ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 23/05/2560 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศไทยและประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก (Pacific Island Countries) ให้เกิดความยั่งยืนและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๑.๑ ให้กระทรวงพลังงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแนวทางการพัฒนาพลังงานชีวภาพ (Bioenergy) และแนวทางตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปส่งเสริม ให้ข้อมูล ความรู้ และความเข้าใจแก่ประชาชนของประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป ๑.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางและความเป็นไปได้ในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการประมงไทยเข้าไปประกอบธุรกิจประมง โดยเฉพาะการจับและแปรรูปสัตว์น้ำในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก เช่น สาธารณรัฐวานูอาตู สาธารณรัฐนาอูตู และสาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำผลผลิตจากประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกมาแปรรูปและพัฒนาให้เป็นสินค้าส่งออกของประเทศไทยต่อไปด้วย ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาตามกรอบอำนาจหน้าที่เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยกลุ่มต่าง ๆ ที่จะมีการจำแนกตามระดับรายได้ให้ได้รับรายได้เพิ่มขึ้นอย่างทั่วถึง โดยให้กำหนดเป้าหมายการดำเนินการให้ชัดเจน และบูรณาการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยใช้ข้อมูลการขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยที่เป็นปัจจุบันมาประกอบการพิจารณาดำเนินการให้เหมาะสม ถูกต้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อาจดำเนินการเรื่องการจัดหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย กระทรวงศึกษาธิการอาจดำเนินการเรื่องการส่งเสริมและให้โอกาสทางการศึกษาสำหรับผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินนโยบายในภาพรวมของรัฐบาลที่ต้องการให้การช่วยเหลือและยกระดับรายได้ของผู้มีรายได้น้อย ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้สอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามข้อมูลข่าวสารและความคืบหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Strategic Economic Partnership : TPP) และการเข้าเป็นภาคีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคของอาเซียน (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) และสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนตามความเหมาะสมต่อไป ๓. ด้านสังคม ให้กระทรวงแรงงานสำรวจข้อมูลภาวะการว่างงานของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาและเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงานเป็นครั้งแรกเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุของการว่างงาน และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาการว่างงานที่เหมาะสมต่อไป ๔. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ให้ทุกส่วนราชการติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ในหลายพื้นที่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๔.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยประสานไปยังหน่วยงานในพื้นที่ให้เตรียมการป้องกันปัญหาน้ำท่วมฉับพลันที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งเร่งสำรวจพื้นที่เสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน เช่น ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาที่อาจชำรุดและไม่แข็งแรงเพียงพอ และให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อประชาชน สำหรับพื้นที่ใดที่อาจเกิดภาวะน้ำท่วมขึ้น ให้ประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงศึกษาธิการ (สถาบันอาชีวศึกษา) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็วด้วย ๔.๒ ให้กระทรวงอุตสาหกรรมประสานขอความร่วมมือภาคเอกชนเพื่อพิจารณาให้การสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ที่มีความพร้อมในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม เช่น การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รถขนาดใหญ่เพื่อขนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ ๔.๓ ให้กระทรวงคมนาคมเตรียมความพร้อมในการสำรวจเส้นทางการจราจรที่อาจชำรุดเสียหายในช่วงที่มีฝนตกหนัก โดยให้จัดเตรียมบุคลากร เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด ๕. ให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบและปรับปรุงระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ที่อยู่ในความรับผิดชอบให้สามารถใช้งานได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้มีการกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งให้สามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดกฎหมายได้ ๖. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการร่วมกันรวบรวมงานวิจัยต่าง ๆ ที่สามารถนำไปต่อยอดการดำเนินการในเชิงพาณิชย์หรือนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ทำให้ไม่สามารถนำงานวิจัยดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้ และให้รายงานผลให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓ เดือน นั้น ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) และกระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดการดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าว และให้ร่วมกันรวบรวมผลงานหรืองานวิจัยที่ได้รับรางวัลชนะเลิศต่าง ๆ เช่น ผลงานจากการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมระดับโลก (The Intel International Science and Engineering Fair 2017 : Intel ISEF) เพื่อนำไปต่อยอดการดำเนินการในเชิงพาณิชย์หรือนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วย ๗. ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาจัดซื้อ/จัดหาครุภัณฑ์ที่ผลิตหรือใช้วัตถุดิบในประเทศก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อส่งเสริมภาคการผลิตในประเทศและเกิดการลงทุนในประเทศมากขึ้นต่อไป ๘. ในการจัดทำเอกสารเผยแพร่หรือสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ของส่วนราชการ ให้ทุกส่วนราชการพิจารณากำหนดรูปแบบการจัดทำและวิธีการเผยแพร่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงตรงตามเจตนารมณ์ของการจัดทำ
|
.....