ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 10/01/2560 | ||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านความมั่นคง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และขาดการควบคุม (Illegal Unreported and Unregulated Fishing : IUU) เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๑.๑ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๙ (เรื่อง สรุปผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ที่ให้ดำเนินการเพื่อขยายความร่วมมือด้านการทำประมงร่วมกับประเทศต่าง ๆ ให้มากยิ่งขึ้น เช่น สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เนการาบรูไนดารุสซาลาม ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๐ ๑.๒ ให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะแรงงานในกิจการประมงทะเลและแรงงานในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ ๑.๓ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบระบบติดตามเรือ (Vessel Monitoring System : VMS) หากพบปัญหาให้เร่งรัดดำเนินการแก้ไขเพื่อให้สามารถใช้การได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ๑.๔ ให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำน่านน้ำของเรือประมงให้มีความเหมาะสมโดยหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดข้อพิพาทกับต่างประเทศ ๒. ด้านเศรษฐกิจ ๒.๑ ตามที่กระทรวงคมนาคมได้เปิดการทดลองเดินเรือเฟอร์รี่เชื่อมอ่าวไทยตอนบน ระหว่างพัทยา-หัวหิน ไปแล้ว นั้น ให้กระทรวงคมนาคมกำกับติดตามการเดินเรือในเส้นทางดังกล่าวให้มีความปลอดภัยสูงสุด และเร่งรัดให้มีการนำเรือขนาดใหญ่มาใช้ในการเดินเรือ รวมทั้งให้พิจารณาเชิญชวนให้เอกชนรายใหม่มาร่วมดำเนินการเพื่อให้เกิดการแข่งขันในการให้บริการด้วย ๒.๒ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการปฏิรูปภาคการเกษตรให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๐ โดยเน้นการทำการเกษตรแบบแปลงใหญ่ การจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร การกำหนดมาตรการจูงใจให้มีการนำที่ดินว่างเปล่ามาใช้ประโยชน์ทางการเกษตร รวมทั้งให้เร่งรัดการจัดทำ “เกษตรประชารัฐ” ที่เน้นการทำการเกษตรที่มีสัญญาแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันที่เป็นธรรมระหว่างเกษตรกรและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ๒.๓ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมปลูกและดูแลรักษาป่า โดยอาจนำแนวทางประชารัฐมาใช้ในการดำเนินการ เช่น การสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ดูแลรักษาป่าควบคู่ไปกับการเพาะปลูกไม้โตเร็ว การกำหนดมาตรการจูงใจเพื่อให้ภาคเอกชนสนับสนุนการปลูกและดูแลรักษาป่าของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ ให้มุ่งเน้นการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ป่าที่เสื่อมสภาพ เช่น เขาหัวโล้น ๓. ด้านสังคม ๓.๑ ให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการปฏิรูปการศึกษาให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของนักเรียน นักศึกษาในแต่ละระดับให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปีข้างหน้า เช่น การเน้นการจัดการสะเต็มศึกษา (Science Technology Engineering and Mathematics Education : STEM Education) และความรู้ด้านภาษาอังกฤษ การปรับปรุงแบบเรียนและแบบทดสอบให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันโดยเพิ่มเรื่องจริยธรรมอยู่ในแบบทดสอบ การให้ครูผู้สอนที่มีศักยภาพถ่ายทอดความรู้ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสร้างสื่อการเรียนการสอนนำไปเผยแพร่ในโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล การพัฒนาระบบประเมินผลคุณภาพการศึกษาให้เทียบเท่าระดับสากล รวมทั้งการจัดทำเส้นทางการศึกษา (Education Path) เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้เป็นข้อมูลในการเลือกเส้นทางการศึกษาที่เหมาะสมกับตนเอง ๓.๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งรัดการดำเนินการจัดกลุ่มโรงเรียนสอนศาสนา เช่น โรงเรียนตาดีกา โรงเรียนปอเนาะ ให้เป็นระบบและครบถ้วนเพื่อให้ภาครัฐสามารถจัดสรรงบประมาณสนับสนุนแก่กลุ่มโรงเรียนดังกล่าวได้อย่างเหมาะสมและนำไปสู่การจัดการเรียนการสอนแก่ผู้เรียนที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นทั้งในส่วนของการสอนศาสนาและวิชาสามัญ ๔. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๔.๑ ตามที่ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ประสบอุทกภัยและทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ได้เร่งรัดดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว นั้น เพื่อให้การให้ความช่วยเหลือประชาชน รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันและการกำหนดมาตรการป้องกันในอนาคตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ๔.๑.๑ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) รับผิดชอบการกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยแบ่งเป็นการช่วยเหลือประชาชนตามความเร่งด่วนของสถานการณ์ การเตรียมการฟื้นฟูหลังน้ำลด และการกำหนดแนวทางการป้องกันอุทกภัยในอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อมิให้น้ำท่วมชุมชน สถานที่ราชการ และเส้นทางคมนาคม ๔.๑.๒ มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รับผิดชอบการกำกับดูแลการรับบริจาคสิ่งของจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยให้สร้างการรับรู้แก่ประชาชนให้ทั่วถึงด้วย ๔.๑.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชน เช่น การซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งสำรวจผังเมืองในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยที่มีลักษณะเป็นการกีดขวางทางระบายน้ำ ขุดลอกคูคลอง รวมทั้งเร่งรัดกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาผังเมืองเพื่อมิให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังอีกในอนาคต และประสานให้กรุงเทพมหานครเตรียมมาตรการรองรับน้ำท่วมในเขตกรุงเทพมหานครที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะต่อไป ๔.๑.๔ ให้กระทรวงคมนาคมสำรวจเส้นทางคมนาคมที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้ เช่น ถนนเพชรเกษม โดยเร่งรัดการซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ในการสัญจร รวมทั้งให้พิจารณาดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในอนาคต เช่น การปรับปรุง/เปลี่ยนแปลงเส้นทางคมนาคมที่กีดขวางทางระบายน้ำ การสร้างช่องทางระบายน้ำ (Box Culvert) โดยให้ดำเนินการในพื้นที่ที่สามารถดำเนินการได้ก่อนเป็นลำดับแรก ๔.๒ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงาน ก.พ. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทำโครงการในลักษณะที่เป็นการให้ทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษา ทั้งใน (ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก) และต่างประเทศร่วมกันบูรณาการการจัดสรรทุนการศึกษาให้ตรงกับความต้องการของประเทศโดยเฉพาะในสาขาที่ขาดแคลน นั้น ให้สำนักงาน ก.พ. เร่งรัดการดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าว โดยให้ความสำคัญกับทุนการศึกษาในสาขาที่ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ เช่น สาขาที่สอดคล้องกับ ๑๐ อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ สาขาที่สอดคล้องกับการส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมของประเทศ (ประเทศไทย ๔.๐) ให้พิจารณากำหนดแนวทางและมาตรการในการจูงใจให้ผู้ได้รับทุนการศึกษากลับไปทำงานในส่วนราชการหรือในภูมิลำเนาของตน โดยไม่โยกย้ายไปอยู่ส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น
|
.....