ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ 1/2560 | นร11 | 26/09/2560 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่ประธานที่ประชุมได้มอบนโยบาย ดังนี้ (๑) ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนน้อมนำพระราชดำรัส สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ไปเป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษาให้เกิดผลเป็นรูปธรรม (๒) การดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ควรขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างน้อยภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ (๓) การจัดทำโครงการที่ขอใช้งบประมาณผูกพันในระยะยาว ขอให้ทุกส่วนราชการยึดหลักสำคัญ ได้แก่ การเชื่อมโยงทิศทางการพัฒนาประเทศตามร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ ปี และการตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ และ (๔) ประเด็นที่ต้องขับเคลื่อนสำคัญ เช่น การสื่อสารกับสังคมในเรื่องการจัดทำแผนกำลังคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ การพัฒนาระบบ E-Learning เพื่อสร้างระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับคนไทยทุกกลุ่ม และการร่วมมือกับสถานประกอบการเพื่อแปลภาษาที่ใช้ในการปฏิบัติงานให้เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาที่จำเป็นอื่น ๆ ในทุกโรงงานภายในสิ้นปีนี้ ๒. รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๔๘/๒๕๖๐ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา ลงวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๐ โดยมีองค์ประกอบคณะกรรมการฯ จำนวน ๑๒ ท่าน ๓. รับทราบความคืบหน้าการปฏิรูปการศึกษา และมอบหมายกระทรวงแรงงานประสานความร่วมมือกับสถานประกอบการในการส่งเสริมการพัฒนาทักษะภาษา และมอบหมายกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงแรงงานรวบรวมและจัดทำข้อมูลการผลิตและความต้องการกำลังคนให้ชัดเจน ๔. รับทราบการศึกษารูปแบบการจัดการศึกษาของบรูไนดารุสซาลาม ที่กำหนดจุดเน้นในการปฏิรูปการศึกษาใน ๖ เรื่องสำคัญ ได้แก่ (๑) การพัฒนาโครงสร้างหลักสูตร (๒) การขยายขอบข่ายการฝึกงาน (๓) การจัดระบบการให้บริการใหม่ (๔) การสร้างความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน (๕) การพัฒนาการสื่อสารและสร้างภาพลักษณ์ และ (๖) การยกระดับสภาพแวดล้อมในการฝึกอบรม ๕. เห็นชอบในหลักการของยุทธศาสตร์การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ สถาบันทางการแพทย์ และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในภาพรวมของประเทศในระยะยาว (๕-๑๐ ปี) ของกระทรวงสาธารณสุข และให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนการดำเนินงานในระยะ ๓ ปีแรก รวมทั้งให้รับความเห็นจากที่ประชุมไปปรับปรุงยุทธศาสตร์ฯ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป ๖. เห็นชอบในหลักการโครงการสนับสนุนนักเรียนทุนรัฐบาลทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระยะที่ ๔ ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรับความเห็นจากที่ประชุมไปพิจารณาปรับปรุง ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป และมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ. ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวบรวมข้อมูลนักเรียนทุนโครงการฯ ที่สำเร็จการศึกษาแล้ว จำนวน ๒,๙๐๐ ราย ที่มีรายละเอียดสาขาวิชาที่สำเร็จการศึกษา สถานที่ทำงาน และผู้ที่กำลังจะสำเร็จการศึกษาอีกประมาณ ๗๐๐ ราย เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากผู้รับทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้สำนักงาน ก.พ. รวบรวมข้อมูลแหล่งทุน ผู้รับทุนในภาพรวมของประเทศอย่างเป็นระบบ และพิจารณาเกี่ยวกับค่าตอบแทนนักวิจัยที่เหมาะสม และแนวทางการให้นักวิจัยสามารถไปทำงานวิจัยในภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับบุคลากรภาครัฐสร้างนวัตกรรมและผลงานวิจัยให้กับประเทศและสนับสนุนงานวิจัยในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น และสรุปผลการดำเนินการดังกล่าว แล้วนำเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อทราบ ๗. เห็นชอบในหลักการของโครงการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอุดมศึกษา เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก (ทุนพัฒนาอาจารย์) พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐ ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการจัดลำดับความสำคัญและจัดทำกรอบการจัดสรรในระยะ ๓ ปี และให้สำนักงาน ก.พ. ดำเนินการร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับทุนการศึกษาของหน่วยงานต่าง ๆ ในภาพรวมให้เป็นระบบ รวมทั้งสังเคราะห์ข้อมูลสาขาวิชาที่ผู้รับทุนสำเร็จการศึกษากับสาขาวิชาที่เป็นความต้องการของประเทศ โดยกำหนดรูปแบบการจ้างในระบบราชการให้ชัดเจน และกำหนดคุณวุฒิที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้การผลิตกำลังคนส่งผลกระทบต่ออัตรากำลังภาครัฐและเป็นภาระงบประมาณภาครัฐ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๑ ๘. เห็นชอบในหลักการของโครงการผลิตทันตแพทย์เพิ่มของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ระยะที่ ๒ เพื่อพัฒนาทันตสุขภาวะของประชาชน (ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔) และให้กระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนขอรับการสนับสนุนระยะเวลา ๓ ปี รวมทั้งให้พิจารณาร่วมกับสำนักงาน ก.พ. ในการกำหนดกรอบอัตรากำลังของข้าราชการที่เหมาะสมให้ได้ข้อยุติ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการว่า ผลิตแล้ว ต้องรักษาไว้ในสถานพยาบาลของรัฐให้ได้ ไม่ใช่ไปเอกชนหมด
|
.....