ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | รายงานการประเมินผลองค์การมหาชนตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2558 เรื่อง การทบทวนความจำเป็นในการมีอยู่ขององค์การมหาชน | นร12 | 20/06/2560 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอเพิ่มเติม
๑. ให้องค์การมหาชนที่มีผลการปฏิบัติงานที่บรรลุวัตถุประสงค์การจัดตั้ง มีผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพที่สอดคล้องและเหมาะสมกับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรร และมีธรรมาภิบาล จำนวน ๓๒ แห่ง คงเป็นองค์การมหาชนต่อไป ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ โดยไม่ให้มีการเพิ่มอัตรากำลังขึ้นอีก ๒. ให้องค์การมหาชนที่มีผลการปฏิบัติงานที่บรรลุวัตถุประสงค์การจัดตั้ง มีผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ และมีธรรมาภิบาล จำนวน ๓ แห่ง คงเป็นองค์การมหาชนต่อไป ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ โดยมีรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การมหาชนของแต่ละแห่ง ดังนี้ ๒.๑ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (สมศ.) โดยเปลี่ยนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๓ และแก้ไขในร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อไป ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) เห็นชอบด้วยแล้ว ๒.๒ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) โดยคงให้นายกรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๕ ตามเดิม ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) เห็นชอบด้วยแล้ว ทั้งนี้ ให้มีการพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมเกี่ยวกับรัฐมนตรีรักษาการในรอบการประเมินครั้งต่อไป ๒.๓ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) (สคพ.) โดยเปลี่ยนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๔ และแก้ไขในร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อไป ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เห็นชอบด้วยแล้ว ๓. ให้องค์การมหาชน จำนวน ๒ แห่ง คงเป็นองค์การมหาชนต่อไป แต่ต้องปรับบทบาทภารกิจ ปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน และแก้ไขในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การมหาชนให้เหมาะสม ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้ ๓.๑ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) ทั้งนี้ ไม่ให้มีการเพิ่มอัตรากำลังขึ้นอีก และให้พิจารณาปรับลดงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงานภายในองค์กรลงให้เหมาะสม โดยคงให้นายกรัฐมนตรีเป็นรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๖ ตามเดิม ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร) เห็นชอบด้วยแล้ว ๓.๒ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) (สบร.)ให้คงเหลือภารกิจสำคัญที่ต้องปฏิบัติ ๒ ภารกิจ ได้แก่ (๑) ภารกิจของอุทยานการเรียนรู้ และ (๒) ภารกิจของพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ และให้แยกศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบไปจัดตั้งเป็นสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) โดยให้เสนอคำขอจัดตั้งองค์การมหาชนตามขั้นตอนของสำนักงาน ก.พ.ร. ต่อไป และกำหนดให้องค์การมหาชนแห่งใหม่นี้มีภารกิจสนับสนุน และช่วยแก้ไขปัญหาด้านการออกแบบสินค้าและบริการของ SME ด้วย โดยควรเน้นการออกแบบให้เกิดมูลค่าสูงเพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และสังคม ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) เห็นชอบด้วยแล้ว ทั้งนี้ เมื่อแยกศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบออกไปแล้ว สบร. ต้องไม่เพิ่มอัตรากำลังและงบประมาณค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น ๔. ให้สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) (สพค.) และหน่วยงานภายในปรับเปลี่ยนสถานภาพ บทบาท ภารกิจให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานโดยให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ และงบประมาณของสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไปเป็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (องค์การสวนสัตว์) และศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบพระชนมพรรษา ไปเป็นของกระทรวงการคลัง (กรมธนารักษ์) ทั้งนี้ ให้ สพค. องค์การสวนสัตว์ และกรมธนารักษ์ดำเนินการตามมติคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน และแนวทางปฏิบัติที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ประธานกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน ได้หารือกับผู้เกี่ยวข้องแล้วเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๐ ให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
.....