนได้ ๑.๑.๕ ทบทวนแนวทางการออกข้อสอบวัดผลการศึกษาในวิชาต่าง ๆ ให้เป็นข้อสอบในเชิงอัตนัยที่เน้นการคิดวิเคราะห์มากยิ่งขึ้น โดยอาจใช้วิธีการสอบเก็บคะแนนเป็นระยะ ๆ ร่วมด้วย เช่น สอบเก็บคะแนนภายหลังสิ้นสุดคาบเรียน สอบเก็บคะแนนประจำสัปดาห์ หรือประจำเดือน เพื่อลดภาระนักเรียนในการสอบปลายภาคการศึกษา เป็นต้น ๑.๑.๖ ทบทวนระบบการสอบวัดผลและการสอบคัดเลือกในทุกระดับชั้นให้เหมาะสม เช่น ความเหมาะสมของการจัดให้มีการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาในชั้นอนุบาล และแนวทางการดำเนินการคัดเลือกนักศึกษาเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาในปัจจุบัน เป็นต้น ๑.๒ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับครู เช่น ๑.๒.๑ พัฒนาครูโดยการจัดสรรวงเงินต่อหัวในการพัฒนาเพิ่มพูนความรู้ของครู (คูปองครู) ให้เหมาะสม ๑.๒.๒ ปรับปรุงแนวทางการประเมินครู โดยให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการจัดการเรียนการสอน รวมทั้งกำหนดให้ครูต้องปฏิบัติงานในด้านการเรียนการสอน หรือปฏิบัติงานให้แก่โรงเรียน และสถาบันการศึกษาเป็นหลัก ทั้งนี้ ให้พิจารณากำหนดค่าตอบแทนให้แก่ครูอย่างเหมาะสม ๑.๓ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ เช่น ๑.๓.๑ ระมัดระวังไม่ให้เกิดการทุจริตในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ เช่น การจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์และอุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอนต่าง ๆ การดำเนินโครงการอาหารกลางวัน เป็นต้น ทั้งนี้ ควรส่งเสริมให้มีการทำการเกษตรชุมชนเพื่อนำผลผลิตมาบริโภคเป็นอาหารกลางวันในโรงเรียนเสริมจากงบประมาณที่รัฐจัดสรรให้ด้วย ๑.๓.๒ เน้นการทำโครงการวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่สามารถนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติได้จริงหรือพัฒนาต่อยอดไปได้ ตามเป้าหมายการพัฒนาที่กำหนดไว้ ๑.๓.๓ ปรับปรุงโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการให้เหมาะสม เพื่อให้การบริหารงานภายในของกระทรวงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ๒. ด้านการบริหาราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๐ ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการปฏิรูปตำรวจจากการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ในแต่ละครั้ง เพื่อจะได้พิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และต่อมาเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๑ นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานความคืบหน้าการดำเนินการปฏิรูปตำรวจ โดยเฉพาะประเด็นที่อยู่ในความสนใจและเป็นความต้องการของประชาชนไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทุก ๆ ๓ เดือน เพื่อเสนอคณะกรรมการปฏิรูปประเทศพิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป นั้น ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการปฏิรูปตำรวจดังกล่าว โดยในระยะแรกควรพิจารณาแนวทางการปฏิรูปให้ครอบคลุมถึงการสร้างความสมดุลในการปฏิบัติภารกิจและใช้อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ทั้งในส่วนของศาล อัยการ และตำรวจ กระบวนการพิสูจน์หลักฐาน การทำสำนวนสืบสวนสอบสวน รวมทั้งกระบวนการปฏิบัติงานของหน่วยงานภายในของตำรวจ เช่น การบริหารงานจราจรที่กองบังคับการตำรวจจราจรต้องรับผิดชอบแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ร่วมกับสถานีตำรวจในพื้นที่ เป็นต้น ๒.๒ ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของตำรวจ เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น ควรให้มีการพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างการปฏิบัติงานให้เหมาะสม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษควรรับดำเนินการเฉพาะคดีพิเศษ ซึ่งเป็นไปตามกรอบวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งหน่วยงานเท่านั้น รวมทั้งควรพิจารณากำหนดสัดส่วนให้มีจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปปฏิบัติงานในหน่วยงานนี้อย่างเหมาะสมเท่าที่จำเป็น และมีบุคลากรอื่นที่มีความรู้และประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น งานตุลาการ กฎหมายระหว่างประเทศ การประสานงานกับต่างประเทศ/องค์กรระหว่างประเทศ เป็นต้น มาร่วมปฏิบัติงานในกรมสอบสวนคดีพิเศษด้วย
|
.....