ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 | กค | 28/05/2561 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี ๒๕๖๐ และเห็นชอบในหลักการและแนวทางการดำเนินการการลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี ๒๕๖๐ โดยผลการลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนฯ ปี ๒๕๖๐ ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนระหว่างวันที่ ๓ เมษายน ถึงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ มีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น ๑๔.๒ ล้านคน ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติทั้งสิ้น ๑๑.๔ ล้านคน (เป็นผู้สูงอายุ ๓.๖ ล้านคน และเป็นผู้พิการ ๓.๘ แสนคน) ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยปัจจุบันมีผู้รับบัตรสวัสดิการฯ แล้ว ๑๑.๑ ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ ๙๖ ของผู้ที่ผ่านคุณสมบัติทั้งหมด และมีรายการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการฯ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑ แล้ว ๒๗,๐๐๐ ล้านบาท สำหรับแนวทางการดำเนินการการลงทะเบียนเพิ่มเติมฯ เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนฯ ปี ๒๕๖๐ สามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมฯ ได้ โดยผ่านกลไกการดำเนินงานของโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ทั้งนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนฯ ปี ๒๕๖๐ ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติและไม่มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่สามารถมาลงทะเบียนในการลงทะเบียนเพิ่มเติมฯ ได้ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงบประมาณ และธนาคารแห่งประเทศไทยที่เห็นควรพิจารณาวิธีการลงทะเบียนและวิธีการตรวจสอบการลงทะเบียนที่เหมาะสม รวมถึงการอำนวยความสะดวกที่จะเอื้อต่อการเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว และเมื่อกระทรวงการคลังดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนเพิ่มเติม และได้จำนวนผู้ลงทะเบียนที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์แล้ว ให้ดำเนินการตามนัยมาตรา ๒๗ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ในโอกาสแรก แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง รวมทั้งควรประเมินจำนวนผู้ที่จะลงทะเบียนเพิ่มเติมและงบประมาณที่ต้องใช้ในเบื้องต้น ตลอดจนควรมีการติดตามผลภาระต่องบประมาณที่เกิดขึ้นจริงและผลสัมฤทธิ์ของโครงการลงทะเบียนฯ ปี ๒๕๖๐ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงโครงการลงทะเบียนฯ ปี ๒๕๖๐ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
.....