ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 20/06/2560 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยกลุ่มเกษตรกรเพิ่มเติมตามความเหมาะสม โดยให้ใช้ฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐของกระทรวงการคลัง และฐานข้อมูลเกี่ยวกับการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่ดำเนินการผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและธนาคารออมสินมาใช้ประกอบการดำเนินการ ทั้งนี้ การกำหนดมาตรการดังกล่าวให้คำนึงถึงความสำคัญ ความจำเป็นเร่งด่วนของการให้ความช่วยเหลือ และให้ความช่วยเหลือตกถึงมือเกษตรกรได้โดยตรงและเป็นไปอย่างทั่วถึงด้วย ๑.๒ ให้ทุกส่วนราชการที่มีความต้องการใช้ยางพารา เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงกลาโหม กระทรวงสาธารณสุข สำรวจปริมาณความต้องการใช้ยางพาราสำหรับแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หรือใช้เป็นส่วนผสมต่าง ๆ ภายในหน่วยงานให้ชัดเจน เพื่อจัดทำแผนสำหรับการเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อยางพารา ทั้งนี้ ให้เร่งดำเนินการโดยด่วนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ยางพาราภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้น ๑.๓ ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน พิจารณากำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยให้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จากผลผลิตทางการเกษตรชนิดต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น เช่น การร่วมมือกับกระทรวงพลังงานเพื่อนำปาล์มน้ำมันไปใช้ในการผลิตไบโอดีเซลและส่งเสริมให้มีการใช้ไบโอดีเซลให้มากยิ่งขึ้น ๑.๔ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางการกำกับดูแลและบูรณาการการทำงานของศูนย์และสถาบันที่เกี่ยวกับการวิจัยในด้านต่าง ๆ ให้มีความเป็นเอกภาพ ลดความซ้ำซ้อนในการใช้จ่ายงบประมาณ ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงผลการดำเนินงานของศูนย์หรือสถาบันที่เกี่ยวกับการวิจัยในด้านต่าง ๆ ดังกล่าว ให้สามารถสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการที่รองรับนโยบาย Thailand 4.0 และ ๕ อุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve) ทั้งนี้ ให้ศึกษาแนวทางการดำเนินงานด้านการวิจัยของต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาประยุกต์ใช้เพื่อการนี้ และให้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีโดยด่วน ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจพิจารณาศึกษาแนวทางในการปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่และการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ให้มุ่งเน้นดำเนินงานในลักษณะของการเป็นผู้กำกับดูแล (Regulator) และให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทเป็นผู้ปฏิบัติ (Operator) แทน เพื่อลดภาระด้านการบริหารจัดการของรัฐวิสาหกิจและเป็นการสนับสนุนให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมให้มากขึ้น โดยให้พิจารณาแนวทางการดำเนินการให้เหมาะสม ครอบคลุมรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง และให้นำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีภายในเดือนกันยายน ๒๕๖๐ ๒.๒ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. กำกับติดตามการดำเนินการของส่วนราชการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยเฉพาะในส่วนงานบริการประชาชน ทั้งในด้านการลดขั้นตอนการดำเนินงาน ลดการใช้เอกสาร การลดการใช้ทรัพยากร รวมทั้งให้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้แทน ทั้งนี้ ให้กำหนดตัวชี้วัดที่สามารถแสดงผลการดำเนินการของส่วนราชการตามพระราชบัญญัติดังกล่าวที่ชัดเจน และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะด้วย ๒.๓ ให้ทุกส่วนราชการที่มีบุคลากรในสังกัดที่ได้รับการเสนอชื่อ/แต่งตั้งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ตามวาระ เช่น องค์การสหประชาชาติ องค์การโทรคมนาคมแห่งเอเชียและแปซิฟิก องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ เป็นต้น ดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรดังกล่าว โดยกำหนดตัวชี้วัดในประเด็นต่าง ๆ เช่น ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อประเทศชาติ และประชาชน ความสอดคล้องและสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐบาล การเผยแพร่ข้อมูล/ข้อเท็จจริง การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเทศไทยที่ถูกต้องแก่ต่างประเทศ ๒.๔ ให้รัฐมนตรีทุกท่านให้ความสำคัญในการลงพื้นที่เพื่อติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมายอันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนใช้โอกาสดังกล่าวในการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ภาคเอกชน และข้าราชการในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ถึงแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลเพื่อให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างข้าราชการในส่วนภูมิภาค ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ๒.๕ มอบรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับสำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรีพิจารณาแนวทางในการจัดให้มีการขึ้นทะเบียนกลุ่ม มูลนิธิ สมาคม องค์กรภาคเอกชนต่าง ๆ ที่มีการดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์ยื่นขอรับรองและจดทะเบียนการเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ให้ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถอ้างอิงและตรวจสอบการดำเนินงานของกลุ่มองค์กรดังกล่าวตามหลักสากลได้
|
.....