ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 26/09/2560 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ดังนี้
๑. ตามที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการนำการขับเคลื่อนการปฏิรูปการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment : SEA) มาใช้ประกอบการพัฒนาแผนงานหรือโครงการสำคัญของประเทศให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม นั้น มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนโดยเร็ว เพื่อให้สามารถกำหนดกรอบการบริหารจัดการพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศได้อย่างเหมาะสม และให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพัฒนาแผนงานหรือโครงการสำคัญเร่งด่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ๒. ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ รับทราบหนังสือบัญชีนวัตกรรมไทย ฉบับมิถุนายน ๒๕๖๐ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ และให้ทุกหน่วยงานนำไปใช้เป็นข้อมูลในการจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมให้ตรงกับความต้องการใช้งานของแต่ละหน่วยงานตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยอย่างน้อยให้แต่ละหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมในอัตราส่วนร้อยละ ๓๐ ของความต้องการใช้งานทั้งหมดของหน่วยงาน ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ต่อไป และให้สำนักงบประมาณติดตามและตรวจสอบการดำเนินการเรื่องนี้ให้เป็นไปตามแนวทางดังกล่าวด้วย นั้น ให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการดำเนินการเพื่อนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับภารกิจของหน่วยงานตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดซื้อพัสดุและครุภัณฑ์ของภาครัฐตามรายการในบัญชีนวัตกรรมไทย โดยให้เร่งรัดให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณติดตามและรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย ๓. ตามที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงคมนาคมพิจารณาความเป็นไปได้ในการใช้รถโดยสารประจำทางขนาดเล็กในการให้บริการการเดินทางแก่ประชาชนระหว่างกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงแทนการใช้รถตู้โดยสารที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย นั้น ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการรถตู้โดยสารเดิมดังกล่าวด้วย ๔. ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานในระดับท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสำรวจและรวบรวมข้อมูลความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนงาน/โครงการของรัฐบาลในระยะต่อไปที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่นั้น ๆ ทั้งนี้ ให้จัดทำสรุปข้อมูลความต้องการดังกล่าวเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายใน ๓ เดือน ๕. ในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการที่เป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบกำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานให้เป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ รวมทั้งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย ๖. เพื่อให้การขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการพัฒนาระบบ Big Data ของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีทิศทางเดียวกัน จึงให้ดำเนินการ ดังนี้ ๖.๑ ให้ทุกหน่วยงานภาครัฐสำรวจการนำดิจิทัลมาใช้ประโยชน์ในภารกิจของหน่วยงานและภารกิจเพื่อการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน แล้วรายงานต่อคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ ๖.๒ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม [สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)] เป็นเจ้าภาพในการรวบรวมข้อมูลจากส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวกับแนวทางการใช้ประโยชน์ Big Data ของทุกหน่วยงานจัดทำเป็นภาพรวมและแผนการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์เสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนการบูรณาการฐานข้อมูลกลางภาครัฐภายใน ๓ เดือน ๖.๓ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม [สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และสำนักงานสถิติแห่งชาติ] รับไปดำเนินการสร้างการรับรู้แก่ประชาชนผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ ให้รับทราบและเข้าใจถึงข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินการ การเข้าถึง ตลอดจนการใช้ประโยชน์ของดิจิทัลในด้านต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาล เช่น ด้านการเกษตร การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา การสาธารณสุข โดยให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน ๒ สัปดาห์
|
.....