ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 27/06/2560 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านสังคม ให้กระทรวงแรงงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มต่าง ๆ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ประกอบกิจการที่ต้องใช้แรงงานในสาขาที่ขาดแคลน ให้สามารถจ้างแรงงานได้อย่างเหมาะสมและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการดำเนินโครงการต่าง ๆ ในความรับผิดชอบตามนโยบายของรัฐบาลให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยให้กำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างถูกต้อง รอบคอบ โปร่งใส เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และให้สร้างการรับรู้ให้ถูกต้องและทั่วถึงด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการพิจารณากำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตามแนวเส้นทางโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งต่าง ๆ เช่น รถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง รวมทั้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดการพิจารณายกร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๙ (เรื่อง แนวทางการนำที่ดินที่ได้จากการเวนคืนไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด) ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้การนำพื้นที่ตามแนวเส้นทางดังกล่าวไปใช้ประโยชน์เป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป ๒.๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้ทุกส่วนราชการที่มีความต้องการใช้ยางพาราสำรวจปริมาณความต้องการใช้ยางพาราภายในหน่วยงานให้ชัดเจน เพื่อจัดทำแผนสำหรับการเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อยางพารา โดยให้เร่งดำเนินการเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ยางพาราภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น นั้น ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาความเหมาะสมในการดำเนินโครงการขนาดเล็กในพื้นที่ต่าง ๆ โดยให้นำยางพารามาใช้ในการสร้าง/ซ่อมถนนในชุมชน และให้ประสานงานกับกระทรวงกลาโหม (กรมการทหารช่าง) เพื่อให้เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการดังกล่าว เพื่ออำนวยประโยชน์ในการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นทางคมนาคมได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓ เดือน ๒.๔ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดติดตามการดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล เช่น การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร แผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map) การยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร การพัฒนาความเข้มแข็งของสถาบันเกษตรกร การพัฒนาระบบส่งน้ำและกระจายน้ำ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วและสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนด้วย ๓. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๓.๑ ในการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานเรื่องต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาล ขอให้ส่วนราชการถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดให้เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓/๒๕๖๐ เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ลงวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๐ ที่กำหนดให้มีคณะกรรมการ ป.ย.ป. โดยมีคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ (บ.ย.ศ.) อยู่ภายใต้คณะกรรมการ ป.ย.ป. มีการจัดระดับความรับผิดชอบในการดำเนินการเพื่อการทำงานที่ประสานเชื่อมโยงกันเป็น ๓ ระดับ คือ ระดับหน่วยงานหรือกลุ่มงานที่เกี่ยวข้อง (กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) ระดับกำกับการบริหารราชการ (รองนายกรัฐมนตรี) และระดับบัญชาการ (คณะกรรมการ บ.ย.ศ.) และให้ปฏิบัติตามกรอบการทำงานของ บ.ย.ศ. ที่ให้ส่วนราชการเจ้าของเรื่องนำเรื่องที่มีปัญหาในทางปฏิบัติเสนอรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าวพิจารณา โดยอาจใช้กลไกคณะกรรมการและอนุกรรมการที่มีอยู่พิจารณาให้เป็นที่ยุติ เช่น คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน (กขป.) แต่หากยังมีเรื่องใดติดขัด ไม่สามารถแก้ไขปัญหาในระดับหน่วยงานหรือระดับกำกับการบริหารราชการดังกล่าวได้ จึงให้นำเรื่องเสนอคณะกรรมการ บ.ย.ศ. พิจารณาต่อไป ๓.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำแผนการดำเนินการด้านการปฏิรูปกิจการตำรวจ โดยให้ครอบคลุม ๖ ประเด็น ได้แก่ (๑) การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เช่น การถ่ายโอนภารกิจ (๒) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เช่น การสรรหาและระบบการฝึกอบรม ค่าตอบแทน และสวัสดิการเพื่อดำรงชีพอย่างมีศักดิ์ศรี การปรับปรุงการบริหารงานบุคคลและเส้นทางการเจริญเติบโต (๓) การปฏิรูประบบงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมาย (๔) การนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาสนับสนุนงานด้านการรักษาความปลอดภัย (๕) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เช่น การร่วมเป็นอาสาสมัคร และ (๖) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร ทั้งนี้ ให้นำเสนอแผนดังกล่าวต่อรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) พิจารณาก่อนนำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป นั้น ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการปฏิรูปกิจการตำรวจใน ๓ ด้านหลัก ดังนี้ (๑) ด้านองค์กร เช่น โครงสร้างองค์กร ระบบงาน ระบบงบประมาณ อำนาจหน้าที่ (๒) ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เช่น กฎระเบียบการปฏิบัติหน้าที่ การป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ระบบงานสอบสวน การบังคับใช้กฎหมาย (๓) ด้านบุคลากร เช่น ระบบการแต่งตั้ง/โยกย้าย ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลา ๙ เดือน โดยให้ศึกษาประเด็นปัญหาของทุกระบบภายใน ๒ เดือนแรก และปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในอีก ๔ เดือนถัดมา ในส่วน ๓ เดือนที่เหลือจะเป็นการสื่อสารและสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด และให้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการดังกล่าวต่อนายกรัฐมนตรีเป็นระยะด้วย ๓.๓ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีการกล่าวหาว่ามีการหาผลประโยชน์และการทุจริตในการดำเนินโครงการของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้มีผลการสอบสวนที่ชัดเจนภายใน ๑ เดือน ๓.๔ ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดประสานความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในการจัดหลักสูตรฝึกอบรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน แก้ไขปัญหายาเสพติดให้มีความพร้อมในการเผชิญเหตุที่อาจมีการขัดขืน ต่อสู้ และใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์ในการปิดล้อมและตรวจค้นที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและประชาชนในบริเวณใกล้เคียง
|
.....