ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน - ญี่ปุ่น อย่างไม่เป็นทางการ | กห | 22/11/2559 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-ญี่ปุ่น อย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑. การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ ๑.๑ รัฐมนตรีกลาโหมประเทศสมาชิกอาเซียนได้เห็นพ้องกันว่า (๑) การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนได้รับการพัฒนาให้มีความก้าวหน้ามาเป็นลำดับ และเป็นกลไกหลักในการเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงในประชาคมอาเซียน (๒) ความท้าทายด้านความมั่นคงที่สำคัญในภูมิภาค ได้แก่ การแพร่ขยายของแนวคิดนิยมความรุนแรง การก่อการร้าย ความมั่นคงทางทะเล ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และความมั่นคงทางไซเบอร์ (๓) ความท้าทายดังกล่าวมีความสลับซับซ้อน มีลักษณะข้ามชาติ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และ (๔) กระทรวงกลาโหมประเทศสมาชิกอาเซียนควรร่วมมือกันและร่วมมือกับกระทรวงกลาโหมประเทศคู่เจรจาเพื่อพัฒนาศักยภาพในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโดยใช้ทั้งกลไกความร่วมมือที่มีอยู่และพัฒนากลไกใหม่ที่เหมาะสมบนพื้นฐานหลักการของอาเซียนและกฎหมายระหว่างประเทศ ๑.๒ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้เสนอแนวคิดในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ประเทศสมาชิกควรก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เน้นการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีความอยู่ดีกินดี และการให้บริการประชาชนทุกระดับอย่างเท่าเทียมกัน โดยยกตัวอย่างนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายประเทศไทย ๔.๐ และความร่วมมือของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน รวมทั้งการลงทุนในลักษณะ ๑+๑ ๑.๓ รัฐมนตรีกลาโหมประเทศสมาชิกอาเซียนได้ร่วมชมการสาธิตเครือข่ายการสื่อสารแบบเร่งด่วนครั้งที่ ๑ โดยผู้แทนกระทรวงกลาโหมบรูไนดารุสซาลาม เป็นผู้บรรยายและเข้าร่วมพิธีส่งมอบการเป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนให้กับกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ๒. การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-ญี่ปุ่น อย่างไม่เป็นทางการ ๒.๑ รัฐมนตรีกลาโหมประเทศสมาชิกอาเซียนมีความเห็นร่วมกันว่า อาเซียนและญี่ปุ่นอยู่ในสภาวะต้องเผชิญกับภัยคุกคามร่วมกัน โดยความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่นควรได้รับการพัฒนาให้มีความก้าวหน้าบนพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจและเน้นผลประโยชน์ร่วมกัน และกล่าวชื่นชมกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นในการดำเนินการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลไกด้านความมั่นคงในภูมิภาคที่มีอาเซียนเป็นแกนกลางเพื่อเสถียรภาพและความมั่นคงที่ยั่งยืนให้กับภูมิภาคต่อไป ๒.๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้กล่าวว่า ญี่ปุ่นให้ความสำคัญต่อการดำรงไว้ซึ่งสันติภาพในภูมิภาคและการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีด้วยการเจรจา และสนับสนุนความเป็นแกนกลางและความเป็นหนึ่งเดียวกันของอาเซียน รวมทั้งได้เสนอร่างวิสัยทัศน์เวียงจันทน์ ซึ่งระบุแนวทางการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมอาเซียนกับกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ประกอบด้วย การยึดถือหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ การเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล และการพัฒนาศักยภาพของอาเซียนในด้านต่าง ๆ เช่น บุคลากร ยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี เป็นต้น ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมอาเซียนกับกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นจะได้พัฒนาร่างวิสัยทัศน์ฯ และเสนอให้ที่ประชุมในกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนพิจารณาและให้การรับรองในปี ๒๕๖๐ ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ๒.๓ รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้กล่าวสนับสนุนความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับญี่ปุ่น โดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคงทั้งแบบดั้งเดิม และรูปแบบใหม่ รวมทั้งแนวคิดการพัฒนาที่สอดคล้องกันของทั้งสองฝ่าย และเห็นว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ มีความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สามารถให้การสนับสนุนประเทศสมาชิกอาเซียนได้ โดยเฉพาะในเรื่องอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการบรรเทาภัยพิบัติ นอกจากนี้ ได้หารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมิตรประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อพัฒนาความร่วมมือให้เกิดประสิทธิผลและมีความเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
|
.....